80 ยังแจ๋ว
ดื่มให้กับ “มาร์การิต้า” ค็อกเทลสัญชาติเม็กซิกันอายุกว่า 80 ปีในวัน World Margarita Day พฤหัสนี้
โดยส่วนตัวแล้วชอบเตกิล่า ไม่ใช่แบบกระดกพรวดแล้วสาดมะนาวลสาดเกลือเข้าปากนะ แต่เป็นช็อตค่อยๆ จิบ มันชุ่มคอ ชื่นใจ หอมเอียนๆ สาบๆ แถมมีกลิ่นดินหน่อยๆ ถือว่าเป็นสปิริตชนิดหนึ่งที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ยากจะลอกเลียนแบบ แต่ใครจะว่ายังไงก็เถอะ ค็อกเทลที่ใช้เตกิล่าเป็นตัวนำนี่ไม่ถูกปากเอาเสียเลย เพราะรสชาติดิบๆ และความหอมดินๆ ของมันถูกน้ำผลไม้และสารพัดลิเคียวบิดเบือนเสียจนแทบทนไม่ไหว ไม่ให้เกียรติเตกิล่าเอาซะเลย!
ยกเว้นค็อกเทลสูตรนึงที่เหมือนออกแบบมาเพื่อยกย่องเตกิล่าโดยเฉพาะ นั่นก็คือ “มาร์การิต้า” ค็อกเทลเย็นฉ่ำชื่นใจหอมกลิ่นมะนาวสดชื่นที่อายุอานามปาเข้าไป 80 กว่าปีแล้ว และทั่วโลกกำลังจะเฉลิมฉลองความอร่อย อ้อ แล้วก็ประวัติอันยาวนานของมันในวันพฤหัสบดีที่จะถึงนี้ ซึ่งถือกันว่าเป็น World Margarita Day เย้!
มาร์การิต้า ก็เหมือนค็อกเทลคลาสสิกทั่วไปที่มีต้นกำเนิดคลุมเครือ แต่ด้วยความที่มันใช้เตกิล่าซึ่งเป็นสปิริตจากเม็กซิโกเป็นตัวนำ คนส่วนใหญ่เลยชอบที่จะเชื่อว่ามันมีต้นกำเนิดที่เม็กซิโก ว่ากันว่าในปี 1938 คุณ คาร์ลอส เฮเรร่า เจ้าของร้านอาหารในเมืองแห่งหนึ่งที่อยู่ตรงไหนซักแห่งระหว่างเมืองติฮัวน่าและโรซาริโต้ (โอ๊ย ขนาดทำเลร้านยังเบลอ) ต้องต้อนรับ มาจอรี คิง นักแสดงสาวดาวรุ่งในขณะนั้นที่แพ้แอลกอฮอลทุกชนิดยกเว้นเตกิล่า (เอากะนางสิ) คุณคาร์ลอส อยากเอาใจดาราสาว แทนที่จะเสิร์ฟเตกิล่าใส่แก้วช็อตให้กระดกแบบลูกทุ่งๆ ก็ประดิษฐ์สูตรขึ้นมา โดยเหยาะทิปเปิลเซคซึ่งก็คือลิเคียวรสส้มและน้ำมะนาวลงไปในเตกิล่าให้รสละมุนขึ้น เท่านั้นยังไม่พอ พี่แกเอาเสิร์ฟในแก้วแช่เย็นที่โรยเกลือที่ขอบปาก นัยว่าความเค็มจะช่วยขับรสชาติของเตกิล่าและทำให้เครื่องดื่มมีรสชาติสมดุลขึ้น
รายงานไม่ได้บอกว่า มาจอรี ให้คะแนนความพยายามของ คาร์ลอส เท่าไหร่ รู้แต่ว่าเครื่องดื่มที่ว่าอร่อยเหาะ มีครบรสทั้งเปรี้ยว (มะนาว) หวาน (ทริปเปิลเซค) เค็ม (เกลือ) เผ็ดซ่า (เตกิล่า) และขม (ผิวมะนาวและ after taste ของเตกิล่า) แถมเอกลักษณ์ของเตกิล่ายังอยู่ครบ เหมาะเจาะลงตัวอย่างกับสวรรค์สร้างมา
ความน่ารักอีกอย่างของมาร์การิต้าคือไม่เรื่องมากในการเสิร์ฟ จะใส่แก้วอะไรมาได้หมด ใส่เหยือกใส่ไหมาก็ยังได้ ไม่เหมือนบางค็อกเทลที่จู้จี้เรื่องแก้วที่ใช้ เรียกว่าถ้าที่บาร์ไม่มีแก้วแบบที่ต้องใช้ก็ห้ามทำ นอกจากนี้ยังมาในสามรูปแบบ นั่นคือแบบใส่น้ำแข็งลอยมาเป็นก้อนๆ แบบเอาไปปั่นเหมือนสเลอปี้ และแบบสเตรทอัพที่เอาไปเขย่ากับน้ำแข็งให้เย็นก่อนแล้วค่อยเทใส่แก้วโดยไม่เติมน้ำแข็งอีก เรียกว่าชอบแบบไหนก็จัดไปตามสะดวก หรือจะเอาไปทำไอติมแท่งก็อร่อยดีไปอีกแบบ มันจึงเป็นอีกหนึ่งค็อกเทลที่บาร์เทนเดอร์เอาไปเติมนั่นผสมนี่กันสนุกใหญ่ เพราะมันมีอะไรให้เล่นได้เยอะ
คุณล่ะ ดื่มมาร์การิต้าครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ไปนั่งจิบคราวหน้าอย่าลืมสาวแซบวัย 80 แก้วนี้ล่ะ รับรองไม่ผิดหวัง