ทีม WOW WOW WOW คว้าสุดยอด Rising Star Chef Amazing Taste Great Story บอกรักน่านผ่านเซ็ทเมนู "กระซิบรัก ฮักน่าน"
ปลุกพลัง Soft Power ทีม WOW WOW WOW x Hazefree PGS คว้ารางวัลชนะเลิศ Rising Star Chef Amazing Taste Great Story บอกรักน่านผ่านเซ็ทเมนู "กระซิบรัก ฮักน่าน"
นับตั้งแต่เริ่มแคมเปญ Global Thai เมื่อปี 2545 เพื่อโปรโมทร้านอาหารไทยในต่างประเทศ มาจนถึงยุคนี้ อาหารถูกกำหนดให้เป็นหนึ่งใน 5 Soft Power ที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลกให้มาสัมผัสวัฒนธรรมและเอกลักษณ์ไทย ผ่านการท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Gastronomy Tourism) ซึ่งโครงการ "Amazing Taste Great Story การท่องเที่ยวมิติใหม่ ผสมผสานรสชาติไทย" เป็นอีกกิจกรรมที่เฟ้นหาเชฟหน้าใหม่ไฟแรงสายคอนเทนต์ครีเอเตอร์ มาปรุงปั้นวัตถุดิบออร์แกนิคชั้นดีของชุมชนทั้ง 5 ภูมิภาคทั่วไทย ปลุกกระแสให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศในมุมมองที่ Amazing ยิ่งกว่าเดิม
หลังจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้คัดเลือก 10 วัตถุดิบออร์แกนิคเด่นจากชุมชน/สถานประกอบการแหล่งผลิตวัตถุดิบครอบคลุมทั้ง 5 ภูมิภาคของไทย พร้อมทั้งเปิดรับสมัครทีมเชฟรุ่นใหม่ สายคอนเทนต์ ครีเอเตอร์ จำนวน 10 ทีม มา X กับแหล่งวัตถุดิบ เข้าร่วมแข่งขันประชันเมนูพิเศษจากวัตถุดิบออร์แกนิค เพื่อต่อยอดสร้างคุณค่าและมูลค่าเพิ่มสู่กิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ ททท. ร่วมกับเครือข่ายพันธมิตร ได้จัดกิจกรรม Showcase และประกาศผลรางวัลเมื่อวันศุกร์ที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา ปรากฏว่า ทีม WOW WOW WOW x Hazefree PGS ซึ่งเป็นกลุ่มกิจการเพื่อสังคมไร้ควัน ที่มีการใช้ระบบการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์แบบมีส่วนร่วม (Participatory Guarantee System: PGS) เป็นเครื่องมือส่งเสริมการรวมกลุ่มเกษตรกรรายย่อยและสร้างระบบการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ จังหวัดน่าน คว้ารางวัลชนะเลิศ จากเซ็ทเมนู "กระซิบรัก ฮักน่าน"
เชฟเดียร์และเชฟน้ำ เล่าว่า ทีม WOW WOW WOW x Hazefree PGS ต้องการรังสรรค์เมนูเพื่อสื่อถึงพหุวัฒนธรรมของน่าน โดยมี "ไผ่บงหวานเพชรน้ำผึ้ง" เป็นวัตถุดิบหลัก เปิดใจฮักน่านด้วยอาหารเรียกน้ำย่อยที่มาในรูปหมี่เหลืองทอด รองด้วยสตรอเบอร์รี่แช่จิ๊กโฉ่วเพื่อความกลมกล่อม ด้านบนจะมีไก่สับตามด้วยหน่อไม้ไผ่บงหวาน โรยด้วยผงเคล และราดน้ำซอสสูตรพิเศษที่เชฟคิดค้นขึ้นมาใหม่ ส่วนอาหารจานหลักคือ ข้าวซอยไก่หน่อไม้ไผ่บงหวาน ของหวาน และน้ำผักเคลเพื่อสุขภาพ
ขณะที่เชฟโด่งกับเชฟเต้าฮวย ทีมตะเภาทอง x สวนฮ่มสะหลี จังหวัดเชียงใหม่ ได้รองชนะเลิศอันดับหนึ่ง ด้วยเมนูสุดพิเศษ “Lemon Lover Set” จากวัตถุดิบออร์แกนิค ทั้งเลมอน ที่เป็น Signature ของสวนฮ่มสะหลี ผักนานาชนิด และไก่ตะเภาทองเกษตรศาสตร์ ครีเอทมาใสจานไก่ยากิโทริด้งซอสเลมอนถั่วเน่าแข็บ เลมอนฮันนี่เจลลี่ และม็อคเทลเลมอนเก๊กฮวยน้ำผึ้งดอกลำไย
ส่วน ทีม มีดี x วิสาหกิจชุมชน อินทรีย์จันทบูร จังหวัดจันทบุรี รองชนะเลิศอันดับสอง นำหน่ออ่อนกระวาน สมุนไพรชั้นเยี่ยมของจันทบุรี ที่มีมีรสเผ็ด ซ่า ปร่าลิ้น มารังสรรค์เป็นน้ำพริกหน่อกระวานคั่วแห้ง คลุกข้าวสวยร้อนๆ แนมกับไข่ต้มและผักสดอินทรีย์ สามารถเก็บไว้รับประทานได้นาน แถมยังทำได้ง่าย หลายคนคงคุ้นเคยกับหน่อกะลา หากจะตามหาหน่อกระวานอินทรีย์ แล้วละก็ต้องมาที่จันทบุรี
สำหรับอีก 7 ทีม ได้แก่ บ้านลืมเพลา เฮอร์ริเทจ โฮมสเตย์ x บริษัท เวิลด์ โกรว์ จำกัด ใช้ดอกกุหลาบบิชอป เชียงราย มารังสรรค์เป็นไอศกรีมกุหลาบ ทีมหุงอุ่นตุ๋นต้มนึ่ง x นาทิพย์เกษม จ.อยุธยา นำเสนอเมนูข้าวห่อสาหร่าย โดยใช้ข้าวอากิบาระไรซ์ ที่มีกลิ่นหอมมาผสมกับข้าวพันธุ์กุหลาบแดง ทีม WCC x บ้านไร่ตารงค์ นำเสนอข้าวหอมมะลิดำหนองคาย (กข 83) ผัดน้ำพริกปลาป่น ทีม Love Local x Gardener House จ.ราชบุรี ทำขนมไมตรีจากมะพร้าวน้ำหอม ที่ใช้ทั้งเนื้อ น้ำ กะทิ น้ำตาลดอกมะพร้าว (เคี่ยว) กาก ไปจนกระทั่งกาบมะพร้าว
ทีม Plant Power x ฟาร์มฝันแม่ เกษตรอินทรีย์ จ.ราชบุรี คิดค้นสูตรน้ำสลัดคุโรดะจากแคร์รอตสายพันธุ์คุโรดะ ให้ออกมาให้เป็นลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น และเป็นวีแกนร้อยเปอร์เซ็นต์ ทีม Herb Kitchen x บุนนาคฟาร์ม สุราษฎร์ธานี เปิดประสบการณ์ใหม่ด้วยบัวลอยเมลอน ทานคู่กับไอศกรีมและไข่เค็มไชยา ขณะที่ ทีม หมุกปิ่งจะทิ่งหน้า x บริษัท ปลาออร์แกนิควิสาหกิจชุมชน จ.กระบี่ รังสรรค์เมนูคานาเป้จากเปลือกกุ้งแชบ๊วยปลอดสาร
อภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ททท. กล่าวว่า การขับเคลื่อนเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ ด้วยการท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Gastronomy Tourism) จะต้องเริ่มตั้งแต่ต้นน้ำ ดังนั้น ททท. จึงร่วมกับบริษัท ฟายด์ โฟล์ค จำกัด และหน่วยงานพันธมิตร อาทิ สมาคมผู้บริโภคอินทรีย์ไทย (TOCA) สมาคมเชฟประเทศไทย โรงเรียนการอาหารไทย เอ็ม เอส ซี โรงเรียนสอนอาหารครัววันดี และคณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม มหาลัยวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต จัดโครงการนี้ขึ้นเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีอินทรีย์ (Organic Tourism) ซึ่งไม่เพียงการสร้างสรรค์เมนูใหม่ๆ จากวัตถุดิบชั้นเลิศทั่วไป แต่ละชุมชนยังสามารถใส่เรื่องราวของอาหารเชิงวัฒนธรรมเพื่อสร้างประสบการณ์แก่นักท่องเที่ยวได้อีกด้วย
ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดโครงการฯ และกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์จากวัตถุดิบออร์แกนิคในแต่ละเส้นทางได้ที่ เว็บไซต์ www.amazingtastegreatstory.com และ Facebook Page : Amazing Taste Great Story