HAPPENING BKK
NLINE MAGAZINE
×
ห้องอาหาร ‘เบญจรงค์’ ชวน ลิ้มรสต้นตำรับอาหารไทยโบราณช่วงรอยต่อสามกรุง
by HappBKK
16 มิ.ย. 2566, 13:49
  17,297 views

พร้อมสร้างมื้อไฟน์ไดนิ่ง ที่เต็มไปด้วยกลิ่นหอมกรุ่นของเครื่องแกง น้ำพริก น้ำปรุง ยำรสเด็ด และของหวานเย็นใจ ที่จะมอบรสสัมผัสที่น่าหลงใหล ในบรรยากาศที่อบอุ่น เป็นส่วนตัว ในเรือนอาคา

ห้องอาหารไทย ‘เบญจรงค์’ ณ บ้านดุสิตธานี ชวนสัมผัสรสชาติอันล้ำลึกของอาหารไทยโบราณ ในช่วงปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา ต่อต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ช่วงเวลาที่อาณาจักรสยามเพิ่งเริ่มเปิดรับวัฒนธรรมใหม่ๆ ที่มาจากค้าขายกับต่างประเทศ เข้ามาหลอมรวมกับวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นดั้งเดิม กลายเป็นตำรับอาหารไทยที่ยังคงไว้ด้วย รูปรส กลิ่น และสัมผัสแห่งวัฒนธรรมความเป็นไทยอันเข้มข้นอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นเมนูใหม่ที่ทีมเชฟของเบญจรงค์ จะนำมาปรุงอย่างประณีต บรรจง และพิถีพิถันตามกรรมวิธีโบราณ และสอดแทรกด้วยเทคนิคตะวันตก ในการคงความสดใหม่ๆ ให้ท่านได้ลิ้มลองและดื่มด่ำไปด้วยกัน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป


ทีมงานฝ่ายอาหารและเครื่องดื่มจากกลุ่มดุสิตธานี (หรือดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล) ใช้เวลาเกือบร่วมปี ในการสืบเสาะ ค้นคว้า และเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงพ่อแก่ แม่เฒ่าในแต่ละจังหวัดทั่วประเทศ ตั้งแต่เหนือจรดใต้ จากภาคตะวันออกสู่ตะวันตก เพื่อรวบรวมตำราอาหารโบราณที่มีความโดดเด่น น่าสนใจ  เพื่อนำมาทำงานร่วมกับทีมครัวของห้องอาหารเบญจรงค์ ผู้มากประสบการณ์ในด้านอาหารไทยแบบไฟน์ไดนิ่ง ครอบคลุมอาหารไทยชาววัง ไทยฟิวชั่น ไทยโมเดิร์น จนรังสรรค์เป็นเมนูชุดใหม่ที่คงไว้ซึ่งรสชาติอันเป็นรอยต่อของสามกรุง ที่เข้มข้นด้วยกลิ่นอายของความดั้งเดิม หลอมรวมกับเทคนิคอันลึกล้ำของนวัตกรรมตะวันตก มาปรุงอาหารไทยแท้ๆ ที่นำเสนอผ่านมุมมองอันแปลกใหม่ ที่เต็มไปด้วยประสบการณ์อันหลากหลายมิติ และเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่น่าจดจำให้กับลูกค้าได้ลองลิ้มชิมรส
“อาหารไทยขึ้นชื่อในเรื่องรสชาติอันเข้มข้น และความหอมของเครื่องเทศสมุนไพรอยู่แล้ว แต่คนส่วนใหญ่อาจจะไม่ทันตระหนักว่า นี่เป็นอิทธิพลของการผสมผสานความหลากหลายในหลากวัฒนธรรมที่หลอมรวมพร้อมกับอารยธรรมไทยมานานหลายร้อยปี” เชฟปุ๋ม สุกัญญา งามศรีขำ หัวหน้าทีมครัวของห้องอาหาร เบญจรงค์ กล่าว “ฉะนั้นสิ่งที่พวกเราต้องการนำเสนอในเมนูใหม่ คือ รากเหง้าทางวัฒนธรรมในอาหารไทย ซึ่งสามารถสืบค้น ย้อนกลับไป จากตำรับต้นตระกูลเก่าๆ ในดินแดนด้ามขวานทองของการเข้าครัวในยุคสมัยที่เราเรียกตัวเองว่า “ชาวสยาม”   เราปรุงอาหารทุกจานตามขั้นตอน และเทคนิคโบราณอันซับซ้อน เพื่อแสดงออกถึงการเคารพต้นฉบับอาหารไทยอันทรงคุณค่า และนำมาเสนอผ่านมุมมองของความร่วมสมัยในยุคปัจจุบัน ซึ่งจะทำให้ลูกค้าได้สัมผัสกับประสบการณ์แปลกใหม่บนโต๊ะอาหาร  ตอนที่เราเริ่มทำเมนูใหม่นี้ ทีมครัวทุกคนมีความสุขกับการทำอาหารมาก เพราะทุกคนได้ย้อนเวลากลับไปในช่วงเวลาที่เราเริ่มต้นตกหลุมรักการทำอาหาร เราสนุกกับการเลือกสรรวัตถุดิบชั้นยอดมาปรุงอาหารตามขั้นตอนอย่างพิถีพิถัน เพื่อส่งมอบรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของอาหารไทย  และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ลูกค้าทุกท่านจะได้สัมผัสกับรสชาติที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา และมีความสุขกับมื้ออาหารร่วมไปกับเรา” 

ยำมังคุด
แกงแขกขาเป็ดและผลไม้แห้ง

ห้องอาหารเบญจรงค์ขอชวนไปทำความรู้จักกับเมนูใหม่ที่จะช่วยสร้างความสดชื่นและเตรียมความพร้อมของการดื่มด่ำกับรสชาติอาหาร ด้วย ตั้งแต่ ต้มยำขแมร์ (ทำจากน้ำสต็อกกุ้งเผา แตงกวา ปลาแห้ง และมะม่วงดิบ) ไปจนถึงความซับซ้อนของรสชาติเครื่องแกงอันเข้มข้นในเมนู แกงแขกขาเป็ดและผลไม้แห้ง (ทำจากเครื่องแกงและผงมาซาลาแบบโฮมเมด ผลไม้แห้ง หอมเจียว และกระเทียม) เราคัดสรรวัตถุดิบชั้นยอดที่หาได้ยาก และเป็นของดีขึ้นชื่อจากแต่ละจังหวัด นำมา โขลก ตำ กวน ปิ้ง นึ่ง ย่าง จี่ อบ ต้ม ผัด หลน และงบ เพื่อได้เครื่องแกงและซอสปรุงรสที่มีรสสัมผัสดั้งเดิม อันโดดเด่นด้วยมือของทีมครัว ดังนั้น จึงมั่นใจได้ว่าท่านจะได้ลิ้มรสแห่งความสด สะอาด และจากธรรมชาติล้วนๆ ในทุกเมนู เปรียบเสมือนอาหารยา“ทุกอย่างคือความสมดุล” เชฟปุ๋ม สุกัญญา กล่าว “วิธีรับประทานอาหารไทยที่เราอยากแนะนำ คือ การเลือกเมนูที่มีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ซุป แกง ยำ ของทอด น้ำพริก รับประทานร่วมกับข้าวหอมมะลิออแกนิกที่เรารับตรงมาจากกลุ่มชาวนาเกษตรอินทรีย์จากทุ่งกุลาร้องไห้  เพื่อเปิดรับ รสหวาน เค็ม เผ็ด และเปรี้ยว ที่จะช่วยส่งเสริมและตัดรสชาติกันและกันอย่างลงตัว รวมทั้งให้เนื้อสัมผัสที่แตกต่างกันในแต่ละเมนู จากวัตถุดิบคุณภาพเยี่ยม ซึ่งจะทำให้มื้ออาหารที่ห้องอาหารเบญจรงค์ กลายเป็นมื้ออันน่าจดจำของทุกคน"

ไข่สามเขย
น้ำพริกลงเรือ
หมูผัดใบชะมวง

ชุดเมนูใหม่ มีให้เลือกสรรกว่า 32 เมนู อาทิ ไข่สามเขย ซึ่งประกอบด้วยไข่ 3 ชนิดคือ ไข่นกกระทา ไข่เป็ด และไข่ไก่ หมูกรอบสี่สหาย ที่กรอบนอกนุ่มใน  และหอมกรุ่นด้วยพริกไทยหอมสี่ชนิด กงพริกสดปูม้า ปรุงด้วยเครื่องแกงคล้ายแกงไตปลา หน่อไม้น้ำ และเนื้อปูก้อน จัดจ้านแบบอาหารใต้ น้ำพริกกุ้งย่างสายบัว ที่ใช้เนื้อกุ้งสดและปลาแห้ง โขลกกับเคยชั้นดี ตัดรสฝาดด้วยสายบัวซอยหั่น เข้าคู่กับไข่เป็ดต้มและกากหมูทอด นื้อกวางสะเต๊ะลือ ที่หมักเครื่องเทศที่แทรกไปทุกอณูของเนื้อ แล้วนำไปย่างเสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มถั่ว และอาจาด ที่ได้ชื่อว่าอร่อยลือลั่นไปทั่วพระนคร แกงจืดหมูสามชั้น และปลาหมึกพริกไทยอ่อน ที่เชฟต้มน้ำซุปจากกระดูกสะโพกหมูอบกว่า 10 ชั่วโมงจนงวดกลมกล่อมเข้าคู่กับหมูสามชั้นสไลด์บางเฉียบ และปลาหมึกอ่อนที่ผ่านการปรุงด้วยพริกไทยอ่อนและนึ่งจนนุ่มละลายในปาก ตลอดจน ปูม้านึ่งนมสด ข้าวผัดสับปะรดไข่แมงดา แกงคั่วปักษ์ใต้ขาแกะ และแกงกุ้งลายเสือดอกดาหลา

ข้าวเหนียวเปียกลำไย

สำหรับเมนูขนมหวาน ห้องอาหารได้นำเสนอ พุดดิ้งมะพร้าว ที่หอมนุ่มละมุน เสิร์ฟพร้อมเนื้อมะพร้าวอ่อนโรย ปิดท้ายมื้ออาหารอย่างอิ่มเอม  หรือท่านจะเลือกความสดชื่นด้วย ส้มฉุน ที่ใช้ลิ้นจี่และผลไม้ต่างๆ ตามฤดูกาลมาทำเป็นของหวานลอยแก้วดับร้อน ด้วยรสหอม ไม่เปรี้ยวแหลมจากส้มซ่า และดอกมะลิที่ให้ความหอมสดชื่น ของหวานโบราณที่สามารถบ่งบอกเรื่องราวของการรู้จักวัตถุดิบพื้นถิ่นของคนไทยในอดีตได้เป็นอย่างดี
ราคาอาหารเริ่มต้นจานละ 220++ บาท ไปจนถึง 1,290++ บาท พร้อมกันนี้ ห้องอาหารเบญจรงค์ ยังมีไวน์คุณภาพเยี่ยมพร้อมเสิร์ฟคู่กับอาหารไทยในราคาแก้วละ 390++ บาท และสำหรับทั้งขวด ราคาเริ่มต้นเพียง 1,890++ บาท


‘เบญจรงค์’ ยังเป็นมากกว่าห้องอาหารไทย เพราะเต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์อันน่าจดจำ ห้องอาหารเป็นอาคารหลัก ที่ตั้งอยู่ใน ‘บ้านดุสิตธานี’ ที่งดงามและโดดเด่นสะดุดตาด้วยสถาปัตยกรรมอาคารทรงตะวันตกจากยุคก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 และบริเวณโดยรอบที่รายล้อมด้วยพื้นที่สีเขียวของพันธุ์ไม้ต่าง ๆ ที่ทางกลุ่มดุสิตธานีได้เก็บรักษาโครงสร้างอาคาร และสถาปัตยกรรมดั้งเดิมไว้ แต่นำมาปรับปรุงตกแต่งใหม่ให้มีกลิ่นอายของความเป็นดุสิตธานี จัดแสงไฟโทนอบอุ่น เพิ่มกลิ่นหอมอโรมา และใส่ดนตรีที่บรรเลงอย่างแผ่วเบา เพื่อสร้างบรรยากาศแบบผ่อนคลาย และเพิ่มรสชาติให้มื้อสำคัญของทุกท่าน และยังนำท่านให้จินตนาการถึงงานบริการระดับโลกของโรงแรมดุสิตธานี ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด รวมถึงยังสอดคล้องกับแนวคิดด้านสุขภาพของดุสิต (Dusit’s Wellness) ในทุกมิติ 


ห้องอาหาร เบญจรงค์ ตั้งอยู่ใน บ้านดุสิตธานี บนถนนศาลาแดง มีที่จอดรถไว้บริการ และสามารถเดินมาได้จากทั้งรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีศาลาแดง หรือรถไฟฟ้าใต้ดิน สถานีสีลม โดยใช้เวลาไม่กี่นาที สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และสำรองที่นั่งทั้งสำหรับมื้อกลางวันและมื้อค่ำได้ที่ อีเมล์: info@baandusitthani.com,  Official Line Account @baandusitthani เว็บไซต์ www.baandusitthani.com หรือโทร 02 200 9009.

 

ABOUT THE AUTHOR
HappBKK

HappBKK

Live Every Day

ALL POSTS