น้ำหอมกลิ่นทองคำ จาก Tiffany & Co.
ถ้าทองคำสีกุหลาบ หรือ Rose Gold ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในวงการเครื่องประดับ และอัญมณีชั้นสูงมีกลิ่น จะให้กลิ่นเป็นอย่างไร
เฌโรม เอปิแน็ตต์แห่งค่าย Robertet (โรแบรเต็ต) บริษัทผู้รับผลิตน้ำหอมชั้นนำระดับโลกสำหรับแบรนด์แฟชัน และความงามอันโด่งดัง ได้นำแรงบันดาลใจส่วนตัวกับสัญลักษณ์ทางการออกแบบเครื่องประดับของ Tiffany & Co. มาผสมผสานกันเพื่อถ่ายทอดจินตนาการถึงกลิ่นทองคำสีกุหลาบนี้ออกมาให้สาวๆ ใช้เติมเต็มความครบครันทางการแต่งกายของพวกเธอผ่าน Rose Gold Eau de Parfum น้ำหอมตระกูลดอกไม้แนวกลิ่นผลไม้ที่สดชื่น และล้ำสมัย จุดประกายสดใสระยิบระยับราวกับการสะท้อนแสงจากหน้าตัดเหลี่ยมเพชร และประกายสุกสกาวเป็นเงางามของเนื้อโลหะล้ำค่าโดยมีหัวใจของเนื้อกลิ่นอยู่ที่หัวน้ำหอมปรุงสูตรเพื่อมอบกลิ่นของกุหลาบสีน้ำเงินหรือ Blue Rose ซึ่งถือเป็นกุหลาบเจ้าของเฉดสีฟ้าอมเขียวอันเป็นสัญลักษณ์ประจำแบรนด์เครื่องประดับชั้นนำสัญชาตินิวยอร์ก โดยอาศัยกลิ่นของกุหลาบลูกผสมจากญี่ปุ่นกับไวโอเล็ตเป็นจุดเริ่มต้นในการตอบโจทย์การสรรค์สร้างน้ำหอมกลิ่นทองคำสีกุหลาบ
โดยส่วนตัวเอปิแน็ตต์ นักออกแบบผู้ปรุงน้ำหอม ซึ่งอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของน้ำหอมหลายรุ่นจากแบรนด์ Byredo ที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน ความทรงจำคือพลังขับเคลื่อนชั้นดีในการค้นหาแรงบันดาลใจจากลิ้นชักเก็บบันทึกประสบการณ์ต่างๆ ในชีวิตของเขาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก บ่อยครั้ง เวลามีคนถามถึงกลิ่นหอมในจินตนาการของเขา เอปิแน็ตต์สามารถเชื่อมโยงไปสู่แนวกลิ่นในความเป็นจริงมากมาย ที่ทำให้เรารู้สึกได้ถึงอารมณ์นั้นๆ อย่างชัดเจน อาทิเช่น:
กลิ่นแห่งความสุข.... “ผมจะนึกถึงหัวน้ำหอมตระกูลส้ม-มะนาว หรือซิทรัส กลิ่นหอมแนวนี้ทำให้เรามีความสุขจนสามารถเผลอยิ้มออกมาได้โดยไม่รู้ตัว อย่างกลิ่นส้มกับมะกรูด”
กลิ่นแห่งความเสียใจ หรือเสียดาย.... “สำหรับผม น่าจะเป็นกลิ่นซึ่งทำให้นึกถึงเรื่องราวแห่งความหลังที่ผ่านพ้นไปนานแล้ว แต่กระนั้น เรากลับยังโหยหาอยากให้ช่วงเวลานั้นกลับคืนมาอีกครั้ง อย่างกลิ่นแนวแป้งของเฮเลียโทรปกับดอกมิโมซา ในมุมมองของผม ทั้งสองกลิ่นนี้มีความเป็นแฟชันยุคเก่าอันงดงามตระการตาซึ่งผมอยากให้หวนกลับมารุ่งเรือง เป็นที่นิยมอีกครั้ง”
กลิ่นของมิตรภาพ... “น่าจะเป็นกลิ่นวานิลลา ซึ่งทำให้เรารู้สึกถึงความอบอุ่น และผ่อนคลาย แบบเดียวกับที่เรารู้สึกมั่นใจ มั่นคง และปลอดภัยเวลาอยู่กับเพื่อนรัก เพื่อนที่แสนดี”
กลิ่นของความสำเร็จ... “ก็คงเป็นกลิ่นแบบ Tiffany & Co. Rose Gold แนวกลิ่นที่ทันสมัย ให้ความรู้สึกท้าทาย ทำให้เรานึกถึงประกายสุกสว่างของความสำเร็จ มีทั้งความมั่นคง และอบอุ่นอย่างไม้แคชเมียแรน หรือกระทั่งไอริส กับกลิ่นเผ็ดร้อนแนวเครื่องเทศอย่างพริกไทย”
และถ้าเจาะจงเป็นกลิ่นของทองคำสีกุหลาบ... “อันดับแรก ผมจะคิดถึงเวลาเรานึกถึงกลิ่นกุหลาบ กลิ่นหอมของกุหลาบมีแง่มุมซับซ้อนมากมาย ในขณะเดียวกันก็เต็มไปด้วยน้ำหนัก และส่วนตัวของผมนั้น กุหลาบมักทำให้นึกถึงแฟชันยอดนิยมในอดีต แอบๆ อนุรักษ์นิยม เหมือนกับทองคำ โลหะล้ำค่าซึ่งเป็นที่ปรารถนาในทุกยุคสมัย แต่ทองคำสีกุหลาบคือโลหะผสมยุคใหม่อันเกิดจากการหลอมทองคำแท้บริสุทธิ์ 75% เข้ากับทองแดงคุณภาพ 25% จนได้เป็นทองคำสีกุหลาบ 18 กะรัต ในขณะที่เฉดทองคำสีกุหลาบจะเป็นสีชมพูกุหลาบอมทอง ดังนั้น เมื่อมาถึงตอนที่ผมต้องออกแบบกลิ่นของทองคำสีกุหลาบ ผมคิดว่าหัวน้ำหอมกลิ่นนี้ต้องมีความสดชื่น และสดใหม่ เหมือนน้ำกุหลาบมากกว่าจะเป็นเอสเซนส์ หรือแอ็บโซลูทกุหลาบ ซึ่งมีสถานะเป็นน้ำมันกลิ่นเข้มข้น กลิ่นกุหลาบที่ได้นั้น ยังคงเป็นกุหลาบ หากต้องบางใส และอ่อนโยน ละมุนละไมกว่ากุหลาบดั้งเดิม แต่ในขณะเดียวกัน ก็ต้องให้ความรู้สึกถึงประกายสว่างไสว ระยิบระยับวับวาวราวกับเนื้อทอง ดังนั้น ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับโจทย์ทองคำสีกุหลาบในมุมมองของผมจึงเป็นการนำกลิ่นดอกไม้แนวแป้งของไวโอเล็ตมาหลอมรวมกับกลิ่นของกุหลาบลูกผสมสายพันธุ์ญี่ปุ่น”
การทำงานกับ Robertet ยังเอื้อต่อการทำงานของเฌโรม เอปิแน็ตต์ในประเด็นนี้ “Robertet เป็นบริษัทซึ่งมีหัวน้ำหอมกุหลาบหลากหลายสายพันธุ์มาก เป็นร้อยๆ ชนิด ไม่ว่าจะในรูปแบบของน้ำกุหลาบ, เอสเซนส์หรือน้ำมันหอมระเหย และแอ็บโซลูท มีแม้กระทั่งผลึกหอม หรือไขกุหลาบ ซึ่งสกัดได้จากกุหลาบดามัสค์หลายท้องถิ่น ทั้งตุรกี, บัลแกเรีย, อิหร่าน ฯลฯ รวมถึงกุหลาบร้อยกลีบ หรือเมย์โรสจากเมืองกราซแห่งฝรั่งเศส แน่นอน คนส่วนมากมักบอกว่ากุหลาบก็คือกุหลาบแม้เฉดสีจะแตกต่าง แต่กลิ่นกุหลาบก็ยังเหมือนเดิม แต่สำหรับผม ถึงจะมีความเป็นกุหลาบ กลิ่นกุหลาบแต่ละสายพันธุ์ แต่ละท้องถิ่นก็ล้วนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ก็เหมือนเสน่ห์เย้ายวนของผู้หญิง” เขากล่าวเสริม “คุณลองนึกถึงน้ำหอมที่มอบกลิ่นอันเป็นตำนานแห่งเสน่ห์เย้ายวนสองกลิ่น กลิ่นแรกคือ Shalimar ของ Guerlain ส่วนอีกกลิ่นคือ Poison ของ Dior ปฏิเสธไม่ได้ว่าทั้งสองคือน้ำหอมตระกูลกลิ่นของโลกตะวันออก หรือโอเรียนตาล ซึ่งเต็มไปด้วยอำนาจแห่งเสน่ห์เย้ายวนของผู้หญิง แต่กลับมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน”
สำหรับการออกแบบน้ำหอมกลิ่นทองคำสีกุหลาบให้แก่ Tiffany & Co. ครั้งนี้ เฌโรม เอปิแน็ตต์เติมเต็มความครบครันทางโครงสร้างเนื้อกลิ่นด้วยความสดชื่นจากหัวน้ำหอมกลิ่นแบล็คเคอร์แรนท์ ซึ่งมอบความรู้สึกถึงสีชมพูสว่างในเนื้อทองร่วมกับการใช้กลิ่นอบอุ่นของพริกไทยสีชมพู และความหวานชื่นของลิ้นจี่ ในขณะที่เอกลักษณ์แห่ง Tiffany & Co. อันได้แก่ทองคำสีฟ้าหรือ Blue Rose นั้น ถือกำเนิดหัวน้ำหอมปรุงสูตร (accord คือการนำหัวน้ำหอมสามถึงห้าชนิดมาผสมผสานกันเพื่อสร้างหัวน้ำหอมกลิ่นใหม่ที่ไม่สามารถแสวงหาวัตถุดิบสกัดหัวน้ำหอมกลิ่นนั้นๆ ได้) จากไวโอเล็ตกับกุหลาบญี่ปุ่น อยู่บนฐานโครงสร้างที่มอบไออุ่นกลมกลืนกับผิวกายซึ่งได้จากหัวน้ำหอมของเมล็ดชะมดต้น (เทียนชะมดหรือ ambrette seed) กับมัสค์ และไอริส