พักกายพักใจในทะเลทรายบอตสวานา
หากพูดถึงการท่องเที่ยวแบบซาฟารี ชื่นชมสัตว์ป่าใช้ชีวิตอิสระในโลกกว้าง แอฟริกามักเป็นคำตอบแรกของใครหลายคน แต่ถ้าจะเจาะจงถึงการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ การจัดการแบบยั่งยืน พร้อมการมีส่วนร่วมของชนเผ่าท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง ก็คงหนีไม่พ้นการท่องเที่ยวซาฟารีใน “บอตสวานา”

“ที่นี่เหมือนเป็นที่หลบภัยของสัตว์ป่าจากประเทศเพื่อนบ้าน พวกสัตว์ทั้งหลายรู้ว่าถ้าเข้ามาถึงบอตสวานา พวกมันปลอดภัยแน่นนอน” ซุปเปอร์ แซนเด ตอบคำถามว่าอะไรทำให้ซาฟารีที่บอตสวานาแตกต่างจากที่อื่น
ซุปเปอร์ทำงานเป็นมัคคุเทศก์ในบอตสวานามากว่า 30 ปี ได้รับรางวัลมัคคุเทศก์ที่ดีที่สุดในแอฟริกาเมื่อปี 2023 จาก Tatler Travel เขาเป็นที่ยอมรับในบอตสวานาในฐานะมัคคุเทศก์ผู้บุกเบิกและพัฒนาการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน

เดือนนี้ ซุปเปอร์เดินทางมาทวีปเอเชียเป็นครั้งแรก ตามคำเชิญของ A2A Safaris บริษัทจัดการท่องเที่ยวซาฟารีที่ทำงานในเอเชียมากว่า 20 ปี การมาเยือนกรุงเทพฯ เมื่อช่วงกลางเดือนมีนาคม คือจุดหมายสุดท้าย ต่อจากฮ่องกง และฟิลิปปินส์ ก่อนบินกลับบ้านที่บอตสวานา
ซุปเปอร์ไม่ได้ตอบว่าอะไรทำให้เขาได้ชื่อว่าเป็นมัคคุเทศก์ที่ดีที่สุด แต่เล่าว่าหัวใจการทำงานคือการเข้าใจสัตว์ป่า เข้าใจนักท่องเที่ยว วางแผนรัดกุม “ผมไม่เสี่ยง...”
“ผมน่าจะเป็นมัคคุเทศก์ที่น่าเบื่อที่สุด ผมไม่มีเรื่องราวน่าตื่นเต้น เฉียดตาย เกือบถูกสัตว์ป่าทำร้าย หรือช้างบุกที่พักอะไรแบบนั้น... ผมทำงานด้วยการอ่านพฤติกรรมสัตว์เหล่านี้ก่อนที่จะมีปฏิกิริยาอะไรกับการมาถึงของเรา และเราก็อยู่ให้ไกลปัญหาเข้าไว้”


ปัจจุบันซุปเปอร์ทำงานเป็นผู้ฝึกมัคคุเทศก์กับ Jack’s Camp และที่พักในเครือเดียวกัน ซุปเปอร์บอกว่าถ้าเลือกได้ จะเลือกคนที่ไม่เคยทำงานมัคคุเทศก์มาก่อน จะได้ไม่ต้องมาลบความรู้ความเข้าใจเดิมก่อนเริ่มฝึกใหม่
“คุณต้องเป็นผู้ฟังที่ดีด้วย ตั้งใจฟัง และตื่นตัว ต้องรู้จักความสมดุล คุณใช้เวลากับแขกที่ไป ต้องเล่าเรื่องได้ ต้องอธิบายว่าไม่ควรทำอะไรเมื่ออยู่ในป่า และต้องหาประสบการ์ที่ไม่ได้พบเจอได้ทั่วไป คิดให้ได้ว่าจะให้แขกได้พบกับประสบการณ์นั้นเมื่อไหร่ อย่างไร”
ต้นแบบการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพแบบยั่งยืน
บอตสวานาเป็นประเทศในแอฟริกาตอนใต้ที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล และเคยเป็นหนึ่งในประเทศที่ยากจนที่สุดในโลกเมื่อปี 1966 จากรายได้ต่อประชากร 80 ดอลลาร์ต่อคนในวันนั้น การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ในวันนี้ทำให้รายได้ต่อประชากรบอตสวานาพุ่งขึ้นมาเป็นราว 3,200 ดอลลาร์ต่อคน
“ผมคิดว่าบอตสวานาโชคดีที่มีประเทศอื่น ๆ เริ่มทำการท่องเที่ยวมาก่อนเรา เราเห็นข้อผิดพลาดของพวกเขา แทนที่เราจะไปทำการท่องเที่ยวเชิงปริมาณ เราเลยสามารถทำสิ่งที่ถูกได้ จำนวนคนน้อยลง คิดเงินนักท่องเที่ยวเพิ่มอีกนิดหน่อย และมีรถบนถนนน้อยลง มีคนน้อยลง ผมคิดว่าบอตสวานาเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ดีมากว่าซาฟารีในแอฟริกาควรเป็นอย่างไร” ซุปเปอร์เล่าด้วยรอยยิ้ม

ด้วยพื้นที่ป่าอันกว้างใหญ่และระบบนิเวศที่เจริญรุ่งเรือง บอตสวานามอบประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครให้กับคนรักธรรมชาติและนักผจญภัย การท่องเที่ยวที่ส่งผลกระทบต่ำและคุณภาพสูง ช่วยรักษาทรัพยากรธรรมชาติของประเทศได้เป็นอย่างดี ทำให้เป็นจุดหมายปลายทางชั้นนำสำหรับการท่องเที่ยวเชิงนิเวศและซาฟารี
บอตสวานาเป็นสถานที่ชั้นนำในการชมสัตว์ “บิ๊กไฟว์” (สิงโต เสือดาว แรด ช้าง และควายป่าแอฟริกา) และสัตว์หายากอื่น ๆ เช่น หมาป่าแอฟริกา เสือชีตาห์ และละมั่งบอตสวานา
ไม่ว่าจะเป็นการสำรวจสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโอคาวังโก การผจญภัยซาฟารีในอุทยานแห่งชาติโชเบ หรือการสัมผัสวัฒนธรรมโบราณของชาวแซน บุชเมน บอตสวานามอบประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ยั่งยืน เชื่อมต่อผู้มาเยือนเข้ากับวัฒนธรรมอันหลากหลายและธรรมชาติอันบริสุทธิ์

วิถีชีวิตของแซน บุชเมน
ลอดจ์และแคมป์ซาฟารีหลายแห่งในบอตสวานาเป็นของชุมชนหรือได้รับการบริหารจัดการโดยชุมชนท้องถิ่น ส่งเสริมการเสริมสร้างพลังทางเศรษฐกิจและการอนุรักษ์ นักท่องเที่ยวมีส่วนร่วมในการรักษาสัตว์ป่าและพัฒนาชุมชนท้องถิ่น การเรียนรู้วิถีชนเผ่าจากแซน บุชเมน จึงเป็นไฮไลต์ของนักท่องเที่ยวมากมาย
“เรามีความสัมพันธ์ที่ดีกับชาวชนเผ่าที่คาลาฮารี พวกเขาเชื่อใจแจ๊ค (พ่อของผู้ก่อตั้ง Jack’s Camp) เราเลยไม่เคยทำงานโดยไม่มีพวกเขาเกี่ยวข้องด้วย Jack’s Camp เป็นที่เดียวที่คุณจะได้เจอประสบการณ์พิเศษแบบนี้ มีหลายที่ทำตามนะ แต่ที่นี่เป็นที่แรก”
ครอบครัวชนเผ่าแซน บุชเมน จะเดินทางจากทางตะวันตกของคาลาฮารีมาพักที่ Jack’s Camp ครั้งละ 3 เดือน เพื่อแบ่งปันทักษะการเอาตัวรอดในทะเลทราย วัฒนธรรม และเรื่องราวที่น่าสนใจแก่แขกที่มาพัก

ชาวแซน เป็นหนึ่งในวัฒนธรรมที่เก่าแก่ที่สุดในโลก มีรากฐานย้อนกลับไปหลายพันปีในแอฟริกาตอนใต้ พวกเขามีความรู้ลึกซึ้งเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมธรรมชาติ รวมถึงพืชสมุนไพร การติดตามสัตว์ป่า และความสามารถในการปรับตัวที่น่าทึ่งต่อเงื่อนไขที่รุนแรงของทะเลทรายคาลาฮารี
เทคโนโลยีเป็นเรื่องดีกับการท่องเที่ยว
ซุปเปอร์บอกว่าโซเชียลมีเดียเป็นเรื่องดีกับการท่องเที่ยว ผู้คนทั่วโลกรู้จักบอตสวานามากขึ้น และมีข้อมูลเกี่ยวกับซาฟารีที่บอตสวานามากกว่านักท่องเที่ยวรุ่นก่อน ๆ รวมถึงเทคโนโลยีสมาร์ตโฟนที่ทำให้นักท่องเที่ยวไม่ต้องพกกล้องใหญ่พร้อมเลนส์และฟิล์มมากมายมาใช้ถ่ายภาพ โทรศัพท์เครื่องเดียวและอุปกรณ์การถ่ายรูปที่เล็กลง ทำให้สามารถเดินทางด้วยสัมภาระที่น้อยลง และสมาร์ตโฟนทำให้นักท่องเที่ยวยังสามารถติดต่อสื่อสารกับครอบครัวได้ แต่ถ้าจะเลือกถอดปลั๊กชีวิต ที่นี่คือที่ที่เหมาะที่สุด

สำหรับคนที่อยากมาพักที่ Jack’s Camp สามารถติดต่อได้ผ่านตัวแทนท่องเที่ยว ซุปเปอร์บอกว่าจากมุมมองของเขา A2A Safaris เป็นตัวแทนที่ดีที่สุดตอนนี้ “พวกเขาเคยมาเที่ยวที่นี่มาก่อน พวกเขารู้จักที่นี่ดี เขาขายสินค้าที่เขารู้จัก A2A ส่งนักท่องเที่ยวมาที่เรามากมายในช่วง 23 ปีที่ผ่านมา ผมยังไม่เคยเจอกรณีที่มีนักท่องเที่ยวมาแล้วไม่มีข้อมูลหรือไม่รู้อะไรเกี่ยวกับที่นี่เลย”

สร้างคนรุ่นใหม่ที่รักธรรมชาติ
ซุปเปอร์ทิ้งท้ายว่าสิ่งที่เขาพยายามทำให้การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์สามารถดำเนินต่อไปได้อย่างยั่งยืน คือการศึกษา การให้ความรู้กับเด็ก ๆ กับคนรุ่นต่อไป เพราะการท่องเที่ยวเป็นทรัพยากรหมุนเวียนอย่างเดียวที่บอตสวานามี “การศึกษาที่ดีขึ้นจะทำให้คนรุ่นใหม่ดูแลสิ่งที่เรามี ซึ่งเป็นสิ่งที่ประเทศส่วนใหญ่ไม่มีแล้ว”
ส่วนตัวเขาเอง เขายังไม่รีบเกษียณเร็ว ๆ นี้ “ใครจะมาทำงานแทนตำแหน่งของผมก็ได้ แต่ไม่สามารถเอาความสนใจที่ผมมีต่อธรรมชาติไปจากผมได้”
ขอบคุณข้อมูล กีรติกร นาคสมภพ เบลาว์
#BotswanaSafaris #A2ASafaris
#SustainableTourism #AfricaSafaris