"ตลาดวูดู....ที่นี่ที่เดียวในโลก
ทีนี่อาจจะเป็นตลาดที่น่ากลัวที่สุดในโลกที่คุณเคยเดิน จนคุณอยากหาทางออกตั้งแต่ไปถึง
ผมคิดว่าในโลกนี้มีตลาดแบบนี้เพียงที่เดียวในโลก ตลาดที่เราไม่สามารถหาซื้อกุ้ง หอย ปู ปลา มะละกอ กล้วย อ้อย ข้าวสาร น้ำพริก กะปิแห้งใด ๆ แต่เราจะหาซื้อหนังงูเหลือม หัวจระเข้ กระดูสันหลังงูจงอาง และน้ำมันเสน่ห์ได้
ขอต้อนรับสู่ Le Marché des Féticheurs (เลอ มารคเช่ เดส์ เฟติเชอรส์) ที่ตั้งอยู่กลางกรุงโลเม่ (Lomé) เมืองหลวงของประเทศโตโก (Togo) หรือที่ชาวเมืองเรียกขานกันง่าย ๆ ว่า “ตลาดวูดู”
“อื้อหือ...” พวกเราสี่คนพี่น้องต่างพากันหน้านิ่วและส่งเสียงร้องออกมาทันทีที่ก้าวลงจากรถเมื่อได้รับการต้อนรับด้วย“กลิ่น”พิเศษที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน .... พลังของกลิ่นนั้นโจมตีอย่างรุนแรง รวดเร็ว และทารุณจนแม้กระทั่งตอนนี้ที่ผมกำลังนั่งเขียนเรื่องนี้อยู่ ผมก็ยังนึกออกได้เป็นอย่างดี
ผมหันซ้ายหันขวาไปมาก็พบต้นเหตุแห่งกลิ่น นั่นไง...ซากหัวจระเข้สด ๆ กำลังผึ่งแดดอยู่ไม่ไกลจากที่ที่รถเราจอดอยู่ หัวนั้นโผล่ออกมากจากถุงพลาสติกดำ ส่วนตัวไปไหนไม่รู้ และแมลงวันกำลังตอมกันหึ่ง
“เพิ่งได้มาเมื่อเช้า กำลังตากแห้งอยู่ หัวสด ๆ แบบนี้ไม่ขาย ต้องตากแห้งก่อน ถึงจะถูกต้องตามตำรา”มีเสียงอธิบายดังมาจากชายหนุ่มผิวดำคนหนึ่งที่เดินผ่านกลุ่มพวกเรา เขาคงจะเป็นพ่อค้าคนหนึ่งที่ขายสินค้าอยู่ในตลาดวูดูแห่งนี้ ไม่ไกลจากซากหัวจระเข้ก็มีซากสัตว์ปีกต่าง ๆ หลายชนิดที่กำลังวางผึ่งแดดระอุยามใกล้เที่ยงอยู่บนลานฝุ่น
ตลาดวูดูเป็นตลาดเก่าแก่ที่ตั้งขึ้นตั้งแต่ ค.ศ. 1863 และยังคงสืบทอดต่อมาจนถึงปัจจุบัน แผงขายสินค้าวูดูหลายสิบแผงตั้งเรียงรายล้อมลานดินรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าไว้โดยปล่อยตรงกลางให้เป็นลานโล่งๆ
อ่าน ระทึก! ระบำไฟในหมู่บ้านวูดู ที่นี่
ผมเหลือบมองแผงต่าง ๆ โดยรอบ มันแอบหลอนนิด ๆ เพราะเต็มไปด้วยซากสัตว์มากมายหลายชนิด และบางชนิดก็มีแต่หัว บางชนิดก็เหลือแต่ตัว หนัง หรือกระดอง และก็มีอีกหลายชนิดที่มาครบทุกสัดส่วนราวกับยังมีชีวิต
“รัฐบาลโตโกหลับตาข้างนึง... มองไม่เห็นตลาดแห่งนี้ทั้ง ๆ ที่สัตว์หลายชนิดก็เป็นสัตว์สงวน ....แต่คนโตโกจำนวนมาก โดยเฉพาะทางเหนือของประเทศที่ยังนับถือและเชื่อในเรื่องของวูดู”ลุงโคฟี่ ไกด์นำเที่ยวของเราแอบกระซิบเบา ๆให้เราต้องถอนใจหนัก ๆ
ผมว่าการเดินทอดน่องท่องตลาดแห่งนี้ต้องทำใจพอสมควร ไม่ว่าภาพที่เห็น กลิ่นที่ดม และเรื่องราวที่ได้รับฟัง ต้องคิดเสียว่าเรามาดูเพื่อรับรู้ก็แล้วกัน
แผงรอบตัวเรามีสัตว์แทบทุกชนิด จะเอาอะไรล่ะ เลือกกันได้เลย
เริ่มจากที่สัตว์ที่คุ้นตาอย่างแมว ที่แผงต่าง ๆ พากันวางขายหัวแมวมากมายจนเป็นกองพะเนินเทินทึก ไม่ไกลกันนัก ผมเห็นหัวชะนี และหัวลิงหลากหลายชนิดที่วางเรียงจนล้นแผง แต่ที่มาทั้งตัวก็มี ...เป็นซากลิงบาบูนที่พ่อค้าจับแขนจับขายืนโชว์ตัวให้เราเลือก
หัวจระเข้ที่เราเห็นสด ๆ กำลังตากแดดอยู่นั้น เมื่อผ่านกรรมวิธีต่าง ๆ แล้วก็จะกลายเป็นหัวจระเข้ที่วางเรียงกันอยู่บนแผง และมีทุกขนาดมากมายนับไม่ถ้วน ส่วนนกนั้น ส่วนมากจะมาทั้งตัว มีตั้งแต่เหยี่ยวตัวใหญ่จนนกเค้าแมว รวมทั้งนกที่ผมไม่รู้จักอีกมากก็ขายอยู่ใกล้ ๆ กัน
สำหรับซากงูนั้น มีให้เลือกทุกแบบ จะมาเป็นหัวก็มี เช่นงูตัวใหญ่ ๆ อย่างงูเหลือมงูหลาม และงูจงอาง ส่วนที่มาเป็นตัว ๆ คืองูเห่า และที่มาขายเฉพาะหนังมักจะเป็นงูเหลือม งูหลาม สำหรับกระดูกงูนั้นก็มีขาย และยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ และก็มีที่แปรรูปไปแล้วเช่นการนำข้อกระดูกสันหลังงูมาร้อยทำเป็นสายสร้อย
สินค้าอีกกลุ่มหนึ่งที่พบมาก ๆ และมักวางขายอยู่ด้วยกันคือเขาสัตว์ต่าง ๆ มากมายหลายชนิด ผมไม่ทราบว่าเป็นของสัตว์ชนิดอะไรบ้างมักวางกองรวมกับกระดองเต่าหลายลาย หลายขนาด ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นเต่าน้ำจืด
ผมเดินดูไปอยู่พักใหญ่ ตาเริ่มตาลาย ใจเริ่มเสีย ซากสัตว์ต่าง ๆ มีมากมายเหลือเกิน กลิ่นเหม็นปะทะจมูกเป็นระยะ จะหนักหรือจะเบาขึ้นอยู่กับแรงลมทะเลที่พัดผ่าน
ส่วนซากสัตว์ที่ผมอึ้งที่สุดคือหัวฮิปโปโปเตมัสมันเป็นกระดูกที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ที่ผมยังเห็นฟันและเขี้ยวแทบจะทุกซี่ ในชั่ววินาทีนั้นผมหลับตาเห็นฮิปโปตัวใหญ่ ๆ ดูน่ารักและน่าเกรงขามกำลังลอยคออยู่ในหนองน้ำตามภาพยนตร์สารคดีที่ชินตามาตั้งแต่เด็ก ๆ หรือแม้แต่แม่มะลิแห่งสวนสัตว์เขาดินที่ผมเพิ่งไปอำลาเธอมาก่อนปิด
“ราคาเท่าไหร่ครับ?”ผมกลั้นใจถามคุณพี่คนขายซากหัวฮิปโปโปเตมัส
“หัวนี้ราว ๆ 700,000ฟรังก์ เซ.แอ็ฟ.อา. ครับ”เขาตอบ
FrancCFA เป็นสกุลเงินที่ใช้ในกลุ่มประเทศที่พูดภาษาฝรั่งเศสในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตก เช่น โตโก และเบนินนะครับ อัตราเทียบเงินบาทคือ 100 ฟรังก์ เซ.แอ็ฟ.อา. ต่อ 6 บาทดังนั้นหัวฮิปโปหัวนี้หมายถึงเงินประมาณ 42,000 บาท
ตลาดนี้ไม่ได้มีแต่ซากสัตว์ขายเท่านั้นนะครับ อะไรก็ตามที่เกี่ยวพันกับพิธีกรรมตามความเชื่อของวูดู ที่นี่มีขายหมดไม่ว่าน้ำมันทาตัว กระดิ่ง ระฆัง สมุนไพรใบไม้แห้งสารพัดชนิด เทียน ท่อนไม้ปลุกเสก และตุ๊กตาที่มีตะปูเสียบเต็มทั้งตัว
หากไม่สบาย ความรักมีปัญหา ศัตรูปองร้าย ไม่แน่ใจว่าโดนแม่มดเข้าสิงหรือไม่ หรือต้องการทำเสน่ห์ แม้กระทั่งรื้อฟื้นความจำ และเพิ่มสติปัญญา อยากติดต่อกับวิญญาณบรรพบุรุษ หรือไม่ว่าอะไรก็ตาม ด้านหลังแผงจะมีพ่อหมอรออยู่และเราสามารถเข้าไปพบเพื่อขอคำแนะนำได้ เมื่อได้รับคำแนะนำแล้วก็ถือใบสั่งยาออกมาซื้อสินค้าที่แผงด้านหน้าเอากลับไปทำพิธีที่บ้านได้เลย
“อย่างนกเค้าแมวนี่ช่วยรักษาอะไรครับ?” ผมถามพ่อค้าที่แผงขายซากนกเค้าแมว
“นกเค้าแมว เหยี่ยว กระดูกงู หนังอะมาดิญโญ่ ผสมกับใบไม้นี้ เอาไปเผาไฟและป่นรวมกันก็จะช่วยเรื่องการปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายออกจากร่างกายและวิญญาณ ช่วยคืนความทรงจำ และทำให้อายุยืนครับ”คุณพี่ตอบ เกี่ยวกับสรรพคุณพร้อมสาธยายให้เข้าใจว่าต้องเอาไปปรุงยังไงอย่างละเอียด
สำหรับภูมิภาคแอฟริกาตะวันตก อย่างประเทศโตโก วูดูเป็นยิ่งกว่าความเชื่อ วูดูคือศรัทธา คือการแพทย์ คือวิถีชีวิตที่หล่อรวมผสมผสานกับศาสนาคริสต์หรือศาสนาอื่นใดก็ตามที่เผยแพร่เข้ามาในช่วงหลัง
แม้จะเขาคนนนั้นจะนับถือพระเจ้าเป็นคาธอลิก คริสเตียน หรือนิกายใด ๆ ก็ตาม วูดูยังคงฝังรากและมีอิทธิพลต่อความคิด ความเชื่อ การดำเนินชีวิตของพวกเขาเสมอ
เราใช้เวลาที่ตลาดแห่งนี้อยู่พักใหญ่ ผมไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้เลย และผมก็เริ่มรู้สึกหดหู่กับสิ่งที่เห็น ศรัทธาและความเชื่อทำให้มนุษย์มีแบบแผนการปฏิบัติที่แตกต่างกันมาก
“เรามาดูเพื่อเรียนรู้.... ไม่ได้มาตัดสิน”ผมพยายามท่องสิ่งนี้ไว้ในใจ ขณะนี้ผมยังหลับตาเห็นซากสัตว์จำนวนมากและยังจำกลิ่นเหล่านั้นได้อยู่
ประสบการณ์การเดินตลาดวูดูในวันนั้น คงจะอยู่ติดตัวผมไปอีกนานเท่านาน
STORY BY โลจน์ นันทิวัชรินทร์
PHOTO BY ดวงฤทัย พุ่มชูศรี
ลูกคนกลางที่เกิดวันพฤหัส มีโลกส่วนตัวสูง แต่ชอบตะลุยโลกกว้าง ขีด ๆ เขียน ๆ บันทุกเอามัน สีน้ำบ้าง ถ่ายรูปด้วยความหลงใหลด้วยฟิล์มบ้าง ดิจิตอลบ้างตามอารมณ์ ติดตามบันทึกการเดินทางประเทศไม่ธรรมดาที่ Facebook หน้า Nings Homemade และ IG : thursday_morning