“ดวงใจไหลริน” จากหนังสือบทกวีชีวิตและความรัก ถึงโรงพยาบาลเพื่อประชาชน

นับเป็นเล่มที่สองต่อจากเล่มแรก คือ “ฉันจะรักเธอเป็นคนสุดท้าย” ที่มีกระแสตอบรับอย่างมากมายในโลก Online โดยนักเขียนนามปากกา “YoPlePa” ได้รับการตีพิมพ์ขึ้นมาเป็นหนังสือ เพื่อสมทบทุนการก่อสร้างโรงพยาบาลและจัดซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ 3 แห่ง โดยไม่หักค่าใช้จ่าย คือ

1. การก่อตั้งคณะแพทยศาสตร์และโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
2. โรงพยาบาลศิริราช คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
3. โครงการจัดซื้อเครื่องมือแพทย์เพื่อใช้ในการรักษาผู้ป่วยทางด้านออร์โธปิดิกส์ โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา สภากาชาดไทย

กล่าวกันว่า คุณประสิทธิ์ กิจวิวัฒนการ ผู้เขียนบทกลอนในหนังสือ “ดวงใจไหลริน” เป็นวิศวกรนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อาวุโส ที่ชื่นชอบการเขียนบทกลอนด้วยภาษาอารมณ์ที่สามารถเข้าถึงความรู้สึกได้ลึกซึ้งด้วยคำง่ายๆ  ซึ่งคุณประสิทธิ์ได้เขียนไว้ในหนังสือหน้าจากใจผู้เขียนว่า 

“ทุกคนสามารถเป็นนักประพันธ์เองได้ เพราะเราโชคดีมีภาษาไทยที่เต็มไปด้วยความลุ่มลึกในแต่ละคำมากมาย เพื่อจะนำมาถ่ายทอดอารมณ์ได้อย่างลึกซึ้งจับใจ”

 

ขณะที่มีผู้ทรงคุณวุฒิหลากหลายสาขาวิชาชีพ และกัลยาณมิตรได้ให้ความคิดเห็นต่อหนังสือเล่มนี้

“ผมมีความอิ่มใจมากที่ได้อ่านบทกวีในหนังสือ "ดวงใจไหลริน" ซึ่งคุณประสิทธิ์ได้ทำขึ้นมาเป็นเล่มที่สอง ด้วยความเพลิดเพลินสบายๆ ในมุมมองทัศนคติกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์หลายแง่มุมที่น่าสนใจ ซึ่งบรรยายออกมาเป็นคำกลอน ด้วยการใช้ถ้อยคำที่ง่ายๆ คล้องจองกันอย่างรื่นจิตรี่นใจ ขอขอบคุณคุณประสิทธิ์ที่นำความสามารถอันโดดเด่นมาเป็นผลงานดีดีต่อคนไทยอีกครั้ง ขอชื่นชมและร่วมอนุโมทนาบุญกับ คุณประสิทธิ์ที่ตั้งใจจะนำรายได้จากหนังสือให้เป็นศรัทธาดั่ง "ดวงใจไหลริน" สู่โรงพยาบาลเพื่อกิจการสาธารณประโยชน์ทั้งหมด” คุณสุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการโรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา

“บทกวีคือเพชรพลอยของถ้อยคำอันเจียระไนจากผลึกของความคิด ดวงใจไหลรินได้รินไหลอารมณ์ความรู้สึกของผู้เขียนโดยตรง สะอาดหมดจด น่าชมเชยยิ่ง จริงอยู่บทกวีนั้นนอกจากสัมผัสคำแล้วต้องสัมผัสใจด้วย ดังกล่าวว่า “คล้องจอง-คล้องใจ”  ดวงใจไหลรินได้เจียระไนความรู้สึกนึกคิดของผู้เขียนเป็นถ้อยคำตามจังหวะจะโคนพื้นฐานฉันทลักษณ์ของคำประพันธ์นี้ประเภทกลอนแล้ว  แม้จะไม่ครบถ้วน แต่ความจริงใจและความปรารถนาดีนั้นเลิศล้ำยิ่ง” อ.เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ปี พ.ศ. 2523

“ด้วยความรู้สึกที่มีต่อเพื่อนผู้นี้ที่เราเห็นกันมาตลอดระยะเวลา 40 กว่าปี และเห็นฝีมือกันมาตั้งแต่สมัยที่นั่งร้องเล่นในวงเมรัยตอนเรียนวิศวะว่า เพื่อนคนนี้สามารถแต่งเพลงที่มีความหมายให้กับคณะที่เรียนวิศวะอยู่ และยังเป็นตำนานที่น้องๆวิศวะรุ่นต่อๆไปยังร้องเพลงเป็นตำนานคณะฯ ถึงปัจจุบัน  เมื่อได้เปิดบทที่ 1 เพื่ออ่านเนื้อหาของบทร้อยกรอง ซึ่งสัมผัสได้ถึงความรักของคุณประสิทธิ์ที่มีต่อบิดามารดา เป็นความรักความภักดีที่เพื่อนประสิทธิ์มีต่อบุพการีและอื่นๆ ที่เพื่อนผูกพัน  ด้วยใจที่เพื่อนมีต่อผู้คนรอบข้าง จึงทำให้เกิดหนังสือ “ดวงใจไหลริน” นี้ขึ้นมาก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสาธารณะในการกุศลทางการแพทย์   ขอให้ทุกท่านได้รับผลบุญในการทำกรรมดีร่วมกันตามวัตถุประสงค์” คุณสมบัติ กีรติวิรัชการ กรรมการผู้จัดการ บจก. เสาหลักก่อสร้าง

“เราเคยเชื่อว่าผู้เป็นกวีมักจะต้องเป็นผู้มีพรสวรรค์เป็นผู้ถ่องแท้ในวรรณศิลป์ มีจริตทางภาษาต่างไปจากการใช้ภาษาในชีวิตประจำวัน และเป็นผู้มีสถานะสูงส่ง มีวิถีชีวิตและวิธีคิดต่างกับผู้คนทั่วไป แต่ “ประสิทธิ์ กิจวิวัฒนการ” ผู้ซึ่งเป็นนักธุรกิจที่อยู่นอกวงการภาษา และวรรณกรรมไทยได้พิสูจน์ให้เห็นว่า “ใครก็เป็นกวีได้ไม่ต้องรอ” หนังสือรวมงานร้อยกรองชื่อ "ดวงใจไหลริน" เล่มนี้ไม่ได้ใช้ภาษาหรูหราอลังการ ไม่ได้สื่อความคิดคมเข้ม แต่เป็นงานเขียนที่อ่านง่าย นำเสนอเนื้อหาที่ผู้อ่านคุ้นเคย เป็นอารมณ์รักที่เผื่อแผ่ถึงผู้คนในวงกว้าง และเป็นความรู้สึกนึกคิดที่มีต่อปรากฏการณ์ทางสังคมร่วมสมัยใกล้ตัว โดยเฉพาะภาคสอง "วิถีชีวิต" งานหลายบททำหน้าที่กระตุ้น จิตสำนึกผู้อ่านให้เป็นผู้มีคุณธรรม รู้จักห่วงหาอาทรและเอื้อเฟื้อเจือจาน” ผศ.ดร.ธเนศ เวศร์ภาดา นายกสมาคมภาษาและหนังสือแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์

 

“สำหรับบทกวี "ดวงใจไหลริน" ในเล่มนี้ได้แบ่งบทกวีออกเป็นสองส่วนคือ ความรักภักดีและวิถีชีวิต ซึ่งบทกวีทั้งสองตอนนี้ก็ยังคงความเป็นตัวตนของคุณประสิทธิ์ผู้ประพันธ์ คือสะท้อนให้เห็นแนวคิดเชิงปรัชญาที่เป็นไปตามครรลองชีวิตจริง ที่บ่งบอกความรู้สึกของผู้ประพันธ์ว่าอยู่ในตำแหน่งหรือสถานะใดของสังคม บทกวีเป็นการประพันธ์อย่างเรียบง่าย มีการเล่นคำซึ่งเป็นลักษณะบทกวีของคุณประสิทธิ์ ที่สำคัญบทกวีได้แสดงถึงเนื้อหาถึงเหตุการณ์ต่างๆ ของคนในสังคม ตามที่ผู้ประพันธ์ได้สัมผัสออกมาเป็นบทกวีที่เรียบง่าย และทำให้เห็นถึงบริบทของสังคมแม้กระทั่งในครอบครัวของคุณประสิทธิ์เอง” รศ.พรชัย เทพปัญญา อุปนายกสภามหาวิทยาลัยเวสเทิร์น / อดีตคณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง

 

“คุณประสิทธิ์เป็นน้องที่น่ารัก จิตใจดีงาม มีอารมณ์สุนทรีย์ เรามีโอกาสได้เดินทางด้วยกันในเกือบทุกปี ทำให้มีส่วนร่วมในเหตุการณ์ประกอบบทกลอนที่มีการรวมเล่มครั้งแรก รู้สึกดีใจเมื่อทราบว่าจะรวมเล่มเป็นครั้งที่ 2 และรายได้ครั้งนี้ก็จะบริจาคให้กับโรงพยาบาลต่างๆ  ขอเป็นกำลังใจ ชื่นชม และอนุโมทนากับกุศลจิตด้วยครับ ขอให้คุณประสิทธิ์และครอบครัวมีความสุข ได้ทำในสิ่งที่ชอบ อยู่กับคนที่รัก  แวดล้อมด้วยกัลยาณมิตรและทำประโยชน์ให้กับสังคมแบบนี้ตลอดไปนะครับ” คุณเทวินทร์ วงศ์วานิช - กรรมการสภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย / รองประธานกรรมการ บมจ. เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ และคุณเปรมฤดี สุวรรณทัต- กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทวิน แอนด์ เอ จำกัด

“ความสามารถในการแต่งกลอนของพี่เอ้าท์ก็เป็นอีกอย่างที่ผมทึ่งมาก พี่เอ้าท์ได้จับเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้น มาเรียบเรียงเป็นบทกลอนที่ไพเราะ เทคนิควิธีการใช้คำซ้ำๆในการแต่งกลอน  อ่านแล้วเพลินมากครับ   ยินดีด้วยครับพี่เอ๊าท์ "วิศวกลอน" ของผม”  คุณอำนวย ธนารักษ์โชค ประธานกรรมการบริหาร บจก.เอ๊กมี่ ACME

“ดวงใจไหลริน หนังสือเล่มนี้มีทั้งหมด 123 บท  ผมอ่านจบทุกบท พูดได้ว่าเป็นหนังสือที่ทรงคุณค่ามากเล่มหนึ่ง คนจะเขียนบทกลอนนี้ได้ต้องบอกว่ามีพรสวรรค์หรือนักปราชญ์เท่านั้นครับ สมควรที่จะมีเก็บไว้สักเล่มที่ห้องหนังสือ โรงเรียน มหาวิทยาลัยหรือเก็บไว้อ่านที่บ้าน” คุณวิชัย ม้าลายทอง กรรมการผู้จัดการ บจก.เบ๊เก่าเฮงการ์เม้นท์

 

“คุณประสิทธิ์ มีความตั้งใจช่วยอนุเคราะห์ผู้ที่ด้อยโอกาสอยู่เสมอ โดยในครั้งนี้เช่นกันที่ได้แสดงความจำนงค์ในการบริจาครายได้จากการจำหน่ายหนังสือ เพื่อช่วยเหลือกิจการของโรงพยาบาลที่ดูแลผู้ป่วย ได้แก่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โรงพยาบาลศิริราช มหาวิทยาลัยมหิดล โรงพยาบาลสมเด็จศรีราชา สภากาชาดไทย นอกจากทุกท่านที่ได้เป็นเจ้าของหนังสือที่มีคุณค่าเล่มนี้แล้ว ยังมีโอกาสช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์ได้อีก ซึ่งขอให้ทุกท่านมีความสุขจาก"การให้....ที่ไม่มีวัน สิ้นสุด" ตามความปรารถนาของคุณประสิทธิ์ กิจวิวัฒนการ” ศ.นพ.อภิชาติ อัศวมงคลกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล

“งานขีดๆเขียนๆกลอนของคุณประสิทธิ์ กิจวิวัฒนการ เกิดจากอารมณ์ ความรู้สึก และประสบการณ์ที่เกิดขึ้นจริงของคุณประสิทธิ์ ถ้าท่านได้อ่านและเรียนรู้ก็จะเกิดประโยชน์แก่ตัวท่านเองไม่มากก็น้อย” พล.ต.อ. สุวัฒน์ ธํารงศรีสกุล อดีตที่ปรึกษา สบ.10 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

“การมีโอกาสได้อ่านหนังสือดีที่ทำให้มีมุมมองเพิ่มขึ้น พร้อมๆ กับได้สัมผัสภาษาที่สละสลวย ก็คงเหมือนกับการฟังเพลงที่มีเนื้อร้องดีและทำนองโดนใจ ทำให้ได้ข้อคิดและในขณะเดียวกันก็มีความสุขด้วย จึงอยากจะขอให้ทุกหน้าของหนังสือเล่มนี้ เกิดประโยชน์แก่ผู้อ่าน เปลี่ยนมุมในการมองสิ่งต่างๆ ที่หนักให้เบาขึ้น หรือเป็นกำลังใจให้มุ่งมั่นทำสิ่งที่ดีต่อไป” คุณนุชนาถ เลาหไทยมงคล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บมจ.วิริยะประกันภัย