HAPPENING BKK
NLINE MAGAZINE
×
เบลฟอร์ต ออโตโมบิล (ประเทศไทย) เปิดแผนรุกตลาดเปอโยต์-จี๊ป เตรียมเผยโฉมรถไฟฟ้าและรุ่นพิเศษในงานมอเตอร์โชว์ 2566
by L. Patt
21 ก.พ. 2566, 17:19
  439 views

หลังจากประสบความสำเร็จในการรีแบรนด์รถยนต์ฝรั่งเศส เปอโยต์ และเปิดตลาด จี๊ป ราชาออฟ-โรดสัญชาติอเมริกัน ในตลาดเมืองไทยอีกครั้ง บริษัท เบลฟอร์ต ออโตโมบิล (ประเทศไทย) ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายแบรนด์รถยนต์เปอโยต์ และจี๊ป อย่างเป็นทางการในประเทศไทย มั่นใจ ดันยอดขายเปอโยต์ปีนี้ถึง 1,000 คัน เติบโต 70% และเพิ่มยอดขายจี๊ปอีก 150 คัน 

สุนทรพันธ์ เดชะเทศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เบลฟอร์ต ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงแผนธุรกิจ ปี 2566 ว่า บริษัทมุ่งเน้นการดำเนินงานใน 4 เสาหลัก ได้แก่ ทิศทางใหม่ของแบรนด์ (New Brand Direction) ซึ่งเปอโยต์ได้ปรับเปลี่ยน CI ใหม่ (Corporate Identity) หรือ อัตลักษณ์องค์กร ที่ให้อารมณ์ความรู้สึก (Mood & Tone) ที่โฉบเฉี่ยว สดใส ทันสมัย รองรับกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะ Gen-Y; เพิ่มความหลากหลายของสินค้าเพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค (New Products Enhancement); ยกระดับคุณภาพการบริการ (Service Quality Improvement); และ การขยายเครือข่าย (Network Expansion)

เปอโยต์ e-2008

ในปี 2565 บริษัทมียอดขายเปอโยต์ 590 คัน เติบโตจากปี 2564 ถึง 34% และมียอดขายสะสมนับตั้งแต่เริ่มกลับเข้ามาทำตลาดในเมืองไทย รวม 1,618 คัน ในช่วงเวลาเพียง 3 ปี โดยปีนี้ บริษัทตั้งเป้ายอดขายถึง 1,000 คัน ซึ่งนอกจากความชื่นชอบเปอโยต์เอสยูวี รุ่น 2008, 3008 และ 5008 ซึ่งเป็นรถ 7 ที่นั่ง ดีไซน์สวยเฉียบ สมรรถนะเยี่ยม และความโดดเด่นของรถที่ได้รับรางวัล Red Dot Design Awards ต่อเนื่องหลายปี พร้อมบริการหลังการขายครบครันแล้ว บริษัท ยังมีแผนนำเข้ารถไฟฟ้าเปอโยต์รุ่นใหม่ ได้แก่ เปอโยต์ รุ่น e-2008 ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% และรุ่น 408 ปลั๊กอิน ไฮบริด เพื่อเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้บริโภค ตอบรับเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่เติบโตต่อเนื่อง โดยจะเปิดตัวให้สัมผัสก่อนใคร พร้อมราคาจำหน่ายในงาน แบงค็อก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2566 ซึ่งผู้ที่สนใจ สามารถพรีออเดอร์ได้ 

เปอโยต์ 408 

“แม้ว่ารถซีดานจะเป็นเรือธงของค่ายเปอโยต์ แต่ต้องยอมรับว่า กระแสความนิยมรถเอสยูวียังคงแรงต่อเนื่อง ซึ่งได้แรงหนุนจากผู้เล่นรายใหม่ๆ จากจีน และรถยนต์ที่พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ออกสู่ตลาด ดังนั้น เปอโยต์จึงเน้นทำตลาดเอสยูวีเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค” 

ส่วนตลาดจี๊ป ก็มีกระแสตอบรับเป็นอย่างดีหลังจาก เบลฟอร์ต ออโตโมบิล (ประเทศไทย) ได้รับความไว้วางใจจากบริษัทแม่ สเตลแลนทิส ให้เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย จี๊ป อย่างเป็นทางการในประเทศไทยเมื่อต้นปี 2565 และเปิดตลาดด้วยการนำเข้ารถ 2 รุ่นยอดนิยมอย่าง แรงเลอร์ รูบิคอน และ กลาดิเอเตอร์ รูบิคอน ซึ่งบริษัทตั้งเป้ายอดขายปีนี้ 150 คัน เติบโตเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 220% โดยจะมีการเปิดตัว จี๊ป แรงเลอร์ รูบิคอน รุ่นพิเศษ ที่ครบครันด้วยชุดแต่ง Mopar ลิขสิทธิ์แท้จากสหรัฐอเมริกา ที่จะมาเผยโฉมในงานมอเตอร์โชว์ 2566 เช่นเดียวกัน

สุนทรพันธ์ กล่าวว่า เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดทั้งสองแบรนด์ บริษัทมีแผนขยายเครือข่ายโชว์รูมเปอโยต์พร้อมศูนย์บริการมาตรฐานครบวงจรเพิ่มขึ้นอีก 5 สาขา จากปัจจุบัน 10 สาขา ได้แก่ เชียงใหม่ ขอนแก่น อุดรธานี นครราชสีมา และกรุงเทพฯ ส่วนเครือข่ายโชว์รูมจี๊ป ได้เปิดบริการแล้วที่พัทยา วงเวียนพระราม 5 – ราชพฤกษ์ และสาขานิมิตรใหม่ ที่คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ โดยบริษัทมีแผนจะขยายสาขาในต่างจังหวัดเพิ่มอีก 5 แห่ง ได้แก่ เชียงใหม่ อุดรธานี ขอนแก่น นครราชสีมา และอุบลราชานี พร้อมกับเปิดโอกาสสำหรับผู้ที่สนใจทั่วประเทศได้ร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับทั้งสองแบรนด์ด้วย

ไม่เพียงเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีแล้ว เบลฟอร์ต ออโตโมบิล (ประเทศไทย) ยังนำเสนอแพ็กเกจที่หลากหลายเพื่อให้ตอบโจทย์ลูกค้าที่มีความต้องการและความคาดหวังที่แตกต่างกัน รวมถึงการยกระดับการบริการหลังการขาย โดยมีการเปิดตัวบริการใหม่ “1488 Always Connected” เมื่อปลายปีที่ผ่านมา เพื่อให้ลูกค้าทั้งจี๊ปและเปอโยต์ โทรเบอร์เดียว ได้รับบริการข้อมูลสินค้า และข้อสเนอพิเศษ อีกทั้งสามารถเชื่อมต่อโดยตรงไปยังผู้จัดจำหน่าย รองรับบริการทั้งก่อน และหลังการขาย ตลอดจนบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง

สุนทรพันธ์ กล่าวอีกว่า นอกจากสองแบรนด์นี้แล้ว บริษัทยังมุ่งขยายโอกาสทางธุรกิจด้วยการนำเข้ารถยนต์แบรนด์อื่นๆ เพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งผลจากความสำเร็จอย่างมากในการทำตลาดเปอโยต์ และจี๊ป ทำให้คาดหวังว่า บริษัทจะได้รับความไว้วางใจจาก กลุ่มสเตลแลนทิส (Stellantis) เพื่อทำตลาดแบรนด์ใหม่ในตลาดเมืองไทยเพิ่มขึ้น

สำหรับกลุ่มสเตลแลนทิส เป็นการควบรวมกิจการระหว่าง 2 ผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ คือ FCA (Fiat-Chrysler Automobiles) เจ้าของแบรนด์ อาบาร์ธ, อัลฟา โรเมโอ, ไครสเลอร์, ดอด์จ, เฟียต, จี๊ป, แลนเซีย, แรม และ มาเซราติ กับ Groupe PSA เจ้าของแบรนด์ เปอโยต์, ซีตรอง, ดีเอส, โอเปิล และวอคซ์ฮอลล์ ส่งผลให้กลายเป็นผู้ผลิตรถยนต์อันดับ 4 ของโลก

 

ABOUT THE AUTHOR
L. Patt

L. Patt

ALL POSTS