Life Coffee บาริสต้าในโลกเงียบและรอยยิ้ม

จิบกาแฟออแกนิค จากบาริสต้าในโลกเงียบ และ ห้องเรียนบิงซูของบุคคลพิเศษ

ทั้งหมดนี้รวมอยู่ใน ยิ้มสู้คาเฟ่

จากหน้าซอยอรุณอัมรินทร์ 39 ถ้ามองผ่านๆ เห็นป้ายมูลนิธิสากลเพื่อคนพิการขนาดใหญ่ อาจทำให้เข้าใจว่าตึกแถวหลายห้องนี้คือสำนักงาน แต่เมื่อเดินใกล้เข้าไปอีกนิด แล้วเพ่งมองผ่านกระจกที่ติดฟิล์มกรองแสงจนสลัว จึงพบว่า นี่คือร้านกาแฟขนาดใหญ่ บรรยากาศสบายน่านั่งด้วยเพดานสูงโปร่ง การจัดวางแสง ภาพวาด และมุมนั่งเล่นที่ทอดระยะห่างกำลังดี ภายในร้านมีทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินมาจากกองเรือพระราชพิธีนั่งจิบกาแฟ บ้างก็นั่งทำงานด้วยว่ามีไวไฟและจุดต่อปลั๊กไฟพร้อมให้บริการหลายจุด

เปิดดูเมนู ณ จุดสั่งกาแฟ ยังมีเค้ก อาหาร ขนมหวานให้บริการโดยพนักงานหน้าตาน่ารักซึ่งเป็นผู้พิการทางการได้ยิน น้องยื่นเมนูให้อย่างสุภาพ พร้อมทั้งหันหน้าจอคอมพิวเตอร์ชี้ให้เลือก ขั้นที่หนึ่ง เลือกทานที่นี่ หรือ สั่งกลับบ้าน จากนั้นเลือกหมายเลขโต๊ะ แล้วค่อยสั่งอาหารคาวหวานและเครื่องดื่มตามต้องการ เมื่อจ่ายเงินแล้ว ก็กลับมานั่งรอที่โต๊ะได้ (อย่าลืมล่ะว่าเลือกโต๊ะไหนไว้)

เมนูที่นี่มีอาหารจานเดียวง่ายๆ ข้าวหน้าไก่ ข้าวผัด ข้าวกะเพรา ข้าวราดแกงพะแนง ในราคาเพียงจานละ 50 บาทเท่านั้น! เครื่องดืมก็ราคาเดียวกัน ที่พิเศษกว่าร้านทั่วไปนอกเหนือจากโกโก้ อเมริกาโน่ มอคค่า ลาเต้ คือพิคโกโล่ ลาเต้ และแบล็คฟอเรสต์ โคลด์ โซดารสต่างๆ และชาผลไม้ นอกจากนี้ ยังมีขนมเค้กอีกด้วย

ระหว่างนั่งรอกาแฟ เห็นภาพวาดเล่าเรื่องกาแฟออแกนิคแบรนด์ "Life Coffee" อืมที่นี่ไม่ธรรมดาเลยลองค้นหาคำว่า ยิ้มสู้คาเฟ่ ทำให้รู้ว่าเขามีโครงการฝึกอาชีพการเป็นบาริสต้า และสอนทำบิงซูให้แก่ผู้พิการ เช่น บุคคลออทิสติกและผู้ดูแล เพื่อให้สามารถมีอาชีพและมีรายได้ในครอบครัว (เรียนฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย) รวมทั้งเปิดพื้นที่เป็นแกลเลอรี่แสดงงานศิลปะ

นั่นหมายถึง การที่เรานั่งจิบกาแฟรสชาติดี ในบรรยากาศเยี่ยมที่นี่ มันได้ทั้งความออแกนิค และช่วยส่งเสริมอาชีพให้ผู้พิการ ยังได้ยินมาว่าอีกหน่อยจะมีการ์ดภาษามือไว้ให้เราฝึกสั่งกาแฟกับน้องๆ อีกด้วย ถือเป็นกลยุทธ์พลิกจุดอ่อนให้กลายเป็นจุดแข็งแบบเก๋ๆ ทีเดียวเชียว