HAPPENING BKK
NLINE MAGAZINE
×
เปิดประสบการณ์จากฟาร์มสู่โต๊ะอาหาร ของดีเพชรบุรี มรดกโลกด้านอาหารของ UNESCO สู่ไฟน์ไดนิ่งที่ Sofitel So Hua Hin
by Neena M.L.
5 เม.ย. 2567, 16:18
  337 views

พาส่องเมนูหรู เปิดประสบการณ์จากฟาร์มสู่โต๊ะอาหาร นำวัตถุดิบพื้นบ้านขึ้นชื่อของดีมีคุณภาพจากมืองแห่ง 3 รสจังหวัดเพชรบุรี มาปรุงเป็นเมนูสุดหรูในรูปแบบไฟน์ไดนิ่งบนโต๊ะอาหารหรูเคล้าบรรยากาศสบายๆริมทะเลที่ห้องอาหาร Beachfront Restaurants & Bars ของโรงแรม Sofitel So Hua Hin รังสรรค์โดยเชฟเส็ง “ธนนันท์ กิจประยูร” หัวหน้าเชฟของโรงแรมโซ โซฟิเทล หัวหิน ผู้เล่าเรื่องราววัฒนธรรมการกินอาหารและความอุดมสมบูรณ์จากวัตถุดิบมากหลายของเพชรบุรีได้อย่างลงตัวผ่านทุกจานอาหาร

ร่วมออกเดินทางไปพร้อมกับเรื่องราวของดีจากเมืองเพชรบุรีเมืองที่ถูกคัดเลือกยกย่องให้เป็นหนึ่งในเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหารของ UNESCO ดื่มด่ำไปกับมื้ออาหารค่ำสุดพิเศษในรูปแบบ local meets international เอาใจสายนิยมกินดื่มเที่ยวแบบยั่งยืน หลงใหลในวัฒนธรรม สนับสนุนสินค้าท้องถิ่น มองหาความแตกต่าง

เมื่อความหรูไม่จำเป็นที่จะต้องมีราคาสูงเสมอไป นอกจากความเปรี้ยวของมะนาวแป้นจี๊ดจ๊าด ความเค็มอ่อนๆจากดอกเกลือ หรือความหวานละมุนจากน้ำตาลโตนด เชฟแสงไม่ลืมที่จะหยิบใช้วัตถุดิบอื่น อย่างหัวโหนดจากตาลโตนดในยำหัวโหนดกุ้งลายเสือย่างและสมุนไพร หรือถ่ายทอดเรื่องราวอาหารเด่นของเมืองเพชรบุรี อย่างขนมหม้อแกงที่มีกลิ่นอายของเมืองเพชรในหม้อแกงมะม่วงเสิร์ฟลูกตาลและครัมเบิลลูกตาล หรือจะเป็นเนื้อปูม้าอันแสนหวานบนเมนูขนมจีนทอดมันปลาเมนูขึ้นชื่อแห่งเมืองเพชรนั่นเอง

ลิ้มรสสัมผัสประสบการณ์ทางอาหารอันน่าจดจำแห่งของเพชรบุรีพร้อมเชิดชูมรดกทางวัฒนธรรมและวิถีการปรุงอาหารอย่างยั่งยืนผ่านเมนูทั้งแบบ “Dinner Course Menu”จับคู่กับไวน์  และ “A la carte” และยิ่งพิเศษไปกว่านั้นการจับคู่ไวน์ในครั้งนี้ไม่ใช่แค่จับคู่เพื่อเสริมอรรถรสทางด้านอาหารและรสชาติ แต่เป็นการจับคู่อย่างสมเกียรติ โดยอิตาเลี่ยนคาเฟ่ บ่วนจอร์โน่ (Café Buongiorno) ได้นำไวน์พรีเมี่ยมชั้นยอดจากเมืองต่างๆของประเทศอิตาลีที่ถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในเครือข่ายเหมือนสร้างสรรค์ด้านอาหารของ UNESCO เช่นกัน มาแพริ่งกับดินเนอร์คอร์สหรูในในการทานอาหารสุดอลังการงานสร้างครั้งนี้

  • ขนมจีนทอดมันปลาใส่เนื้อปู สัมผัสความสดใหม่ของ เนื้อปูม้า จากชุมชนแหลมผักเบี้ย อำเภอชะอำ เนื้อแน่น หวาน ฉ่ำ เต็มคำ ผสมผสานกับทอดมันปลา เสิร์ฟพร้อมขนมจีนเส้นเหนียวนุ่ม ราดด้วยน้ำจิ้มรสเด็ด กลมกล่อมลงตัว
  • ไวน์ Arrigoni “Le Madie” Prosecco DOCG. Grapes: Glera. Alc.: 11%.

 

  • ยำหัวโหนดกุ้งลายเสือย่างและสมุนไพร ยำโบราณที่รวมเครื่องยำ ผัก สมุนไพรต่าง ๆ และ “หัวโหนด” ซึ่งคือลูกตาลโตนด โดยใช้บริเวณขั้วที่ติดกับทะลายของลูกตาลที่ยังอ่อนอยู่ เป็นสีขาว-เขียวอ่อน รสชาติออกฝาด ๆ หวาน ๆ โดยแหล่งที่ปลูกต้นตาล อยู่ที่ หัวโหนด บ้านถำรงค์ อำเภอบ้านลาด 
  • ไวน์ Arrigoni “La Cascina Dei Peri” Vermentino Superiore Colli di Luni DOC.

 

  • ต้มศรีนวลไก่และสมุนไพร ลักษณะคล้ายๆกับต้มข่าไก่ แต่ใส่หัวปลีลงไปด้วย ปรุงรสชาติโดยใช้ดอกเกลือจากบางขุนไทร อำเภอบ้านแหลม เพื่อเพิ่มความกลมกล่อมให้รสซุป จัดเสิร์ฟในกะลามะพร้าว เพิ่มอรรถรสในการทาน 
  • ไวน์ Arrigoni “In Rosa” Rosato Toscana, IGT.
  • ไอศครีมน้ำผึ้งมะนาว ที่ท่าไม้รวก อำเภอท่ายาง เมืองเพชรบุรี จะขึ้นชื่อเรื่องมะนาวแป้น  เนื้อสีขาวใส ให้น้ำมาก มีรสเปรี้ยว และมีกลิ่นหอมอโรม่า นำมาทำเป็นไอศกรีมผสมกับน้ำผึ้ง ให้ความสดชื่นและปรับการรับรสเตรียมพร้อมสำหรับอาหารจานต่อไป 
  • ไวน์ Arrigoni “Poggio al Vento” Chianti Colli Senesi, DOCG.

  • เนื้อวากิวย่างเสิร์ฟพร้อมผักกูด, หัวตาล, ข้าวมันกะทิทอด และ ซอสแกงหัวตาล ซึ่งจุดเด่นจะอยู่ที่การนำผักกูด ของขึ้นชื่อจากจากบ้านถ้ำเสือ อำเภอแก่งกระจาน มาแทนผักสลัด มีความกรอบ และรสชาติหวาน เสิร์ฟพร้อมข้าวมันกะทิทอด กรอบนอกนุ่มใน หอมมันกะทิ ให้สัมผัสที่แตกต่างคำต่อคำ ราดด้วยซอสหัวตาลที่อันมีรสขมจาง ๆ ของหัวตาลอ่อน เมื่อปรุงด้วยน้ำตาลโตนดจึงทำให้ได้รสชาติที่กลมกล่อมมากขึ้น
  • ไวน์ Arrigoni”  Poggio Lungo Morellino Di Scansano, DOCG. 
  • หม้อแกงมะม่วงเสิร์ฟลูกตาลและครัมเบิลลูกตาล ถ้าพูดถึงขนมหม้อแกง ขนมอร่อยต้องหม้อแกงจากนาพันสาม อำเภอเมือง แต่เพื่อเพิ่มความซับซ้อนให้กับรสชาติ เชฟเส็งได้ดัดแปลง แต่งเติมรสชาติเปรี้ยวอมหวานของมะม่วงเข้าไป ราดด้วยลูกตาลอ่อนนุ่มๆ และโรยด้วยครัมเบิลลูกตาลเพิ่มรสสัมผัสความกรอบและหอมอย่างลงตัว
  • ไวน์ Arrigoni “Vin Santo” San Gimignano DOG. 

 

สำหรับ ชุดอาหารค่ำ 6 คอร์ส สำหรับ 2 ท่าน ราคา: 4,990 บาทสุทธิ รวมไวน์ 1 ขวด

A La Carte

1. ทอดมันปลาเพชรบุรีพร้อมน้ำจิ้มบ๊วย: ราคา 310 บาท ++ 

2. ยำหัวโหนดกุ้งลายเสือย่าง: ราคา 355 บาท ++ 

3. แกงคั่วหัวตาลหมูย่าง: ราคา 310 บาท ++ 

4. ต้มศรีนวล: ราคา 315 บาท ++

ส่วนใครที่มีลูกๆ 4 ขา นำ้หนักไม่เกิน 20 กิโลกรัม สามารถพาเด็กๆร่วมทริปเปิดประสบการณ์แห่งเมืองเพชรพร้อมกันไปได้เลย ทางโรงแรมมีอาหารที่อร่อย น้ำดื่มที่สะอาดเหมาะกับสุขภาพของน้องๆเตรียมไว้ให้ หรือ หากอยาก ออเดอร์แบบ A la carte  และใช้ บริการ Room Service ก็สามารถแจ้งพี่ๆพนักงานใจดีหน้าฟร้อนท์ได้เลย นอกจากนี้แล้วโรงแรมได้จัดเตรียมทะเลธรรมชาติสำหรับต้อนรับบ้านที่มีเด็กๆ 4 ขาที่มีความชื่นชอบการเล่นน้ำเป็นพิเศษเช่นกัน

 

ABOUT THE AUTHOR
Neena M.L.

Neena M.L.

ALL POSTS