HAPPENING BKK
NLINE MAGAZINE
×
เอาใจสายมู เสริมดวงสุดปังกับเครื่องประดับหรูคู่ราศี
by วรวุฒิ พยุงวงษ์
2 ส.ค. 2565, 23:23
  852 views

ถ้าคุณเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ เลือกสีเสื้อเสริมดวง ปรับฮวงจุ้ยเสริมมงคล เรื่องนี้คงน่าสนเพราะเครื่องประดับคู่เดือนเกิดเป็นของหรูสุดปังของสายมูตัวจริง!

 

จากสีชมพูสดอมแดงของทับทิมกับไพลินน้ำเงินล้ำลึกไปจนถึงมรกตเขียวส่อง และเพชรน้ำงาม ล้วนได้รับการจับคู่เสริมดวงประจำราศีเกิดมานับแต่ยุคไอยคุปต์ หรืออียิปต์โบราณภายใต้การปกครองของฟาโรห์จนถึงสมัยอันรุ่งเรืองของจักรวรรดิรัสเซีย และหลากราชวงศ์แห่งจีนก่อนปฏิวัติระบบการปกครอง ว่ากันว่ารายนามรัตนชาติเสริมบารมีเหล่านี้ได้ถูกคิดค้นริเริ่มอย่างเป็นจริงเป็นจังในระหว่างศตวรรษที่ 16 ถึง 18 และมีการปรับใหม่ให้เข้าสมัยในราวปี 1912 โดยสมาคมเครื่องประดับอัญมณีแห่งอเมริกา (Jewelers of America) ซึ่งเป็นองค์กรไม่หวังผลกำไร และเราก็ระดมมาเอาใจสายมูทุกเพศทุกวัยในปัจจุบัน ณ ตรงนี้

มกราคม: โกเมนราศีมังกร

พลอยเนื้ออ่อน ซึ่งหาได้มีเพียงสีแดงเข้มเหมือนผลทับทิมแบบที่เรียกกันว่า “แดงแก่ก่ำโกเมนเอก” แต่ยังมีโกเมนสีส้มเพลิง “สเปซซาร์ไทท์” (spessartite) และโกเมนเขียวส่อง “ซาโวไรท์” (tsavorite) รวมถึง “โรโดไลท์” (rhodolite) หรือโกเมนสีชมพู โดยเชื่อกันว่าโกเมนสีแดงเข้มนั้น ถึงเต็มเปี่ยมไปด้วยอำนาจแห่งการเยียวยารักษา เสริมการไหลเวียนโลหิต ช่วยขับระบาย ลำเลียงสิ่งปนเปื้อนออกจากร่างกาย รวมถึงเสริมความกระปรี้กระเปร่าทางเพศ

กุมภาพันธ์: พลอยดอกตะแบกราศีกุมภ์

ชาวกรีกโบราณเชื่อกันว่าจะดื่มเมรัยมากสักเท่าใด ถ้ามีอะเมธิสต์ (amethyst) ซึ่งมีรากศัพท์มาจากคำว่า amethystos แปลว่า “ไม่มัวเมา” ประดับอยู่บนกาย หรืออมไว้ในปาก ก็ย่อมไม่มีทางเมา

ความงดงามสะกดสายตาหลากเฉดโทนจากม่วงเข้มไปจนถึงม่วงอ่อนดุจกลีบดอกไลแล็ค ทำให้พลอยดอกตะแบกหรือะเมธิสต์ได้รับการยกย่องเป็นรัตนชาติคู่บัลลังก์ของเหล่ากษัตริย์ และราชินีมาหลายยุคหลายสมัย ด้วยเชื่อกันว่าทรงอำนาจในการเสริมภูมิปัญญา นำมาซึ่งความกระจ่างทางจิตใจ เหนืออื่นใด นี่คือตัวแทนแห่งความงามสง่า โดยเฉพาะเมื่อมาอยู่บนต่างหู หรือสร้อยคอ หรือกระทั่งเป็นหัวแหวนเม็ดเดี่ยว แค่ได้รับการเจียระไนอย่างระมัดระวังเพื่อเผยความใสบริสุทธิ์ของน้ำพลอย ก็พอแล้วที่จะเสริมราศีให้ผู้สวมใส่ได้ทุกเวลา

มีนาคม: พลอยทะเลราศีมีน

รงคศิลาสีฟ้าอมเขียวกระจ่างใสดุจน้ำทะเลจากตระกูลสายแร่เบริลเช่นเดียวกับมรกต ถูกใช้เป็นเครื่องรางกันภัย (โดยเฉพาะภัยทางน้ำ) และครองตำแหน่งพลอยแห่งความอ่อนเยาว์มานับแต่โบราณกาล ด้วยมีเรื่องเล่าขานตามเทพปกรณัมว่าพระสมุทรเนปจูน ราชาแห่งท้องทะเลประทานให้เป็นของขวัญแก่นางเงือกโดยหวังว่าจะนำพาความรักมาสู่ผู้เป็นเจ้าของ

ความเลอค่าตระการตาของพลอยทะเล หรืออะความารีนเป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาชาวโลกเมื่อไปสถิตอยู่บนเทียรา หรือมงกุฎกระบังหน้าของสมเด็นพระราชินีเอลิซาเบ็ธที่ 2 และบนแหวนของเจ้าหญิงไดอานา ซึ่งกลายเป็นมรดกตกทอดสู่เจ้าชายแฮร์รี ผู้ทรงพระราชทานให้แก่เมแกน มาร์เคิล ดัชเชสแห่งซัสเส็กส์

เมษายน: เพชรราศีเมษ

อัญมณีที่ทรงค่า หายาก สุดยอดปรารถนาในฐานะมิตรแท้แห่งอิสตรีมาทุกยุคสมัย ชื่อภาษาอังกฤษอันมีรากศัพท์มาจากภาษากรีกว่า adamas ที่แปลว่า “ไม่มีวันบุบสลาย” หรือ “ทำลายล้างไม่ได้” สืบเนื่องมาจากการเป็นธาตุซึ่งแข็งแกร่งที่สุดของโลก จึงควรค่าแก่การเป็นสัญลักษณ์แห่งความแข็งแกร่ง มีอายุยืนยาวเป็นอมตะ ตลอดจนความรักนิรันดร์

พฤษภาคม: มรกตราศีพฤษภ

พลอยเนื้ออ่อน สัญลักษณ์แห่งภูมิปัญญาที่มาพร้อมสรรพคุณแห่งการเยียวยา เป็นหนึ่งในอัญมณีสุดยอดปรารถนามานับแต่สมัยไอยคุปต์ จากเครื่องประดับที่ราชินีเจ้าเสน่ห์คลีโอพัตราสวมออกมาต้อนรับจูเลียส ซีซาร์ ไปจนถึงคราที่กษัตริย์จัสติวานุสแห่งไบแซนไทน์บัญญัติกฎกำหนดให้เป็นอัญมณีต้องห้ามสำหรับสามัญชน สงวนไว้เฉพาะองค์ราชาเพียงเท่านั้น มรกตปรากฏความงดงามตระการตาบนมหามงกุฎ และเครื่องประดับต่างๆ มาจนถึงปัจจุบัน อย่างที่ Van Cleef & Arpels ได้ระดมมรกตในคลังของตนมาสรรค์สร้างขึ้นเป็นคอลเลคชันเครื่องประดับชั้นสูง “บัลลังก์มรกต” Émeraude en majesté (“เอเมอโรดอง มาแฌสเต”) ไปเมื่อปี 2016 ที่ผ่านมา

เดือนมิถุนายน: ราศีเมถุนกับไข่มุก, เจ้าสามสี และจันทรกานต์

เป็นราศีซึ่งมีตัวเลือกสลับสับเปลี่ยนได้อย่างหลายหลากมากกว่าหนึ่ง เริ่มต้นจากไข่มุก อันถือเป็นอัญมณีแห่งท้องทะเล เจ้าของสมญานาม “หยาดน้ำตาจากสรวงสวรรค์” และนิทานพื้นบ้านของจีนเล่าขานว่าถือกำเนิดจากน้ำลายมังกรเพื่อบันดาลใจเกิดความอุดมสมบูรณ์ทางการเพาะปลูกพืชพรรณธัญญาหาร ในขณะที่วัฒนธรรมสากลยกย่องให้ไข่มุกคือหนึ่งในสัญลักษณ์ตัวแทนความเป็นผู้หญิงสืบเนื่องจากผิวสัมผัส และเนื้อสีที่ละมุนละไม ให้ความรู้สึกอ่อนโยน นำมาซึ่งความรู้สึกสงบสุข และเชื่อกันว่าจะช่วยมอบความสำเร็จด้านความรักให้แก่ผู้เป็นเจ้าของ

ส่วนเจ้าสามสี เป็นหนึ่งในรัตนชาติหายากที่สุดของโลกสืบเนื่องจากคุณสมบัติการเปลี่ยนสีของน้ำพลอยไปตามมุมแสงตกกระทบ และแหล่งกำเนิดแสง จากสีเขียวกลางแสงจ้ายามกลางวันมาเป็นสีฟ้าอมเทาเมื่อระดับความเข้มแสงลดลงในเวลาเย็นย่ำ และกลายเป็นสีแดงจนถึงม่วงเมื่อวิกาลมาเยือน เชื่อกันว่าเจ้าสามสีถูกค้นพบเป็นครั้งแรกในรัสเซีย และได้รับการตั้งชื่อว่า “อเล็กซานไดรท์” (Alexandrite) ตามจักรพรรดิอเล็กซานดร์ที่ 2

และจันทรกานต์ เป็นหินขาวน้ำนมโปร่งแสงเหมือนม่านหมอก พื้นผิวที่เรียบเนียนเจือประกายสีฟ้าเงาวาวจะใสสว่างยิ่งขึ้นในวันพระจันทร์เต็มดวง อันเป็นที่มาของชื่อ “หินพระจันทร์” ซึ่งชาวกรีกเชื่อว่าเป็นตัวแทนของความรักสงบสุข ร่มเย็น จนนิยมมอบให้กันเป็นของขวัญแก่คนรักมานับแต่โบราณกาล

เดือนกรกฎาคม: ทับทิมราศีกรกฎ

เจ้าของนาม “รัตนราช” ประกาศฐานะราชาแห่งมวลอัญมณี ชื่อภาษาอังกฤษของทับทิม มีรากศัพท์ดั้งเดิมมาจากภาษาละตินว่า ruber อันหมายถึงสีแดง สีแห่งความรัก และความดื่มด่ำปรารถนา น่าสังเกตว่า พลอยเนื้อแข็งตระกูลคอรันดัม (มีความแข็งเทียบเท่ากับไพลิน เป็นที่สองรองจากเพชร) นี้ กลับเป็นสัญลักษณ์ต่างความหมายในนานาวัฒนธรรม ไม่ว่าจะเครื่องหมายแห่งความแข็งแกร่ง เครื่องรางทางการปกป้อง และอัญมณีพลังชีวิต เสริมภูมิปัญญา นำมาซึ่งความมั่งคั่ง และช่วยสงบจิตใจให้แก่ผู้เป็นเจ้าของ จนถึงกระทั่งได้รับการยกย่องให้เป็นอัญมณีนำโชค

เดือนสิงหาคม: เขียวส่องราศีสิงห์

เจ้าของสมญา “มรกตราตรี” และ “ศิลาสวรรค์” เป็นที่สันนิษฐานว่าชาวอียิปต์นิยมนำแพริด็อตหรือพลอยเขียวส่องอมทองมาตัดเจียน ฝนตะไบ และขัดผิวเป็นลูกปัดร้อยเครื่องประดับมานานกว่า 1 พันปีก่อนคริสตกาล และด้วยฐานะ “อัญมณีแห่งดวงตะวัน” 1 ใน 12 รัตนชาติประดับหน้าอกเสื้อเกราะของบาทหลวงในกรุงเยรูซาเล็มยุคโมเสสนี้ ยังถูกนำมาสร้างความตระการตาให้แก่บัลลังก์ทองของจักรวรรดิอ็อตโตมานกับงานเจียระไนหลังเบี้ยขนาดประมาณ 1 นิ้วจำนวนสูงถึง 955 เม็ด (ปัจจุบันจัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ท็อปกาปิ นครอิสตันบูล) ด้วยเชื่อกันว่าพลอยเขียวส่องแพริด็อตคือเครื่องรางแห่งการปกป้องคุ้มภัย สกัดกั้นการรุกรานจากภูตผีปิศาจยามค่ำคืน นำความสำเร็จ และสันติสุขมาสู่ผู้สวมใส่

เดือนกันยายน: ไพลินราศีกันย์

หนึ่งในอัญมณีที่มีสีสันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสีทอง, สีเหลือง และสีชมพู กระนั้น สุดยอดปรารถนาตลอดทุกยุคสมัยย่อมเลี่ยงไม่พ้นไพลินสีน้ำเงินสดล้ำลึก ซึ่งอยู่คู่เหล่าบุคคลสำคัญในราชตระกูลต่างๆ จากอดีตจวบจนปัจจุบัน อย่างแหวนไพลินของเจ้าหญิงไดอานา ที่ตกทอดมาเป็นแหวนหมั้นเคท มิดเดิลตัน ช่างสมกับตำแหน่งสัญลักษณ์แห่งความซื่อสัตย์ ภักดี และเครื่องหมายแห่งชาติตระกูลอันสูงส่ง นอกจากนั้น ไพลินยังได้รับการยกย่องในสรรพคุณทางการเยียวยา อีกทั้งยังปกป้องผู้สวมใส่ให้พ้นจากภยันตราย เหนืออื่นใด หนึ่งในจตุรอัญมณีเลอค่านี้ เป็นที่เชื่อถือกันในฐานะ “อัญมณีเรียกทรัพย์”

เดือนตุลาคม: แก้วราหูกับทุรมาลี

อีกราศีที่มีสองตัวเลือก โอปอล ซึ่งมีชื่อมาจากรากศัพท์ภาษาสันสกฤติว่า “อุพลา” อันแปลว่า “ศิลาเลอค่า” และพ้องกับชื่อเรียก opalus ในยุคโรมันโบราณ เป็นที่ชื่นชอบ และหลงใหลจากประกายไฟสีรุ้งจรัสเรืองรองอยู่ในเนื้อพลอยราวกับมีดอกไม้ไฟปะทุตัวอย่างน่าอัศจรรย์ รงคศิลา อันมีตัวเลือกหลากเฉดจากฟ้า, ขาว, ชมพูจนถึงแดงเพลิงนี้ เป็นที่ยกย่องในฐานะ “แก้วราหู” คุ้มกันภัย และใช้ในการพยากรณ์

ส่วนทุรมาลีหรือ “ทัวร์มาลีน” พลอยเนื้ออ่อนอันโดดเด่นด้วยความหลากหลายทางเฉดโทนจากสีเขียวไปสู่เหลือง และชมพู เหนืออื่นใดก็คือทัวร์มาลีนหลากสี (มีตั้งแต่สองสีขึ้นไปในเม็ดเดียว) ซึ่งถือว่าหาได้ยากยิ่ง โดยเฉพาะทัวร์มาลีนสีแตงโม และทัวร์มาลีนตาแมว เป็นที่เชื่อกันว่า คุณสมบัติทางแม่เหล็กไฟฟ้าในธาตุประกอบของทุรมาลีนี้ จะช่วยฟื้นฟูพลังงาน คืนความเข้มแข็ง เบิกบานให้จิตใจ

เดือนพฤศจิกายน: ราศีพิจิกกับบุษราคัม และซิตริน

ไม่ต่างอะไรจากราศีตุลย์ มนุษย์พิจิกก็มีรัตนชาติสองตัวเลือก เพียงแต่ทั้งสองนั้นมีเฉดสีอยู่ในโทนเดียวกัน นั่นก็คือเหลืองจนถึงน้ำตาล

ซิตริน พลอยเนื้ออ่อนสีเหลืองอมน้ำตาล (หรือสีวิสกี) ได้รับการยกย่องอานุภาพในการกระตุ้นพลังงานไหลเวียน ช่วยให้จิตใจแจ่มใส มองโลกในแง่ดี ปลุกความสดชื่น มีชีวิตชีวา และเหนืออื่นใด คือคุณสมบัติเสริมโชคลาภทางการติดต่อค้าขายอันเป็นที่มาของสมญานาม “ศิลาวาณิช”

ส่วนบุษราคัม ซึ่งเป็นพลอยตระกูลคอรันดัม มอบความงดงามของสี “เหลืองใสสด” ไปจนถึงสีเหลืองแก่ของ “พลอยน้ำบุษย์” ส่วนประกายเหลืองสุกสกาวราวทองก็คือ “บุษย์น้ำทอง” บุษราคัมหรือ “โทปาซ” เป็นที่นิยมชมชอบ และยกย่องของสองขั้วอารยธรรม อันได้แก่กรีก กับโรมันโบราณในฐานะอัญมณีแห่งความแข็งแกร่ง, ภูมิปัญญา และเพิ่มอำนาจการเยียวยาให้แก่ผู้สวมใส่

เดือนธันวาคม: ราศีธนูกับหินไข่นกการเวก และแก้วอัญชัน

หินไข่นกการเวก หรือเทอร์คอยซ์ เจ้าของสีฟ้าสดสว่างนั้น เป็นที่รู้จัก และมีการใช้อย่างแพร่หลายมานับแต่ยุคไอยคุปต์ (อียิปต์โบราณภายใต้การปกครองของฟาโรห์ประมาณ 3 พันปีก่อนคริสตกาล) รวมถึงชนเผ่าพื้นเมืองของอเมริกาใต้ ก็เชื่อกันว่า การสวมเครื่องรางหินไข่นกการเวกจะช่วยคุ้มครองไม่ให้เกิดอันตรายระหว่างขี่ม้า และถ้าคุณเกิดวันเสาร์ในเดือนธันวาคม “หินตุรกี” จากคำเรียกขานตามภาษาฝรั่งเศส สัญลักษณ์แห่งภูมิปัญญานี้ จะยังช่วยเสริมดวง เพิ่มอำนาจบารมีได้เป็นอย่างดี

เพราะถูกค้นพบเป็นครั้งแรกในประเทศแทนซาเนีย “แก้วอัญชัน” ซึ่งเป็นรัตนชาติสีน้ำเงินสดไปจนถึงเฉดม่วงเข้ม จึงได้รับการตั้งชื่ออย่างเป็นทางการว่าแทนซาไนท์ และโด่งดังไปทั่วโลกจากภาพโฆษณาของ Tiffany & Co. เมื่อปี 1968 พร้อมกับความเชื่อถือในคุณสมบัติด้านการปลุกฟื้นพลังวิญญาณ เพิ่มสมรรถนะของสัญชาตญาณ และสติสัมปชัญญะให้แก่ผู้สวมใส่

ABOUT THE AUTHOR
วรวุฒิ พยุงวงษ์

วรวุฒิ พยุงวงษ์

At boundary of athletics and beauty, I write and play

ALL POSTS