HAPPENING BKK
NLINE MAGAZINE
×
ตามเทรนด์ให้ทัน เมื่อนักเดินทางโหยหาวัฒนธรรม วิถีชุมชน และความยั่งยืนมากขึ้น 
by L. Patt
27 พ.ค. 2568, 21:25
  279 views

ถ้าเราดูจากผลสำรวจเทรนด์การท่องเที่ยวยุคใหม่ของแพลตฟอร์มดิจิทัลชั้นนำระดับโลก อย่าง Booking.com, TikTok และ Agoda ก็จะเห็นว่า พฤติกรรมนักเดินทางทั้งไทยและต่างชาติ ต่างต้องการประสบการณ์ที่แปลกใหม่ โดยคำนึงถึงผลกระทบเชิงบวกต่อจุดหมายปลายทาง ชุมชนท้องถิ่น และระบบนิเวศมากขึ้น

Booking.com มีการจัดทำรายงานด้านการเดินทางอย่างยั่งยืนต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 10 แล้ว ซึ่งเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงลึกเพื่อเผยให้เห็นถึงทัศคติและสิ่งที่ผู้เดินทางให้ความสำคัญ โดยรายงานประจำปี 2568 ที่มีผู้ตอบแบบสอบถามกว่า 32,000 คน จาก 32 ประเทศทั่วโลก พบว่านักเดินทางคำนึงถึงผลกระทบเชิงบวกต่อจุดหมายปลายทาง ชุมชนท้องถิ่น และใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

ปีนี้ยังเป็นปีแรกที่ Booking.com มีรายงานถึงพฤติกรรมนักท่องเที่ยวไทยว่า ผู้เดินทางชาวไทย 68% (และผู้เดินทางจากทั่วโลก 53%) หันมาตระหนักถึงผลกระทบของการเดินทางที่เกิดขึ้นต่อชุมชนท้องถิ่นเช่นเดียวกันกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และ 82% ของพวกเขา (69% ของผู้เดินทางทั่วโลก) ต้องการที่จะทำให้จุดหมายปลายทางที่พวกเขาไปเยือนดีขึ้นกว่าเดิมหลังจากที่เดินทางกลับ

มากกว่าครึ่งของนักเดินทางชาวไทย (65%) รู้สึกว่าการท่องเที่ยวในภาพรวมมีผลกระทบเชิงบวกกับสถานที่ที่พวกเขาอาศัยอยู่ การปรับปรุงแหล่งท่องเที่ยวโดยคำนึงถึงความต้องการของผู้คนท้องถิ่นจึงจำเป็นเพื่อให้การพัฒนาจุดหมายปลายทางนั้น ๆ เป็นไปอย่างมั่นคง ทำให้ผู้เดินทางและผู้อยู่อาศัยสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข

รายงานยังชี้ให้เห็นว่า ผู้เดินทางชาวไทยกระตือรือร้นในการลดผลกระทบในสถานที่ที่พวกเขาได้ไปเยือน เช่น เดินทางในช่วงโลว์ซีซัน (42%) หรือเลือกท่องเที่ยวในจุดหมายปลายทางนอกกระแสหรือเมืองรองเพื่อลดความแออัด (42%) โดยพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงแนวทางการเดินทางอย่างมีความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มผู้เดินทาง

ขณะเดียวกัน พวกเขายังคงเดินหน้าให้ความสำคัญกับความยั่งยืนถึง 95% และภายในปีนี้พวกเขาระบุว่าต้องการเดินทางอย่างยั่งยืนเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม แนวปฏิบัติอย่างยั่งยืนเช่น การลดขยะและการประหยัดพลังงานยังคงเป็นสิ่งที่ผู้เดินทางให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ เมื่อต้องการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

มุมมองของคนท้องถิ่น

นอกจากเทรนด์ของนักเดินทาง Booking.com ยังได้สำรวจความรู้สึกของผู้คนท้องถิ่นที่ได้ต้อนรับผู้มาเยือนในพื้นที่ของพวกเขาด้วย ซึ่งมากกว่าครึ่งได้แสดงความคิดเห็นในเชิงบวกเกี่ยวกับพฤติกรรมการเดินทางของผู้เดินทางชาวไทย โดย 67% บอกว่า ผู้เดินทางที่มาเยือนในพื้นที่ของพวกเขาเคารพวัฒนธรรมและประเพณีท้องถิ่น ส่วน 74% ระบุว่าผู้เดินทางชาวไทยสนับสนุนธุรกิจท้องถิ่น นอกจากนั้น 89% ของผู้เดินทางชาวไทยต้องการให้ค่าใช้จ่ายในขณะเดินทางของพวกเขาหมุนเวียนกลับสู่ชุมชนท้องถิ่น และ 88% มองหาสิ่งที่สะท้อนวัฒนธรรมท้องถิ่นนั้น ๆ เพื่อสัมผัสกับวิถีชีวิตที่แท้จริงของผู้คนในจุดหมายปลายทางที่พวกเขาไปเยือน

อย่างไรก็ตาม ยังมีความท้าทายที่ผู้คนท้องถิ่นให้ความสำคัญในการลงทุนเพื่อพัฒนาพื้นที่ในชุมชนให้ดีขึ้น ได้แก่ การคมนาคม การจัดการขยะ และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

Danielle D’Silva, หัวหน้าฝ่ายความยั่งยืน ของ Booking.com บอกว่า "เมื่อมองไปข้างหน้า เรามองเห็นศักยภาพของ AI และเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ผู้เดินทางทุกคนได้ออกไปสำรวจโลกกว้างได้อย่างง่ายดาย เข้าถึงวิถีชีวิตอันหลากหลายของชุมชนท้องถิ่น และช่วยกระจายผลประโยชน์เชิงบวกที่เกิดจากการท่องเที่ยวได้อย่างทั่วถึงในทุกพื้นที่ทั่วโลก ทั้งนี้ Booking.com ยังคงเดินหน้าสนับสนุนการเดินทางอย่างยั่งยืน ซึ่งที่พักคู่ค้าผู้เดินทาง และผู้มีส่วนร่วมในแวดวงการเดินทางกำลังร่วมมือกัน เพื่อให้ความอย่างยั่งยืนเป็นอีกหนึ่งหนทางที่ทำให้ทุกคนสามารถออกไปสัมผัสโลกและสร้างผลกระทบเชิงบวกได้มากยิ่งขึ้น"

บูมเที่ยวชุมชนผ่านครีเอเตอร์

ต้องยอมรับว่า กลุ่มครีเอเตอร์ที่หลากหลาย ทั้งครีเอเตอร์ไทย-เทศ หรือครีเอเตอร์สองภาษาที่อาศัยในประเทศไทย รวมไปถึงธุรกิจท้องถิ่น มีบทบาทอย่างมากในการปลุกกระแสท่องเที่ยวชุมชนผ่านการถ่ายทอดวัฒนธรรม อาหารและวิถีชีวิตในมุมใหม่ ๆ ที่คนไทยอาจไม่เคยเห็นสู่สายตาชาวโลกบนแพลตฟอร์ม TikTok

ครีเอเตอร์เหล่านี้ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติ เพราะมีการทำคอนเทนต์ผสมผสานระหว่างมุมมองที่แปลกใหม่และความเข้าใจในวัฒนธรรมไทย ที่สำคัญพวกเขามักนำเสนอสถานที่ไม่เป็นที่รู้จัก หรือประสบการณ์นอกเส้นทางท่องเที่ยวกระแสหลัก เปิดโลกใหม่ให้นักท่องเที่ยวที่ต้องการประสบการณ์ที่แท้จริงและแตกต่าง

เอมิลี่ ศรีชะลา (Emily Srichala) ครีเอเตอร์สาวชาวอังกฤษที่พำนักอยู่ในประเทศไทยและมีครอบครัวชาวไทย นำเสนอมุมมองวัฒนธรรมไทยแบบที่ชาวต่างชาติเข้าใจได้ง่าย รักษาแก่นแท้และความลึกซึ้งของวัฒนธรรมไว้ด้วยกัน

หัวใจสำคัญในการทำคอนเทนต์ของเอมิลี่คือการถ่ายทอดมุมมองที่ไม่ใช่แค่ไวรัล แต่คือ 'ไทยแท้' แบบ insider บอกเล่าเรื่องราวที่จริงใจ เธอไม่ได้เน้นแค่การตามล่าร้านเด็ดตามกระแส แต่พาไปรู้จักร้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ตามตรอกซอกซอย พูดคุยกับพ่อค้าแม่ค้าอย่างเป็นกันเอง ชิมอาหารรสชาติต้นตำรับและแปลกใหม่ ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงแค่อาหารแต่คือ ‘ชีวิต’ คือ ‘วัฒนธรรม’ ที่จับต้องได้จริงๆ

เอมิลี่สามารถเชื่อมต่อกับผู้ชมทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้อย่างรวดเร็ว โดยใช้ TikTok เป็นประตูบานใหญ่ที่เปิดให้เธอได้แบ่งปันเรื่องราวของประเทศไทยในมุมมองที่สดใหม่ และไม่เหมือนใคร

"คอนเทนต์ของเอมิลี่เรียกได้ว่าเป็น Authentic Thai คอนเทนต์ที่เกี่ยวกับวัฒนธรรม แนะนำอาหารไทย โดยคอนเทนต์ที่พูดคุยกับพ่อค้าแม่ค้าเป็นคอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมที่สุด แล้วเอมิลี่ก็ชอบที่สุดด้วย เพราะนอกจากนักท่องเที่ยวจะได้ตามมาลองประสบการณ์ใหม่ ๆ แล้ว ยังช่วยให้พ่อค้าแม่ค้าตัวเล็กได้สร้างรายได้ แล้วทำให้เอมิลี่ได้ทำตามความฝันที่ช่วยให้พวกเค้าได้มีความเป็นอยู่ และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นด้วย"

 

กระแสเที่ยวแบบยั่งยืน

รายงานผลสำรวจเทรนด์การท่องเที่ยวปี 2568 ของ Agoda (อโกด้า) แพลตฟอร์มดิจิทัลด้านการท่องเที่ยว ก็ชี้ว่า 3 ใน 4 (76.97%) ของนักเดินทางชาวไทย ให้ความสำคัญกับการเดินทางที่เน้นความยั่งยืนในการวางแผนการเดินทางในปีนี้ ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของนักท่องเที่ยวชาวเอเชียที่ 68%

นักเดินทางชาวไทยกำลังหลงใหลเสน่ห์ของการท่องเที่ยวเพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่แท้จริงเหมือนคนท้องถิ่น พร้อมทั้งมีส่วนร่วมพัฒนาชุมชนท้องถิ่นให้ดียิ่งขึ้น โดยผลสำรวจพบว่า มากกว่า 1 ใน 4 ของผู้ตอบแบบสำรวจเลือกไปท่องเที่ยวเพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่แท้จริง ในขณะเดียวกัน 25% ให้ความสำคัญกับการสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชน เทรนด์นี้แสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของการท่องเที่ยว ซึ่งไม่เพียงแค่เดินทางเพื่อความสนุกสนาน แต่นักเดินทางยังคำนึงถึงประสบการณ์ที่จะได้รับและผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมอีกด้วย

การสำรวจยังพบว่า นักท่องเที่ยวชาวไทยประมาณ 1 ใน 5 (22%) พยายามลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยเดินทางช่วงนอกฤดูกาลเพื่อลดความแออัดในสถานที่ท่องเที่ยว นอกจากนี้ 14% ของนักท่องเที่ยวชาวไทยเลือกที่พักที่มีใบรับรองมาตรฐานความยั่งยืนระดับสากล ขณะที่ 17% นำสิ่งของที่ใช้ซ้ำได้ติดตัวไปขณะเดินทางเพื่อลดขยะ

ปีนี้ อโกด้า เปิดให้นักเดินทางจองที่พักในโครงการ Eco Deals กับพาร์ทเนอร์ใน 10 ประเทศทั่วเอเชีย โดยปีนี้เป็นปีแรกที่ประเทศญี่ปุ่นและประเทศเกาหลีใต้เข้าร่วมแคมเปญ ตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2568 ถึง 19 ธันวาคม พ.ศ. 2568 โดยนอกจากจะได้ส่วนลดสูงสุดถึง 15% แล้ว ยังมีส่วนร่วมสนับสนุนการอนุรักษ์ธรรมชาติและสร้างลกระทบที่ยั่งยืนในภูมิภาค เพราะอโกด้าจะบริจาค 1 ดอลลาร์ให้ WWF กับความพยายามในการอนุรักษ์ของ WWF สำหรับทุกการจองกับโรงแรมที่เข้าร่วม

ABOUT THE AUTHOR
L. Patt

L. Patt

ALL POSTS