พระอารมณ์ขันของกรมสมเด็จพระเทพฯ ในนิทรรศการภาพถ่าย “ได้ออกนอกบ้าน-Free at Last"
เป็นเวลากว่า 17 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550 ที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระราชทานภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ให้แก่สมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อนำมาจัดแสดงในรูปแบบนิทรรศการให้ประชาชนได้ชื่นชมผลงานอย่างใกล้ชิดในนิทรรศการ “ได้ออกนอกบ้าน” (Free at Last!)
สำหรับปีนี้ นิทรรศการได้จัดแสดงภาพถ่ายฝีพระหัตถ์จำนวน 150 ภาพ ซึ่งเป็นภาพที่ทรงบันทึกระหว่างการเสด็จพระราชดำเนินไปยังสถานที่ต่าง ๆ ตลอดปี พ.ศ. 2567 ภาพถ่ายแต่ละภาพมิใช่เพียงแค่สะท้อนความงดงามและคุณค่าทางศิลปะการถ่ายภาพ แต่ยังเล่าเรื่องราวสถานที่ ผู้คน และสิ่งที่ทรงสนพระราชหฤทัยได้อย่างลึกซึ้ง
สิ่งที่โดดเด่นอีกประการหนึ่งคือ การที่แต่ละภาพสะท้อนพระอารมณ์ขันและเรื่องราวเบื้องหลังผ่านมุมมองเฉพาะพระองค์ ซึ่งเปรียบเสมือนการเล่าเรื่องผ่านสายพระเนตร ให้ผู้ชมได้สัมผัสทั้งความงดงาม ความทรงจำ และความเรียบง่ายที่แฝงด้วยความหมายลึกซึ้งในทุกภาพถ่ายที่จัดแสดงครั้งนี้
พระอารมณ์ขันของพระองค์ปรากฏให้เห็นอย่างเด่นชัดในภาพถ่ายหลายภาพ อย่างเช่น รูปของ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ซึ่งพระองค์ให้คำบรรยายภาพว่า “สัญญาว่าจะมาทุกปี” คือเป็นภาพที่ขาดไม่ได้ของนิทรรศการ (“strictly required” every year) กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงถ่าย ดร.สุเมธ แบบถ่ายภาพซ้อนภาพในแต่ละปี และจะเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ อย่างในปีที่ผ่านมา ท่านทรงตั้งชื่อภาพว่า “Gathering of Dr. Sumet”
อีกภาพเป็นภาพ “รายการพระกระยาหาร” ที่ทรงถ่ายไว้จากจังหวัด ชุมพร มีคำบรรยายว่า
“คนสงสัยชื่อของร้านผัดซีอิ้ว นี่เป็นชื่อเก่า ร้านไม่มีชื่อ แม่โกรธพ่อเลยเรียกว่าร้านพ่อมันตาย บอกว่าชื่อนี้ไม่เป็นมงคล ควรชื่อ พ่อมันแข็งแรง วันก่อนกินราดหน้า คนเอาอาหารมาตั้งให้บอกว่า ราดหน้าร้านพ่อมันแข็งแรง”
ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ “ได้ออกนอกบ้าน” (Free at Last!) ยังมีผลงานที่น่าประทับใจอีกมากจากการทรงงานทั้งในและต่างประเทศ กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงบันทึกเรื่องราวผ่านเลนส์ ทำให้เห็นถึงความสนใจที่หลากหลายของพระองค์ท่าน ทั้งด้านประวัติศาสตร์ ศิลปะ สิ่งแวดล้อม การศึกษา อาหาร หรือสัตว์
ในงานชุดนี้ยังมีรูปวรนุช สัตว์ที่หลายคนอาจจะกลัวไม่กล้าเข้าใกล้ แต่พระองค์ทรงถ่ายภาพมาอย่างมีองค์ประกอบงดงาม พร้อมด้วยคำบรรยายภาพที่เรียกรอยยิ้มของผู้ได้ชม
แม้จะทรงเผชิญกับปัญหาด้านพระพลานามัย แต่พระองค์ยังทรงมีพระวิริยะในงานทรงงานและถ่ายภาพอย่างไม่ลดละ พระองค์ยังคงทรงออกเดินทางไปทั่วโลกเพื่อบันทึกภาพความงดงามและแรงบันดาลใจ และด้วยการแบ่งปันผลงานของพระองค์แก่ประชาชนทั่วไป HappeningBKK จึงขอเชิญชวนให้พวกเราร่วมเดินทางผ่านสายพระเนตรของพระองค์ในนิทรรศการครั้งนี้
ในงานวันเปิดนิทรรศการท่านยังทรงตรัสทิ้งท้ายไกับทุกคนที่จะมาชมว่า “ขอเชิญถ่ายภาพตามสบาย”
นิทรรศการเปิดให้ชมถึง มีนาคม 2568 ที่ชั้น 9 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (สี่แยกปทุมวัน)