สิ้นสุดการรอคอย "เหมาไถ" เหล้าจีนในตำนานมาถึงไทยแล้ว

        หลังจากที่ถูกเสิร์ฟเป็นเครื่องดื่มให้กับผู้นำรัฐบาลแห่งชาติจีนมาหลายยุคหลายสมัย ในที่สุดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์คุณภาพคับแก้วของจีนก็ได้มาวางเสิร์ฟบนโต๊ะอาหารของคนไทยเสียที เมื่อเหมาไถหรือเหล้าขาวจีนที่เก่าแก่ที่สุดชนิดหนึ่งของโลกได้เสิร์ฟพร้อมกับอาหารกลางวันที่ร้าน Dag ในวันเปิดตัวนิตยสาร Raw ฉบับที่ 2 (ฉบับนี้ได้พูดถึงวัตถุดิบที่หาได้จากท้องถิ่น)                 

         ว่ากันว่าเหมาไถนั้นขายดีมากในเมืองจีนชนิดที่เรียกว่าผลิตเท่าไหร่ก็หมด แม้แต่นักท่องเที่ยวชาวจีนยังต้องหอบหิ้วเอาจากดิวตี้ฟรีบ้านเรากลับไปทุกครั้ง ปิยพงษ์ กาญจนธานนท์ซีอีโอแห่งบริษัท สยาม ดรากอน (เอเชีย-แปซิฟิก) จำกัด ผู้นำเข้าเหมาไถมาเมืองไทยตั้งแต่ปีที่แล้วเล่าว่านั่นเป็นเพราะเหมาไถนอกจากมีไม่พอจำหน่ายในประเทศจีนแล้ว คนส่วนใหญ่ยังไม่แน่ใจว่าที่วางขายอยู่ในร้านค้านั่นเป็นของเลียนแบบหรือเปล่า เพราะฉะนั้นถ้าซื้อจากดิวตี้ฟรีบ้านเรากลับไปก็มั่นใจว่าเป็นของแท้แน่นอน

        เป็นที่รู้กันว่าเหมาไถที่ถือกำเนิดเมื่อ 2,000 ปีก่อนนั้นปัจจุบันไม่ได้โด่งดังแค่ในประเทศจีน เมื่อปี 1915 เหมาไถเคยได้รับเหรียญทองจากงาน Panama-Pacific Exposition ในซานฟรานซิสโก โดยมีเรื่องเล่าถึงที่มาการชนะการประกวดในครั้งนั้นแบบคาดไม่ถึง ด้วยความที่บรรจุภัณฑ์เป็นไหดินเผา (terra cotta) นั้นไม่ดึงดูดคนเข้าชมงานและคณะกรรมการสักเท่าไหร่ คนที่นำเหล้าไปประกวดจึงตัดสินใจทุบไหเพื่อให้กลิ่นเหล้าฟุ้งกระจายไปทั่วงานและดึงคนมาดมและลิ้มรสชาติของเหล้าจนทำให้ชนะการประกวดไป

 

        ในแต่ละปีจะมีการผลิตเหล้าเหมาไถหลากหลายชนิด ขั้นตอนการผลิตเหมาไถนั้นซ้ำซ้อนและใช้เวลานาน (มีบางรุ่นอายุบ่มนานถึง 50 ปี) ซึ่งขั้นตอนการนึ่ง 9ครั้งหมัก 8 ครั้ง และ กลั่น 7ครั้ง จากนั้นจึงนำของเหลวที่กลั่นได้มาบ่มไว้ในไหดินเผา (terra cotta) เป็นเวลาหลายปี ชนิดที่นำเข้ามายังประเทศไทยนั้นมีเพียงสามชนิด ได้แก่ หยิงปิน หรือ Yingbin ที่ใช้เวลาหมัก 2 ปี ปรินซ์ หรือ Prince ที่ใช้เวลาหมัก 3ปี และ เฟยเทียน (ที่แปลว่านางฟ้า)Flying Fairy ที่ใช้เวลาหมัก 5 ปี (ซึ่งเป็นตัวเลือกที่มีราคาสูงที่สุดที่วางจำหน่ายในบ้านเรา)

        ปิยพงษ์ยังเล่าอีกว่า การทำเหล้าขาวเหมาไถนั้นเปรียบเสมือนการทำไวน์หรือแชมเปญของฝรั่งเศส กล่าวคือการผลิตเหล้าขาวเหมาไถจะทำกันเพียงแค่ปีละครั้งตามผลผลิตของข้าวฟ่างแดงและข้าวสาลีที่เป็นส่วนผสมหลักของการหมักบ่ม ซึ่งผลผลิตเหล่านี้จะต้องมาจากตำบลเหมาไถ เมืองกุ้ยหยาง จังหวัดกุ้ยโจว และน้ำที่ใช้ในการทำเหมาไถต้องมาจากแม่น้ำ ชื่อสุ่ย (Chi Shui) ตลอดสองพันปีที่ผ่านมา

         

        เขาบอกว่า วิธีดื่มเหมาไถที่ดีที่สุดคือเสิร์ฟในจอกขนาดเล็กที่ออกมาคล้ายกับแก้วไวน์ขนาดจิ๋วแบบรวดเดียวหมดเพื่อให้ได้รับรสชาติและความร้อนแรงของเหล้าขาวขนาด53 ดีกรีอย่างเต็มที่

       หลังจากที่ได้ลองรสชาติของเหมาไถทั้งสามชนิดแล้ว เราค้นพบว่าเหมาไถนั้นมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว หยิงปินนั้นค่อนข้างแรงบาดคอ ปรินซ์นั้นหอมและนุ่มนวลกว่า ในขณะที่เฟยเทียนนั้นหอมและรสชาตินุ่มแบบที่คุณจะไม่เสียใจถ้าจะหามาลองสักครั้ง

        คนจีนส่วนใหญ่นั้นมักดื่มเหล้าขาวกันแบบเพียวๆ พร้อมกับมื้ออาหาร เพราะหลายคนบอกว่าว่าเหมาไถมีรสชาติเข้มข้นเหมาะกับอาหารที่มีความมันและเลี่ยนอย่างอาหารจีน ซึ่งหลังจากที่เราได้ลองเหมาไถกับอาหารไทยรสจัดที่ร้านแดกแล้ว เราก็เห็นด้วยว่าการดื่มเครื่องดื่มรสชาติเข้มข้นพร้อมกับอาหารรสจัดนั้นจะทำให้อาหารและเครื่องดื่มต่างแย่งซีนกันเองโดยไม่จำเป็น

       

        แต่ถ้าหากคุณไม่ชอบที่จะดื่มเหล้าเพียวๆ ปิยพงษ์บอกว่าปัจจุบันมี mixologist ในต่างประเทศจำนวนมากได้นำเอาเหมาไถมาเป็นส่วนผสมหลักของค็อกเทล และ mixologist ของร้านแดกเองได้เอาหยิงปินมาทำเป็นค็อกเทล ด้วยการเอาเสาวรสไปต้มกับน้ำผึ้งโพรง, ลูกกระวานขาว, หอมหมื่นลี้, และสับปะรดอบแห้ง จากนั้นเอาใบชะพลูไปปั่นกับน้ำมะนาว แล้วเอามาแบชกับเหล้าพร้อมเสาวรสครับ ใส่น้ำตาลไปนิดหน่อยให้หวานกลมๆ ทิ้งข้ามคืนแล้วพอจะเสิร์ฟค่อยเอามาเขย่ากับใบชะพูลอีกรอบแล้วฝนผิวส้มซ่าใส่ไป

 

PHOTO COURTESY OF  บริษัทดรากอน (เอเชีย-แปซิฟิก) จำกัด

STORY BY Arinya