ไวน์โรเซ่กับชายอกสามศอก
ไวน์สีหวานผู้ชายก็จิบได้
ไวน์ก็เหมือนของกินของใช้หลายๆอย่างที่บ่งบอกถึงความเป็นตัวตนของคนดื่มได้ หลายๆครั้งที่ให้ฉันอธิบายเรื่องไวน์เพื่อความสมจริงฉันมักจะเปรียบและยกตัวอย่างไวน์กับคนเสมออย่างที่เคยเขียนในเรื่องก่อนๆ ส่วนคราวนี้อยากพูดถึงไวน์โรเซ่เสียหน่อย เพราะเป็นไวน์ที่ค่อนข้างมีปัญหาเรื่องภาพลักษณ์นิดนึง
พูดถึงไวน์โรเซ่ หลายๆคนคงนึกถึงไวน์สีชมพูแหววที่มีรสชาติออกหวานเล็กน้อย บางคนถึงกับบอกว่าไวน์โรเซ่เนี่ยมันสำหรับบีกินเน่อร์มือใหม่หัดขับ ไวน์สีหวานขนาดนี้น่าจะเหมาะกับผู้หญิงมากกว่านะ ผู้ชายดื่มไวน์สีชมพูมันดูไม่แมนเอาเสียเลย วันนี้ขอแนะนำไวน์โรเซ่แบบซีเรียส โรเซ่สำหรับคอไวน์ โรเซ่ที่ไม่ไก่กาให้หนุ่มๆทั้งหลายหันมามองไวน์ประเภทนี้กันบ้างโรเซ่เป็นไวน์ที่ผลิตกันทั่วไปตั้งแต่บอร์โดซ์ยันเบอร์กันดี ตั้งแต่ชิลียันออสเตรเลีย เนื่องจากโรเซ่เป็นไวน์ที่ผลิตกันแทบทุกที่ทุกแคว้นโรเซ่จึงมีหลายระดับ ผู้ผลิตบางที่ผลิตโรเซ่เป็นหลักจึงให้ความใส่ใจในการผลิตสูง บางคนผลิตโรเซ่เพราะเป็นผลพลอยได้จากการผลิตไวน์แดงคุณภาพจึงคละเคล้ากันไป แต่โดยส่วนใหญ่จะใช้วิธีแช่เปลือกองุ่นกับน้ำองุ่นในระยะเวลาสั้นๆให้สีออกจากเปลือกเล็กน้อยพอเป็นพิธี พอน้ำองุ่นได้สีที่ต้องการแล้วเขาก็จะนำน้ำองุ่นสีชมพูมาทำไวน์ต่อโรเซ่จริงๆแล้วมีหลายสีอยู่นะไม่ใช่แค่ชมพูแหวว โดยเราสามารถแบ่งสีไวน์โรเซ่เป็่นสีชมพู สีปลาแซลมอน และสีเปลือกหัวหอมใหญ่ และด้วยโรเซ่ผลิตจากองุ่นสีแดงและเอามาหมักแบบไวน์ขาวโรเซ่จึงมีลักษณะทั้งรสชาติและกลิ่นเหมือนเป็นลูกครึ่งของไวน์ทั้งสองสี คือมักมีกลิ่นหอมของผลเบอรี่สีแดงและมีแอซิดิตี้ที่เปรี้ยวสดชื่นของไวน์ขาว จึงเป็นไวน์ที่ค่อนข้างจะ food friendly สามารถทานได้กับทั้งปลาไปจนถึงเนื้อวัวย่างง่ายๆ และข้อดีอีกอย่างหนึ่งของโรเซ่คือราคามักไม่แพง (ยกเว้นแชมเปญโรเซ่ที่ราคาแพงหูฉี่และมักแพงกว่าแชมเปญขาว) จึงเป็นไวน์ที่เข้าถึงได้ง่ายวันนี้ขอแนะนำโรเซ่ที่รับรองดื่มแล้วไม่สูญเสียความเป็นแมนในตัวคุณแน่นอน โดยคราวนี้ขอพูดถึงโรเซ่ชื่อดังจากฝรั่งเศสก่อนคราวหน้าถ้ามีโรเซ่ดีๆจากที่อื่นจะเขียนถึงอีกทีนะคะ
Tavel
Tavel เป็นโรเซ่ระดับพี่ใหญ่ของฝรั่งเศส เป็นไวน์โปรดของพระเจ้าหลุยส์ที่14 จึงถือว่าเป็น Rosé of Kings และ King of Rosé และเป็นหนึ่งในโรเซ่ที่ดีที่สุดของฝรั่งเศษTavel อยู่ในเขตลุ่มแม่น้ำRhoneตอนใต้ และกฏการผลิตไวน์ที่นี่จะเฉพาะเจาะจงว่าหากใช้ชื่อ Tavel จะต้องผลิตไวน์โรเซ่อย่างเดียวเท่านั้น ด้วยชื่อเสียงของ Tavel ที่มีมายาวนานเลยอาจทำให้ไวน์มีราคาสูงกว่าโรเซ่จากที่อื่น ไวน์สีชมพูเข้มตัวนี้ผลิตจากองุ่นหลากหลายชนิดโดยหลักๆจะเป็นGrenache และ Cinsault เป็นโรเซ่แบบดราย (ไม่หวาน) เห็นสีสวยแบบนี้แอลกอฮอล์ค่อนข้างสูงนะและมีบอดี้ที่เข้มข้นเลยทีเดียว จึงเป็นโรเซ่ที่ซีเรียสเอาการอยู่ สำหรับเมืองไทยลองหา Tavel ของ E.Guigal และ Chateau d'Aqueria มาชิมดู
Provence
หากพูดถึงโรเซ่แล้วไม่พูดถึงโพรวองซ์คงไม่ได้ คนส่วนใหญ่จะนึกถึงไวน์โรเซ่ก่อนไวน์แดงและไวน์ขาวเสียอีก เพราะโพรวองซ์ผลิตไวน์โรเซ่เกินครึ่งหนึ่งของผลผลิตทั้งแคว้น ด้วยสภาพภูมิประเทศและอากาศรวมทั้งวัฒนธรรมของโพรวองซ์มันช่างเหมาะกันที่สุดกับไวน์สีชมพูนี้โรเซ่ของที่นี่มักมีรสดรายและมีกลิ่นหอมของพวกเบอรี่สีแดง บางตัวมีกลิ่นสมุนไพรเครื่องเทศพวกโรสแมรี่ ลาเวนเดอร์ จึงทำให้ไวน์โรเซ่ของโพรวองซ์นั้นแสนจะเข้ากันดีกับอาหารเมดิเตอเรเนี่ยนที่เสริฟกันในภูมิภาคนี้เป็นที่สุด โพรวองซ์มีโรเซ่จากหลายๆที่ที่น่าสนใจ เช่น Bandol ซึ่งจริงๆแล้วเป็นเขตผลิตไวน์แดงสำคัญแต่ที่นี่ก็ยังมีชื่อด้านไวน์โรเซ่เช่นกัน ผลิตจากองุ่นพันธุ์ Mouverde เป็นหลักผสมกับพันธุ์ Grenache และ Cinsault ลองมองหาไวน์ของ Chateau de Pibarnon ซึ่งเป็นโรเซ่ที่สามารถเก็บได้4-5ปีเลยทีเดียวสำหรับโรเซ่จากอีกแหล่งที่อยากแนะนำคือCoteau d'Aix-en-Provence เป็นไวน์โรเซ่สีชมพูอ่อนที่เอาจริงๆค่อนข้างผลิตและบริโภคกันในพื้นที่จึงค่อนข้างหายากเสียหน่อยโดยเฉพาะในบ้านเรา แนะนำไวน์ของMaison Saint AIXซึ่งผลิตขากองุ่น Grenache Syrah และ Cinsault เป็นไวน์ที่มีกลิ่นหอมของเบอรี่ แอ็บเปิ้ล มะนาวและเครื่องเทศต่างๆ
โรเซ่เป็นไวน์แห่งฤดูร้อนของพวกฝรั่งเค้า ส่วนใหญ่จะเอาไปดื่มในงานเอาท์ดอร์ปิคนิคและบาร์บีคิว มีวิวทะเลเป็นฉากหลังก็จะยิ่งดี เป็นไวน์ที่ควรดื่มสดๆใหม่ๆไม่จำเป็นต้องเก็บบ่มไว้นานเพราะจะเสียความหอมสดชื่นของผลไม้ต่างๆไป จริงๆแล้วอากาศร้อนตลอดปีอย่างบ้านเราเนี่ยช่างเข้ากับไวน์โรเซ่ที่สุด 
