HAPPENING BKK
NLINE MAGAZINE
×
ฤดูกาลพิชิตภูกระดึงมาถึงแล้ว หนึ่งในลิสต์เส้นทางเดินป่ายอดนิยม
by L. Patt
15 ก.ย. 2568, 21:49
  344 views

อยากเล่าถึง "ภูกระดึง" ที่คิดถึง หลังจากได้ยินเพื่อนพ้องบอกว่าจะต้องไปสัมผัสธรรมชาติอีกครั้งกับพลังกายพลังใจในการเดินขึ้นเขากว่า 5 กม. ก่อนจะมีการสร้างกระเช้าไฟฟ้า (กำลังถูกผลักดันโครงการอยู่ในขณะนี้) แม้ว่าอายุอานามจะเลยเลข 4 เลข 5 กันไปแล้ว เรียกได้ว่า ภูกระดึงยังคงเป็นหมุดหมายของเหล่าสายเดินป่าที่หลายคนต้องกลับไปเยือนซ้ำ

 

 

เตรียมตัวให้พร้อม อุทยานแห่งชาติภูกระดึง เปิดการท่องเที่ยวและพักค้างแรมบนยอดภูกระดึงได้ตั้งแต่ 1 ตุลาคมนี้ ถึง 31 ตุลาคม 2569 โดยจะเปิดให้ขึ้นเขาเวลา 06.00-12.00 น. และจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวไว้ที่  3,500 คนต่อวัน (แนะนำให้จองเข้าอุทยานแห่งชาติผ่าน App QueQ ล่วงหน้าได้ไม่เกิน 60 วัน) 

 

อุทยานแห่งชาติแห่งที่ 2 ของประเทศไทย

ภูกระดึง จังหวัดเลย ได้รับการประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งที่ 2 ของประเทศไทย ถัดจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มีลักษณะโดดเด่นเป็นภูเขาหินทรายยอดตัดรูปหัวใจ และได้ขึ้นทะเบียนเป็นอุทยานมรดกอาเซียน (ASEAN Heritage Park) เมื่อปี 2566 เพราะมีระบบนิเวศหลากหลาย อีกทั้งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของพืชพันธุ์และสัตว์ป่าหายากด้วย ทำให้ภูกระดึงยังคงได้รับความนิยมสูง ดึงดูดนักท่องเที่ยวปีละ 60,000-80,000 คน

 

 

จากประสบการณ์ที่เคยไปขึ้นภูกระดึงมาหลายครั้ง ต้องบอกว่าเดี๋ยวนี้การเดินขึ้นเขาไม่ได้ลำบากลำบนและอันตรายเหมือนเมื่อ 50 ปีก่อน เพราะทางอุทยานฯ มีการปรับปรุงเส้นทางเดิน บันได ราวกั้น และป้าย ตามจุดต่างๆ บริการลูกหาบก็มีเยอะ ใครไม่อยากแบบอยากหิ้วข้าวของก็จ้างลูกหาบ (ราคาตามน้ำหนัก กก.ละ 30 บาท) แต่ก็ยังมีวลีที่คนพูดกันจนถึงทุกวันนี้ว่า "ครั้งหนึ่งในชีวิต เราคือผู้พิชิตภูกระดึง"

 

 

การขึ้นภูจากศูนย์บริการศรีฐานถึงหลังแป ระยะทาง 5.5 กม. เราจะผ่านจุดต่างๆ ไล่เรียงไปตั้งแต่ ซำแฮก ระยะ 1 กม.แรก ที่ต้องออกอาการหอบแฮกๆ กันทุกคน แล้วก็ผ่าน ซำบอน ซำกกกอก ซำกกหว้า ซำกกไผ่ ซำกกโดน ซำแคร่ จนกระทั่งถึงหลังแป จากนั้นก็จะเป็นพื้นราบระยะทาง 3.5 กม. ถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวาง เพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่เรื่องเต็นท์นอนและถุงนอน รวมถึงบ้านพัก (ตามแต่ละกรณีที่ทำเรื่องจองไว้)

 

 

เรื่องอาหารก็แสนสบาย สายแคมป์ยุคก่อนต้องเตรียมข้าวสารอาหารแห้งไปหุงหากันเอง เหมือนเข้าค่าย ได้ฟิลเดินป่าเต็มๆ แต่ทุกวันนี้ อุทยานฯ ไม่อนุญาตให้ก่อไฟ หรือใช้เตาแก๊ส เตาปิกนิก โดยมีบริการร้านอาหารให้เลือกสารพัด รวมทั้งเมนูฮิตอย่างหมูกระทะ ชาบู ถึงกับมีรีวิวร้านอร่อยบนภูกระดึงกันเลยทีเดียว แต่ถ้าใครเอาของกินไปเอง ก็อย่าลืมว่าอุทยานฯ ห้ามนำภาชนะพลาสติกประเภท ถุงก๊อบแก๊บ

กล่องบรรจุอาหารพลาสติก แก้วพลาสติก หลอดพลาสติก และช้อน-ส้อมพลาสติก (แบบบางใช้ครั้งเดียวทิ้ง) รวมทั้งภาชนะที่ทำด้วยโฟมเข้าไปในเขตอุทยานฯ ด้วย

ส่วนสายแอลปีนี้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ผ่อนปรนให้เจ้าหน้าที่กรม องค์กร หรือหน่วยงานที่มาจัดกิจกรรมเป็นหมู่คณะ เช่น ทัศนศึกษา สามารถดื่มแอลแอฮอล์ได้ในบริเวณสโมสร หรือห้องประชุม ซึ่งต้องได้รับอนุญาตจากหัวหน้าอุทยานฯ ก่อน บางจุดท่องเที่ยว เช่น ผานกแอ่น น้ำตกถ้ำใหญ่ จะเปิดวันละรอบ และมีเจ้าหน้าที่นำตลอดเส้นทาง

เส้นทางท่องเที่ยว

โปรแกรมยอดฮิตที่ทุกคนไม่พลาดก็คือ ชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่น รื่นรมกับพระอาทิตย์ตกดินที่ผาหล่มสัก และเก็บภาพความงดงามของก่วมแดง หรือเมเปิล ที่น้ำตกถ้ำใหญ่ ซึ่งจะมีสีแดงสดในช่วงเดือนธันวาคม นอกจากนี้ ยังมีพันธุ์ไม้สำคัญๆ  เช่น ก่วมแดง ทะโล้ สนสามพันปี พะอง จำปีป่า และพันธุ์ไม้หายาก เช่น หญ้าดอกลำโพง ผักชีภูกระดึง กุหลาบขาว และกุหลาบแดง

สำหรับมือใหม่หัดเดินป่า แนะนำให้สอบถามข้อมูลจากศูนย์บริการฯ ก่อน เพราะเจ้าหน้าได้จัดเส้นทางท่องเที่ยวไว้หลายเส้นทางให้เลือกชม โดยเส้นทางเลียบผาเป็นหนึ่งไฮไลต์ ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้เดินผ่านผาเมษา ผาหมากดูก ผาจำศีล ผานาน้อย ผาเหยียบเมฆ ผาแดง และผาหล่มสัก (หม้อข้าวหม้อแกงลิงพบได้เป็นดงในบริเวณใกล้ผานาน้อยจนถึงผาแดง)

 

สระอโนดาต เป็นอีกจุดเช็กอินที่โด่งดังมาแต่อดีต อยู่ห่างจากศูนย์บริการฯ 3.4 กิโลเมตร เป็นสระน้ำตามธรรมชาติมีน้ำตลอดปี มีต้นสนสองใบและสามใบขึ้นตามรอบสระ ใกล้กันยังมีลานกินรีซึ่งเป็นสวนหินธรรมชาติที่อุดมไปด้วยพรรณไม้ทั้งพวกกินแมลงอย่างดุสิตา หยาดน้ำค้าง หรือเฟิร์น เช่น กระปรอกสิงห์ นอกจากนี้ ก็ยังมีจุดอื่นๆ อาทิ ลานพระศรีนครินทร์ ลานองค์พระพุทธเมตตา และอ่างเก็บน้ำไพรัตน์ ธารไชย

 

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook: อุทยานแห่งชาติภูกระดึง

อุทยานแห่งชาติภูกระดึง โทร. 042-810833 และ 042-810834

 

ขอบคุณภาพประกอบจากอุทยานแห่งชาติภูกระดึง

 

ABOUT THE AUTHOR
L. Patt

L. Patt

ALL POSTS