​​​​​​​10 บูธยอดนิยม ห้ามพลาดในงาน Mango Art Festival 2022

กระแสตอบรับแรงเกินต้าน Mango Art Festival 2022 เทศกาลที่ครบเครื่องและตอบโจทย์คนยุคใหม่ที่มีศิลปะในทุกจังหวะการใช้ชีวิต ปีนี้จัดขึ้นในธีม A Vision for A Better Tomorrow ที่ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก (River City Bangkok) ระหว่างวันที่ 3-8 พฤษภาคม 2565 แบ่งเป็น 6 โซนจัดแสดงที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น Gallery, Independent Artist, Design, Craft Accessories Food & Beverage, Special Exhibition และ Private Collection เรารวบรวม 10 บูธที่ได้รับความสนใจจากคนรักงานศิลป์ชาวไทยและชาวต่างชาติมาแนะนำ สำหรับคนรักงานศิลปะบอกเลยว่า เทศกาลนี้มีอะไรเปรี้ยว ๆ ให้ชมเพียบเลยล่ะ!

Joyman x Dorothy Circus Gallery

แกลเลอรีระดับโลกสัญชาติอิตาลีในกรุงโรมและกรุงลอนดอนอย่าง Dorothy Circus Gallery ร่วมกับ  Joyman Gallery แกลเลอรีชั้นนำของเมืองไทยในย่านพระนคร ขนงานศิลปินชื่อดังทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมาให้ชมกันแบบจุก ๆ ไม่ว่าจะเป็น ธารธารา สุดาดวง, Aitoy, Jecks BK, Knn.Five, Mamablues ฯลฯ รวมถึงศิลปินนานาชาติแนว Pop-Surrealism เช่น Millo, Peca, Cheng Cheng Yi, Kazuhiro Hori, Andrew Hem และศิลปินดัง ๆ มากมาย ได้รับความสนใจจากผู้ชมอย่างล้นหลาม รวมถึงดีลเด็ดเฉพาะงานนี้เท่านั้น Joyman Gallery x Dorothy Circus Gallery มอบสิทธิพิเศษส่วนลด 5% ทุกชิ้นงานให้กับลูกค้าที่จับจองผลงานที่นำมาจัดแสดง ใครไม่อยากพลาดงานศิลปะเจ๋ง ๆ ที่คัดสรรจาก 2 แกลเลอรีชื่อดังเช็คอินได้ที่บูธ G15 (ชั้น 2)

Herspective

กระแสตอบรับดีตั้งแต่วันแรก เพราะผลงานหลายชิ้นของศิลปินได้รับการจับจองโดยนักสะสมแทบจะทั้งหมด ‘Herspective’ เป็นการรวมตัวกันของผู้หญิงที่รักงานศิลปะ 10 คน นำทีมโดย Pang Torsuwan, Jang Onanong และ Atchalinee โดยเป็นการเล่นคำจาก  ‘Perspective’ เพื่อสื่อให้เห็นถึงมุมมองของผู้หญิงที่มีต่อชีวิตและศิลปะ ด้วยแรงบันดาลใจที่ได้จากประสบการณ์ ความรัก ความเชื่อ และครอบครัว ทำให้ผลงานของศิลปินแต่ละคนมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร โดยเฉพาะ ‘อรอนงค์ แก้วสมบูรณ์’ (แจง) ที่ปีนี้เธอนำ

ประติมากรรมมาจัดแสดงเป็นครั้งแรกอีกด้วย สัมผัสโลกศิลปะผ่านมุมมองของศิลปินหญิงทั้ง 10 คนได้ที่บูธ G9 (ชั้นสอง)

Marsi Foundation

ศิลปินหญิงชาวไทยที่สร้างชื่อเสียงไปทั่วโลก ‘หม่อมเจ้าหญิงมารศีสุขุมพันธุ์ บริพัตร’ เป็นอีกหนึ่งบูธที่ได้รับความสนใจอย่างมากจากชาวต่างชาติ Marsi Foundation นำผลงานภาพเขียนฝีพระหัตถ์และของที่ระลึกสวย ๆ มาจำหน่ายภายในงาน ไม่ว่าจะเป็น เสื้อยืด ผ้าพันคอ กระเป๋าผ้า และหมอนอิง ทุกชิ้นโดดเด่นด้วยภาพพิมพ์ฝีพระหัตถ์ ส่วนคนที่ตามหาผลงานคอลเล็กชันพิเศษ Marsi x Fly now ก็มาหาซื้อได้ภายในงานนี้เช่นกัน รายได้จากการจำหน่ายสินค้าไม่หักค่าใช้จ่ายใด ๆ สมทบทุนโครงการทุนการศึกษาด้านศิลปะของมูลนิธิหม่อมเจ้าหญิงมารศีสุขุมพันธุ์ บริพัตร แวะไปช็อปกันได้ที่ บูธ M23 (ชั้น 1)

Blob Boy & Friends

สร้างชื่อเสียงในวงการ NFT มาระยะหนึ่ง แล้วก็ถึงเวลาที่เพื่อนในจินตนาการของกาวิล ทวีคูณ ผู้สร้าง ‘Blob Boy & Friend’ จะถูกนำมาเปิดตัวเป็นครั้งแรกในเทศกาลนี้ ผ่านผลงานภาพเขียนที่แน่นด้วยเอกลักษณ์

และสีสัน กาวิลใช้เวลาช่วงปลายปี 2019 ที่ต้องกักตัวจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งเขาต้องต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างในชีวิต มาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างก๊วนเพื่อนใหม่เพื่อสื่อถึงความฝัน ความหวัง ความสุข และความท้าทายครั้งใหม่ในชีวิต บูธของเขาได้รับความสนใจจากชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก ถึงขนาดแวะเวียนมาเจรจาธุรกิจกันไม่ว่างเว้น สำหรับคนที่ถือ NFT ของ Blob Boy จะได้รับส่วนลด 10% ในการซื้องานศิลปะด้วยนะ ใครอยากเจอเพื่อนในจินตนาการของกาวิลแวะไปชมผลงานได้ที่บูธ ID22 (ชั้น 2)

Basic Teeory

เจ้าของรางวัล Designer of the Year 2019 สาขาออกแบบเครื่องประดับอย่าง ตี๋-วรชัย ศิริวิภานันท์ เจ้าของแบรนด์เครื่องประดับสุดชิค Basic Teeory (ทฤษฎีส่วนตัวของตี๋) นำผลงานคอลเล็กชันพิเศษ Paper You Can Wear และ The Beauty of Remains มาเปิดให้คนรักงานอาร์ตและแฟชั่นนิสต้าได้ครอบครอง ด้วยแนวคิดในการน.ำกระดาษและสิ่งของเหลือใช้ในแบบ Forgotten Material อย่างซีเมนต์ ยาง ซิลิโคน เศษแก้ว กระจก เม็ดทราย มาดีไซน์เป็นเครื่องประดับที่ส่งเสริมความยั่งยืนในแบบ ECO Friendly เห็นแล้วคุณอาจจะนึกว่าไม่ได้ทำจากเศษกระดาษหรือสิ่งของเหลือใช้เลยล่ะ แวะไปช็อปเครื่องประดับเก๋ ๆ ได้แล้วที่บูธ M4 (ชั้น 1)

Ceremony Chocolate x Shabar

ใครที่ชื่นชอบช็อกโกแลตดีไซน์อาร์ตของ Ceremony Chocolate คาเฟ่คราฟต์ช็อกโกแลตพรีเมียมในซอยสุขุมวิท 51 ต้องไม่พลาดบูธนี้ ที่แบรนด์นำดาร์คช็อกโกแลตจากประจวบคีรีขันธ์ จันทบุรี และเชียงราย มาใส่ไอเดียเจ๋ง ๆ ด้วยการ Collaborate กับศิลปินไทยชื่อดัง ผ่านแพกเก็จจิงลิมิเต็ด เอดิชั่นผลงานของ ตั้ม-วิศุทธิ์ พรนิมิตร และ โลเล-ทวีศักดิ์ ศรีทองดี โดยเฉพาะดาร์คช็อกโกแลตคอลเล็กชันพิเศษ Mamuang x Ceremony Chocolate ที่มีให้เลือกอร่อยถึง 4 รสชาติ 4 ดีไซน์ มาพร้อมถุงผ้าลิมิเต็ด เอดิชัน บอกเลยว่า ช็อกโกแลตขายดีตั้งแต่วันแรกที่เปิดงาน บางคอลเล็กชันขายหมดเกลี้ยงภายในไม่กี่ชั่วโมงเลยล่ะ สาวกน้องมะม่วงต้องไม่พลาดรีบไปจับจองกันได้ที่บูธ M6 (ชั้น 1)

Empathy Thailand

อีกหนึ่งบูธที่ได้รับความสนใจจากคนรุ่นใหม่และชาวต่างชาติอย่างมาก Empathy Thailand (แปลว่า เห็นอกเห็นใจผู้อื่น) เกิดจากแรงบันดาลใจของ โอฬาร ก่อเกียรติเสถียร ที่อยากฉีกกฎแฟชั่นเดิม ๆ ด้วยการนำเสนอคุณค่า ผลงาน และความสามารถของศิลปินไทยหลายคน อาทิ Louis Sketcher, Greenie & Elfie, WANDAWAWA เป็นต้น สกรีนลงบนกระเป๋าแฮนด์เมด (เย็บด้วยมือทั้งหมด) ผลิตจาก Coated Tarp เคลือบ Organic PVC ทุกใบเป็นลิมิเต็ด เอดิชัน มีจำหน่ายใบละ 1 ลายเท่านั้น รายได้จากการจำหน่าย 30% จะมอบให้กับมูลนิธิต่าง ๆ ที่ศิลปินเป็นคนเลือก โดยมีกระเป๋าให้เลือก 3 แบบ ได้แก่ T Type (ย่อมาจาก Technology) รายได้ส่วนหนึ่งสนับสนุนด้านเทคโนโลยีการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้กับท้องถิ่น E Type (Environment) รายได้สนับสนุนด้านสิ่งแวดล้อม และ Y Type (Young) สนับสนุนองค์กรเกี่ยวกับเด็กและเยาวชน ภายในงานเปิดให้ Pre-order ล่วงหน้า รวมถึงมีสินค้าเก๋ ๆ จากศิลปินหลายคนมาจำหน่าย ตามไปจองกันได้แล้วที่บูธ M7 (ชั้น 1)

7days Creator

ลองสวมบทพระเจ้าดูมั้ย? เมธี น้อยจินดา มือกีตาร์พูดน้อยแห่งวง Modern Dog ชวนคุณเข้าถึงเสียงในจินตนาการที่ได้แรงบันดาลใจจากพระเจ้าสร้างโลกใน 7 วัน หรือ ‘7 Days Creator’ โดยเปรียบกับเสียงแห่งการสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ ภายใน 6 วัน จนถึงวันที่ 7 ซึ่งเป็นวันหยุดพักอันศักดิ์สิทธิ์ (Holyday) ได้แก่ Light, Sky, Land and Sea, Day and Night, Feathered Creatures, Animals and Man และ Relaxed นำเสนอผ่านงาน Sound Art Exhibition ครั้งที่สองของเมธี มาพร้อม Interactive เพื่อให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมสามารถควบคุมความดัง ทิศทาง การบิด และการสั่งงานด้วยเสียงในลักษณะต่าง ๆ เสมือนว่าคุณเป็น Sound Creator ที่มีส่วนร่วมในการสร้างโลกแห่งจินตนาการผ่านเสียงด้วยตัวเอง หากคุณอยากสัมผัสประสบการณ์พระเจ้าสร้างโลกใน 7 วัน แวะไปทักทายเมธีและผองเพื่อนกันได้ที่ห้อง 248 (ชั้น 2)

MOS Museum of Something

แกลเลอรีที่สร้างสีสันให้กับ Mango Art Festival 2021 จนได้รับกระแสตอบรับอย่างล้นหลาม กลับมาปีนี้ MOS เน้นการจัดนิทรรศการอย่างเรียบง่าย ลุ่มลึก เปี่ยมด้วยปรัชญาและหลักคำสอนของพุทธศาสนา ผ่านผลงานของศิลปินจีนชื่อดัง ‘Cheng Guangfeng’ ที่ได้แรงบันดาลใจจากศาสนาพุทธ ถ่ายทอดเป็นพระพุทธรูปที่ประกอบด้วยธาตุทั้ง 5 ได้แก่ ดิน น้ำ ไฟ ไม้ และทอง (โลหะ) เพื่อให้ผู้ชมเข้าถึงแก่นแท้ของหลักศาสนาพุทธที่ว่าด้วยเรื่องของธาตุขันธ์หรือร่างกายของมนุษย์ อันประกอบด้วยการชุมนุมกันของธาตุต่าง ๆ ตามธรรมชาติ นอกจากนี้ ภายในบูธยังมีกาชาปองคอลเล็กชันพิเศษจากศิลปิน (ชิ้นละ 600 บาท) ให้สุ่มเล่นเป็นของที่ระลึกอีกด้วย เข้าถึงหลักคำสอนของพุทธศาสนาผ่านการศิลปะอันลุ่มลึกได้ที่บูธ G2 (ชั้น 2)

Greenery Water

ปิดท้ายด้วยบูธ ‘กรีนเนอรี่’  น้ำดื่มบรรจุกระป๋องอลูมิเนียมแบรนด์แรกของไทย ที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์เจ๋ง ๆ อย่างการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ทางเลือกเพื่อส่งเสริมความยั่งยืน เพราะสามารถรีไซเคิลได้ 100% เพื่อช่วยลดขยะพลาสติก ให้ความเย็นรวดเร็วทันใจ และเก็บความเย็นได้นานขึ้น โดยกลุ่มกรีนเนอรี่เกิดจากความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนกลุ่มเกษตรอินทรีย์ (ออร์แกนิก) ในเมืองไทย ผ่านการเป็นสื่อกลางในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกให้กับลูกค้า เพื่อส่งเสริมให้คนไทยมีสุขภาพดีควบคู่กับการส่งเสริมความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมไปพร้อม ๆ กัน ร่วมสนับสนุนพวกเขาได้ที่ https://www.facebook.com/GreeneryWater/ หรือแวะไปดับกระหายคลายร้อนได้ที่บูธ M11 (ชั้น 1)