ททท. จับมือ NIA เปิดตัว “Amazing Thailand Innovation Gadget” แพลตฟอร์มนวัตกรรมท่องเที่ยวไทย ปลอดภัย ค้นหาง่ายในแอปเดียว

เคยไหม...เวลาอยากไปเที่ยวแต่ต้องเสียเวลาหาข้อมูลมากมายจากหลายแหล่ง แถมยังมีแอปพลิเคชันและโซลูชันให้เลือกเต็มไปหมด บางคนถึงขั้นถูกหลอกเสียเงินฟรี การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) จึงร่วมมือกันพัฒนาแอปพลิเคชัน “Amazing Thailand Innovation Gadget” เพื่อเป็นศูนย์กลางรวบรวมนวัตกรรมด้านการท่องเที่ยวไว้ในที่เดียว โดยจะเริ่มเปิดให้บริการในอีก 1–2 เดือนข้างหน้า
ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการ NIA กล่าวว่า แอปฯ นี้จะทำหน้าที่เป็น “พื้นที่กลาง” สำหรับระบบนิเวศนวัตกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นทราเวลเทคสตาร์ตอัป ผู้ประกอบการที่พัฒนาโซลูชันด้านการเดินทาง โรงแรมและรีสอร์ตที่มีนวัตกรรมการบริการ ไปจนถึงฟินเทคและอินชัวร์เทค เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถค้นหาข้อมูลได้สะดวกและครบถ้วนมากขึ้น
ที่สำคัญ แอปฯ จะช่วยสร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวว่าสามารถดาวน์โหลดและใช้งานได้อย่างปลอดภัย ลดความเสี่ยงจากการถูกหลอกลวงหรือโดนสแกม ซึ่งเป็นปัญหาที่เพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน โดย NIA มีแผนจะรวบรวมแอปพลิเคชันและโซลูชันด้านการท่องเที่ยวให้ได้มากที่สุดภายในแพลตฟอร์มนี้
“ในอนาคต เราอยากให้ Amazing Thailand Innovation Gadget เป็นแอปที่นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติเลือกใช้ เพราะจะได้ข้อมูลครบทุกอย่างที่ต้องการ พร้อมระบบ Customer Journey ที่นำดาต้าและเทคโนโลยี AI มาช่วยให้นักท่องเที่ยวสามารถวางแผนทริปได้อย่างตรงใจ ตั้งแต่การเลือกเส้นทางไปจนถึงการใช้โซลูชันต่าง ๆ” ดร.กริชผกา กล่าว
ด้าน นางฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การพัฒนาแพลตฟอร์มกลางนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างระบบนิเวศนวัตกรรมการท่องเที่ยวที่เข้มแข็ง ผ่านความร่วมมือจากทุกภาคส่วน และช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถนำนวัตกรรมที่อยู่ในแพลตฟอร์มไปปรับใช้ให้เหมาะกับบริบทของพื้นที่ได้จริง ซึ่งจะช่วยลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และยกระดับมาตรฐานบริการของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย
นอกจาก Amazing Thailand Innovation Gadget แล้ว NIA ยังเดินหน้าโครงการ Safe City โดยจะเริ่มนำร่องใน 3 พื้นที่ที่มีความพร้อมด้านโครงสร้าง IT คือ พัทยา และบางโซนของกรุงเทพฯ ส่วนอีกหนึ่งพื้นที่อยู่ระหว่างการคัดเลือกระหว่าง เชียงใหม่ หรือ กระบี่ ก่อนจะขยายเพิ่มอีก 7 พื้นที่ในปีหน้า

ดร.กริชผกา กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการ Safe City จะเป็นโมเดลต้นแบบในการสร้าง “เมืองปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว” โดยนำ Data Behavior และ Data Analytics มาใช้วิเคราะห์และต่อยอดเพื่อวางแผนพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ การเป็นเมืองปลอดภัยจะมีตัวชี้วัดหลายด้าน เช่น อัตราอุบัติเหตุบนท้องถนนลดลง อาชญากรรมน้อยลง มีระบบแจ้งเตือนที่มีประสิทธิภาพในกรณีเกิดโรคระบาดใหม่ และมีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
#AmazingThailand #NIA #TAT #TravelTech #InnovationThailand #SmartTravel #SafeCity
