ปักหมุด “ยะลา” เมืองพหุวัฒนธรรม เช็คอินแหล่งท่องเที่ยว กิน ช้อป แชะ สุดเพลิน
สัมผัสเสน่ห์ยะลา เที่ยวเมืองสวยใต้สุดของไทย กับหมุดหมายและกิจกรรมห้ามพลาด
ใครที่ได้ไปเยือนยะลาเป็นครั้งแรกมักจะพกพาเอาความประทับใจหลาย ๆ ด้านกลับบ้านไปด้วย หลายคนอาจจะยังไม่กล้าไปเที่ยวยะลา จังหวัดใต้สุดของไทย แต่หารู้ไม่ว่ายะลานั้นเที่ยวได้อย่างสบาย ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด และมีที่เที่ยวแบบอันซีนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและหลากหลาย เพราะคนยะลายังคงรักษาวิถีชีวิตและประเพณีของตนไว้อย่างเหนียวแน่น ความแตกต่างกันทั้งด้านเชื้อชาติ ภาษา และศาสนา บ่งบอกถึงความเป็นพหุวัฒนธรรมที่เสริมเสน่ห์ให้กับเมืองยะลา
ไม่น่าแปลกใจที่เราแทบจะไม่ได้ยินภาษาใต้กันเลยในเมืองยะลา เพราะประชากรมากกว่า 81% นับถือศาสนาอิสลาม ประชากรส่วนใหญ่ใช้ภาษามลายูปัตตานีในการสื่อสาร ส่วนใหญ่เป็นชาวไทยเชื้อสายมลายู รองลงมาคือชาวไทยเชื้อสายจีนและชาวไทยพุทธ แต่ถึงแม้สัดส่วนจะฟังดูน้อยนิดเมื่อเทียบกับภาพรวมของภูมิภาคอื่นๆ แต่นายพงศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรียืนยันกับแขกผู้มาเยือนว่า “ยะลาเป็นจังหวัดที่มีประชากรชาวพุทธสัดส่วนมากที่สุดในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้”
ความประทับใจแรกนั้นคือความศิวิไลซ์ของเขตเทศบาลเมืองยะลาที่คนต่างเมืองล้วนต้องอิจฉา ยะลาเป็นเมืองที่มีการวางผังเมืองที่ดีและสวยงามที่สุดในประเทศไทยชนิดที่เมืองหลวงอย่างกรุงเทพ หรือหัวเมืองใหญ่อื่นๆ เทียบไม่ติด ถูกจัดให้เป็นเมืองที่มีการวางผังเมืองสวยเป็นอันดับที่ 23 ของโลก มีวงเวียนซ้อนกัน 3 ชั้น ถนนกว่า 400 สายเชื่อมต่อกันเป็นใยแมงมุม มีการจัดโซนนิ่งต่างๆ อย่างชัดเจน ใครมาเที่ยวจะรู้สึกได้ถึงความคล่องตัวในการเดินทาง
มาถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่คนที่ไปเยือนครั้งแรกที่มีเวลาจำกัด รวบตึงเที่ยวปูพรมให้ทั่ว ตามมิติวัฒนธรรมความงามทางธรรมชาติและภูมิประเทศ ไปจนถึงความเป็นสมาร์ทซิตี้และความร่วมสมัยของจังหวัด ทั้งยังได้รับการยอมรับจากสายวิ่งยกให้ ยะลามาราธอน เป็นอันดับ 2 จากTop-10 งานวิ่งที่ดีที่สุดในประเทศ เพราะมีเส้นทางวิ่งทางธรรมชาติที่สวยงาม ทั้งนี้ทานนายกฯ พงษ์ศักดิ์ วางเป้าไว้แล้วที่จะผลักดันกิจกรรม ยะลามาราธอน ให้ขึ้นสู่อันดับหนึ่งในระดับประเทศให้ได้
งานวิ่งเพิ่งจัดไปได้สองครั้ง และครั้วที่สองเพิ่งเสร็จสิ้นไปเมื่อปลายเดือนกรกฎาคม จังหวะเวลานั้น ท่านนายกบอกว่าพอดีกับที่ผู้มาเยือนจะได้ชิมผลไม้หลากหลายที่มีชื่อของจังหวัด ที่ออกผลกันในช่วงนั้นพอดี “เราตั้งใจให้มีการจัดงานในช่วงฤดูกาลผลไม้ดัง จะได้โปรโมทของดีของเราไปในตัว”นายกฯ พงษ์ศักดิ์ กล่าว
ส่วน #สายเที่ยว #สายอินสตาแกรม สามารถแพลนการเช็คอินตามแลนด์มาร์คของยะลาได้เลย มาเริ่มกันที่ศาลหลักเมืองยะลา กันเลย กราบสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล และศาลหลักเมืองยะลา ยังเป็นจุดศูนย์กลางของผังเมืองรูปใยแมงมุม โดยมีสวนสาธารณอันร่มสวยงามอยู่ในบริเวณเดียวกัน ถ้าเที่ยวในเขตเทศบาลแล้วไม่มีใครพลาดมุดหมายนี่แน่นอน จากนั้นไปต่อกันที่จุดกมาย unseen ที่วัดคูหาภิมุข หรือ วัดหน้าถ้ำ วัดสำคัญและเก่าแก่ของจังหวัดยะลา ทางขึ้นมีบันได 136 ขั้น ภายในถ้ำใหญ่เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ พระพุทธรูปเก่าแก่หลายองค์ พระพุทธบาท รวมไปถึงรูปปั้นฤาษี รูปปั้นยักษ์พ่อท่านเจ้าเขา ขนาดใหญ่บริเวณด้านหน้าปากถ้ำ ซึ่งเป็นผู้ปกปักษ์รักษาและปัดเป่าความชั่วร้าย ตามความเชื่อของชาวยะลา
ก่อนกลับอย่าลืมช้อปกันกับสินค้าท้องถิ่นจากภูมิปัญญาชาวบ้าน ของกลุ่มสีมายาที่เป็นชาวบ้านชุมชนบริเวณถ้ำรวมกลุ่มกันทำ “ผ้าสีมายา” เป็นผ้าแฮนด์เมดมัดย้อมจากสีของดินมายา ที่เป็นดินท้องถิ่นของจังหวัดยะลา ภูมิปัญญาชาวบ้านที่ช่วยสร้างรายได้ให้กับชุมชน มีทั้ง หมวก เสื้อ กระเป๋า และของที่ระลึกลวดลายมัดย้อมสวยงาม
จากนั้น #สายมู ไปต่อกับหมุดหมายที่ห้ามพลาดคือสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกแห่งของจังหวัดคือ ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ที่นี่เป็นที่เคารพสักการะของชาวไทยทุกศาสนา ไม่ใช่เพียงแค่ชาวไทยเชื้อสายจีนเท่านั้น หากใครมาเยือนช่วงเทศกาลตรุษจีนและช่วงหลังเทศกาลตรุษจีน ก็จะตรงกับวันมูลนิธิแม่กอเหนี่ยว ก็จะมีพิธีแห่ลุยไฟ และพิธีต่างๆ ที่จัดว่าเป็นอีกหนึ่งงานที่ยิ่งใหญ่ของจังหวัดและชาวใต้เลย
ระหว่างเที่ยวเล่นในเมือง #สายอาร์ต ต้องไม่พลาดหมุดหมายสุดชิค คือสตรีทอาร์ทเมืองยะลา หรือ Yala bird city street art ที่ได้ศิลปินชื่อดัง เช่น Alex Face, October 29, BigDel มาสร้างสรรค์งานให้เป็นสื่อกลางสื่อสารไปยังคนทั่วไปให้เปลี่ยนมุมมองใหม่สำหรับเมืองชายแดนใต้อย่างยะลา สตรีทอาร์ทมีให้ชมย่านเมืองเก่าบริเวณชุมชนประชานุกูล ถนนนวลสกุล ย่านสะพานดำ และอีกหลายจุดในเทศบาลเมือง ชวนให้นักท่องเที่ยวอย่างเราๆ แชะกันสนุกสนานกับงานศิลปะที่ผสมผสานกับบ้านเรือนแบบโบราณได้อย่างลงตัว ส่วนชื่อของงานมาจากประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของจังหวัดที่มีการเลี้ยงนกมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะนกกรงหัวจุกและนกเขายะลา จนกลายเป็นวิถีชีวิตท้องถิ่น ศิลปินรับเชิญนำเรื่องนกมาถ่ายทอดเรื่องราวเป็นศิลปะบนท้องถนน ทุกจุดคือแชะกันจนเมื่อน สวยปังไม่ไหว
อีกจุดที่ไม่ควรพลาดเช็คอิน สำหรับคนรุ่นใหม่ อุทยานการเรียนรู้ยะลา (TK park ยะลา)
อุทยานการเรียนรู้ยะลา (TK park ยะลา) ซึ่งเป็นอุทยานการเรียนรู้ส่วนภูมิภาคต้นแบบแห่งแรก ท สำหรับคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ เมืองนี้เป็นเมืองที่มีวัฒนธรรมที่หลากหลายอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืน และมรดกทางวัฒนธรรมและธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ของเมืองนี้เป็นแรงบันดาลใจให้ชาวเมืองเติบโตและก้าวไปสู่อนาคตด้วยความภาคภูมิใจและความมั่นใจ ที่อาคารรูปทรงทันสมัยใจกลางเมืองนี้ เป็นาถ่นที่จัดงานของคนรุ่นใหม่ เช่น งาน Yala Stories ที่ซึ่งเยาวชนจากทั่วทุกมุมของยะลาได้รับเชิญให้มาแบ่งปันความคิดเห็นเกี่ยวกับบ้านเกิดของตน พร้อมแสดงความต้องการและข้อกังวลของพวกเขาในอนาคต หรือการจัดงานนิทรรศการผ้าพื้นเมืองของยะลา "ปากายัน มาลายู" และแฟชั่นโชว์มลายูเร็วๆ นี้ ที่พยายามผลักดันให้ยะลาเป็นศูนย์กลางแฟชั่นทางภูมิภาคนี้
เรียกว่ายะลา มีครบรสฟินจริงๆ นี่ยังไม่รวมการไปเที่ยวเบตง ซึ่งแน่นอนว่าถ้าไปเบตงก็จะเป็นอีกหมุดหมายที่มีแหล่งท่องเที่ยว ทางธรรมชาติและวัฒนธรรมอีกมากมาย สตรีทอาร์ท และอาหารที่ไม่เหมือนทางเทศบาลเมือง คือเป็น destination ในจังหวัดยะลาที่มีมิติแตกต่างจากทางเทศบาลเมืองอีก
ส่วน #สายกิน ยะลา น่าจะเป็นจุดหมายปลายทางที่นักชิมโปรดปราน ยะลาเป็นดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ มีดินคุณภาพดีที่สุดและผลไม้ที่อร่อยที่สุด ตามที่นายกฯโฆษณาไว้ ที่เลื่องลือคือส้มโชกุนที่มีรสชาติโดดเด่น หวานอมเปรี้ยว เนื้อนุ่ม เปลือกล่อน ปอกง่าย มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ส่วนเหล่า #สายทุเรียน ต้องใจเต้นแรงกับทุเรียนที่นี่ เพราะจังหวัดยะลา มีพื้นที่ปลูกทุเรียนมากที่สุดในภาคใต้ตอนล่าง และมีเอกลักษณ์คือ “ทุเรียนสะเด็ดน้ำยะลา” หรือทุเรียนที่ปลูกบนภูเขา มีให้เก็บเกี่ยวตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายนจนถึงปลายเดือนตุลาคม เนื่องด้วยลักษณะภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขา เนินเขาและป่าไม้ ทำให้ทุเรียนยะลามีเนื้อแห้ง เนียนละเอียด หลุดจากเปลือกได้ง่าย แถมยังมีมากมายหลายสายชนิด ไม่ว่าจะเป็น หมอนทอง ก้านยาว พวงมณี หนามดำ หรือ มูซานคิง สายพันธุ์ดังจากทางประเทศมาเลเซีย ที่นำมาปลูกครั้งแรกที่อำเภอเบตง
นอกจากนี้ยังมี ลองกอง ที่มีการคัดเกรดแบบพรีเมี่ยมลูกใหญ่ เปลือกบาง เนื้อขาวใส หวาน หอม และอร่อย ลังแข ผลไม้ป่าหน้าตาคล้ายกระท้อน รสชาติอมเปรี้ยวอมหวาน, จำปูลิง ผลไม้ป่าในท้องถิ่นภาคใต้อีกหนึ่งชนิด ที่พบเห็นได้ยากในปัจจุบัน มีลักษณะคล้ายมะไฟ แต่มีขนาดผลเล็กกว่า รสชาติหวานอมเปรี้ยวคล้ายกับมะไฟ, ละไม ลักษณะคล้ายผลมะไฟ ผลอ่อนสีเขียว แก่แล้วเป็นสีขาว หรือสีน้ำตาลอ่อน มีกลิ่นหอม รสอมเปรี้ยวอมหวาน และ กล้วยหิน ที่นิยมนำมาทำ กล้วยหินฉาบ ของดีประจำท้องถิ่น ที่หอมหวาน กรุบกรอบ ทานเพลินจนเบรคไม่อยู่
ส่วนร้านอาหารมีให้ชิมจนตัวแตกได้เลย เพราะความเป็นพหุวัฒนธรรม ทำให้มีอาหารตั้งแต่สไตล์อาหารใต้รสจัดจ้าน (ร้านธารา) อาหารเช้าของคนรุ่นใหม่ กับชารสเข้ม (ร้าน Anna’s Garden ) อาหารมุสลิม อาหารอินเดีย (Diggin Indian Café Yala )อาหารใต้รสจัดจ้าน (ร้านแลผา หน้าถ้ำ) ร้านข้าวต้มแสนอร่อย (ร้านข้าวต้มโอเค) และสตรีทฟู้ดยอดนิยม อย่างย่านอาหารกลางวัลของคนท้องถิ่นที่ ที่ ในซอยมัสยิดกาโบหรือที่ชาวบ้าน เรียกกันว่า ตรอกร้านซุปเปิดให้บริการมานานกว่า 60 ปี หลากหลายร้านให้เลือกโดยมีพระเอกของย่านนั้นคือซุปเนื้อที่มาถึงยะลาแล้วต้องชิม นอกจากนี้ยังมีร้านกาแฟ ให้ #สายคาเฟ่ ได้ชิมกัน คาเฟ่ คีรีเขต (KIRIKHET) เพราะยะลาเองก็มีการปลูกกาแฟของตนเองด้วย ต้องบอกว่าทุกร้านนอกจากจะมีรสชาติสุดฟินแล้ว ยังมีราคาที่น่ารักมาก ๆ อิ่มคุ้ม
อิ่มแล้ว กองทัพนักเที่ยวสามารถเลือกซื้อของที่ระลึกติดไม้ติดมือกันได้
#สายช้อป เริ่มกันได้ตั้งแต่ผ้าย้อมสีธรรมชาติที่วัดหน้าถ้ำ หรือผ้าลายโบราณพื้นเมืองอย่าง ผ้าปะลางิง ที่ใช้เทคนิคการพิมพ์ลายด้วยเทียนจากบล็อกไม้ ทำให้ผ้ามีความพิเศษแตกต่างจากผ้าทั่วไป เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีมาแต่โบราณ โดยมี นายปิยะ สุวรรณพฤกษ์ ผู้ก่อตั้งกลุ่มศรียะลาบาติก เป็นผู้พลิกฟื้นขึ้นมา มีขั้นตอนการทำที่ซับซ้อนและลวดลายสวยงาม อีกทั้ง ยังสอดแทรกเรื่องราวของวัฒนธรรมต่างๆ ลงในลายผ้าได้อย่างวิจิตรงดงามและเป็นเอกลักษณ์ หรือจะเลือกซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นมุสลิมก็มีให้เลือกหลากหลาย หรือจะซื้อของอร่อยก็ช้อปกันเพลินมากมายจนหิ้วไม่ไหว
ไม่แปลกใจเลยว่าใครมาเยือนยะลา จะต้องหลงรักจุดหมายปลายทางนี้ และมาเยี่ยมเยือนอีกบ่อย ๆ
เรียบเรียงโดย Veen T.