53 ร้านอาหาร ติดอันดับ ‘บิบ กูร์มองด์’ ของ ‘มิชลิน ไกด์ ประเทศไทย’ ประจำปี 2566 เป็นครั้งแรก
‘มิชลิน ไกด์ ’ ประกาศ 189 ร้าน ‘บิบ กูร์มองด์’ ปี 2566 โดยมี“สตรีทฟู้ด” สัดส่วนสูง สะท้อนอัตลักษณ์ที่โดดเด่นของไทย
ก่อนการประกาศผลรางวัลดาวมิชลินและการวางจำหน่ายคู่มือ มิชลิน ไกด์ ประเทศไทย ฉบับประจำปี 2566 (The MICHELIN Guide Thailand 2023) ในวันที่ 24 พฤศจิกายน ศกนี้ มิชลินปลุกกระแสความสนใจของฟู้ดดี้ไทยโดยเผยรายชื่อร้านอาหารและสตรีทฟู้ดคุณภาพดีราคาย่อมเยาที่ผ่านการคัดเลือกให้ได้รับสัญลักษณ์ ‘บิบ กูร์มองด์’ (Bib Gourmand) ประจำปี 2566 รวมทั้งสิ้น 189 ร้าน โดยในจำนวนนี้ 53 ร้านได้รับการจัดอันดับครั้งแรก และมี 6 ร้านได้รับการเลื่อนระดับจากปีก่อน
ในจำนวนร้านอาหารที่ผ่านการคัดเลือกให้ได้รับสัญลักษณ์ ‘บิบ กูร์มองด์’ ครั้งนี้ 82 ร้านตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล, 13 ร้าน ในอยุธยา, 27 ร้าน ในเชียงใหม่, 23 ร้าน ในภูเก็ต, 11 ร้าน ในพังงา และ 33 ร้าน ใน 4 เมืองตัวแทนภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรือ “ภาคอีสาน” ซึ่งคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ขยายขอบเขตเข้าดำเนินการสำรวจ คัดเลือก และจัดอันดับร้านอาหารเป็นครั้งแรกเพื่อเผยแพร่ในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับปี 2566 ซึ่งเป็นฉบับที่ 6 ของไทย โดย 9 ร้านอยู่ใน นครราชสีมา, 11 ร้าน ใน ขอนแก่น, 6 ร้าน ใน อุบลราชธานี และ 7 ร้าน ใน อุดรธานี
[อ่านคู่มือกิน “ร้านมิชลินสตาร์” ฉบับบ้านๆ ]
ทั้งนี้ ‘มิชลิน ไกด์’ มอบสัญลักษณ์ ‘บิบ กูร์มองด์’ ซึ่งแสดงภาพ ‘บิเบนดัม’ หรือ ‘มิชลินแมน’ ทำท่าเลียริมฝีปาก ให้แก่ร้านอาหารและร้านอาหารริมทาง หรือ “สตรีทฟู้ด” ที่นำเสนออาหารคุณภาพดีซึ่งผ่านการจัดเตรียมอย่างพิถีพิถันในราคาที่ย่อมเยาคุ้มค่าไม่เกิน 1,000 บาท [ราคาสำหรับอาหาร 3 คอร์ส ได้แก่ อาหารเรียกน้ำย่อย อาหารจานหลัก และของหวาน ไม่รวมเครื่องดื่ม]
ในจำนวนร้านอาหารที่ผ่านการคัดเลือกให้ได้รับสัญลักษณ์ ‘บิบ กูร์มองด์’ ประจำปี 2566 เป็นร้านประเภทภัตตาคาร 105 ร้าน และร้านริมทางประเภท “สตรีทฟู้ด” 84 ร้าน จุดที่น่าสังเกตคือร้านประเภทสตรีทฟู้ดที่ได้รับสัญลักษณ์ ‘บิบ กูร์มองด์’ มีจำนวนเท่ากับร้านประเภทภัตตาคารในกรุงเทพฯ และปริมณฑล [ประเภทละ 41 ร้าน] นอกจากนี้ สัดส่วนระหว่างร้านอาหารประเภทภัตตาคารกับสตรีทฟู้ดยังแตกต่างกันเพียง 1 แห่ง ในอยุธยา [6 ต่อ 7 ร้าน], นครราชสีมา [5 ต่อ 4 ร้าน], ขอนแก่น [6 ต่อ 5 ร้าน] และเชียงใหม่ [14 ต่อ 13 ร้าน]
เกว็นดัล ปูลเล็นเนค (Gwendal Poullennec) ผู้อำนวยการฝ่ายจัดทำคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ทั่วโลก เปิดเผยว่า “สัดส่วนของร้านประเภทสตรีทฟู้ดที่ได้รับสัญลักษณ์ ‘บิบ กูร์มองด์’ สะท้อนให้เห็นถึงอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมอาหารของไทยที่ได้ชื่อว่าเป็น ‘ดินแดนสวรรค์ด้านสตรีทฟู้ด’ สำหรับนักชิมที่ใส่ใจในราคา เรียกได้ว่าในไทย...สตรีทฟู้ดเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิต โดยสามารถพบเห็นร้านอาหารประเภทนี้ได้แทบทุกหนแห่งทั่วประเทศ ทั้งยังนำเสนออาหารที่อร่อยและมีความหลายหลายอย่างเหลือเชื่อ ดังนั้น สตรีทฟู้ดจึงไม่เพียงมอบประสบการณ์การทานอาหารในรูปแบบเฉพาะตัวแบบไทยขนานแท้ แต่ยังเป็นช่องทางให้ได้สัมผัสความสนุกตื่นเต้นไปกับวัฒนธรรมด้านอาหารของไทยอีกด้วย”
ในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับล่าสุดที่จะเปิดตัวเร็วๆ นี้ มีร้านอาหาร 53 แห่งได้รับสัญลักษณ์ ‘บิบ กูร์มองด์’ ประจำปี 2566 เป็นครั้งแรก อาทิ
- กรุงเทพฯ และปริมณฑล: กินกับก้อย ร้านอาหารที่เสิร์ฟเมนูอาหารทะเลขึ้นชื่ออย่างกุ้งแม่น้ำเผาและสะตอผัดกะปิเนื้อปูก้อน, แปโภชนา ร้านอาหารที่เปิดบริการมากว่าครึ่งศตวรรษ เสิร์ฟอาหารตำรับไทย-จีน ที่อร่อยเด็ดทุกจาน อาทิ เมนูจากเนื้อปลากรายที่ขูดเอง, หมูจ๊อ (หมูสับห่อฟองเต้าหู้ทอด), ผัดขี้เมาปลากราย และปลาช่อนแดดเดียวทอด, สามล้อ ร้านอาหารซึ่งนำเสนออาหารไทยที่คุ้นเคย ทานง่าย แต่ยกระดับให้มีความพิเศษ ใส่ใจกับเทคนิคการปรุง จัดเสิร์ฟอย่างประณีตบรรจง ทั้งยังคัดสรรวัตถุดิบพิเศษมาจากหลายแหล่งทั่วไทย, อรุณวรรณ ร้านสตรีทฟู้ดที่เปิดบริการมาแล้วกว่า 60 ปี เมนูขึ้นชื่อคือตือฮวนเกี้ยมฉ่าย ซึ่งปรุงขึ้นตามตำรับที่ตกทอดต่อกันมาในครอบครัว โดยมีจุดเด่นคือผักกาดดองรสนุ่มนวลไม่เปรี้ยวจัด เครื่องในที่ไม่มีกลิ่นคาว และน้ำซุปกระดูกหมูหอมหวานซดคล่องคอ
- อยุธยา: กินลูกเดียว ร้านอาหารไทยที่มีเมนูเด็ดปรุงจากน้ำพริกแกงที่โขลกเองสด ๆ เมนูแนะนำ คือ ปลาตะเพียนไร้ก้างทอดกระเทียม และเขียวหวานปลากรายผัดแห้งซึ่งใช้ลูกชิ้นปลากรายทำเองเนื้อนุ่มเด้ง ปรุงรสมาได้พอดี หวานหอมกะทิและกลิ่นสมุนไพรสด, โอโภชนา ร้านอาหารที่นำเสนอเมนูอาหารไทยพื้นบ้าน ปรุงด้วยเตาถ่านจากครัวเปิด ใช้ปลาและกุ้งที่จับจากแม่น้ำหน้าร้าน เมนูเด่น ได้แก่ กุ้งแม่น้ำทอดกระเทียมพริกไทย และปลาเนื้ออ่อนทอดน้ำปลา, ก๋วยเตี๋ยวไก่ฉีกป้าปุ๊ ร้านสตรีทฟู้ดที่มีเมนูเด็ดตำรับเฉพาะตัว คือ ก๋วยเตี๋ยวเรือไก่ฉีก ทั้งต้มยำ น้ำใส และแบบแห้ง ที่เสิร์ฟมาพร้อม “ไข่อ่อน”
- นครราชสีมา: เป็นลาว ร้านอาหารที่เริ่มต้นจากการเป็นร้านริมทางเมื่อ 10 กว่าปีก่อน เสิร์ฟอาหารอีสานต้นตำรับและทำเครื่องปรุงต่าง ๆ เอง เช่น ปลาร้า ฯลฯ เมนูแนะนำ คือแกงลาว (เห็ดสามอย่าง) ที่มาพร้อมรสหวานธรรมชาติของเห็ดและบวบ ปรุงในน้ำซุปรสแซบสไตล์อีสานแท้, ลาบสมพิศ ร้านลาบในซอยเล็ก ๆ ที่เสิร์ฟอาหารอีสานรสกลมกล่อม โดดเด่นด้วยเครื่องเทศและสมุนไพรท้องถิ่น เมนูพิเศษ คือ หม่ำส้มเนื้อ ส้มหมู
- ขอนแก่น: มีกินฟาร์ม ร้านอาหารในฟาร์มออร์แกนิกที่ปลูกพืชผักผลไม้หลากชนิด ทั้งยังเลี้ยงเป็ดและไก่เอง ทีมครัวใช้เทคนิคการปรุงเรียบง่ายแต่ได้จานอร่อยที่เน้นรสชาติดั้งเดิมของวัตถุดิบ อาทิ ไข่เจียวจากไข่เป็ดสดใหม่ และปลานิลนึ่งเสิร์ฟพร้อมแจ่วพริกสดเผ็ดหอมและผักพื้นบ้าน, คุณแจง ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อเข้าวัง ร้านสตรีทฟู้ดต้นตำรับข้าวเกรียบปากหม้อและสาคูไส้หมูที่อยู่มานานกว่า 30 ปี ทั้งยังมีก๋วยเตี๋ยวปากหม้อให้เลือกอร่อยทั้งแบบต้มยำและแบบแห้ง
- อุบลราชธานี: แพอารยา ร้านอาหารบนแพในจุดที่แม่น้ำโขงและแม่น้ำมูลมาบรรจบกัน เสิร์ฟอาหารไทยและอาหารอีสานพื้นบ้านที่รังสรรค์ขึ้นด้วยปลาน้ำจืดสดๆ จากแม่น้ำทั้งสองสาย เมนูเด่น ได้แก่ ต้มยำปลาคัง และอู๋ไข่ปลาที่หอมกลิ่นสมุนไพรสด
- อุดรธานี: ครัวคุณนิด ร้านอาหารอีสานที่โปร่งโล่งโอ่โถง เน้นวัตถุดิบสดใหม่ โดยเมนูชูความโดดเด่นของอาหารอีสานตามฤดูกาล รวมทั้งเมนูอีสานคลาสสิก จานเด่น ได้แก่ ปลาส้มทอด และลาบปลาตองที่หอมกลิ่นใบตองย่าง, เป้ง ก๋วยเตี๋ยวเป็ด ก๋วยเตี๋ยวเป็ดตุ๋นเจ้าเก่าแก่ที่เปิดให้บริการมานาน เมนูยอดนิยม คือ ก๋วยเตี๋ยวเป็ดที่เนื้อเป็ดตุ๋นจนนุ่ม ฉ่ำน้ำปรุงรส และข้าวหน้าเป็ดที่มาพร้อมเลือดเป็ดนุ่มอร่อยไม่คาว
- เชียงใหม่: บุศริน ร้านอาหารที่คัดสรรเฉพาะเมนูอาหารเหนือยอดนิยมมานำเสนอ ปรุงตามตำรับครอบครัว เสิร์ฟพร้อมจานหลักประเภทเส้นและโรตี, มาเด สโลว์ฟิช ร้านอาหารที่นำเสนอเมนูอาหารทะเลสดใหม่ด้วยวัตถุดิบที่ส่งตรงจากกลุ่มชาวประมงรายย่อยในพื้นที่ภาคใต้โดยเฉพาะชุมพร ส่วนผักผลไม้ตามฤดูกาลนั้นเลือกสรรจากผลผลิตอินทรีย์ของเกษตรกรในพื้นที่ ขณะที่ซอสและเครื่องจิ้มต่าง ๆ ทำเองโดยปลอดวัตถุกันเสีย
- ภูเก็ต: กอจ๊าน ร้านขนาดเล็กที่ดูแลกิจการกันเองภายในครอบครัว เสิร์ฟอาหารปักษ์ใต้ต้นตำรับรสจัดจ้านถึงใจ ใช้วัตถุดิบสดใหม่ในท้องถิ่น โดยเฉพาะอาหารทะเล เมนูที่ไม่ควรพลาดคือ ห่อหมกเนื้อปูที่อร่อยถึงเครื่องด้วยน้ำพริกแกงตำเองและเนื้อปูสด
- พังงา: ครัวหลวงเทน ร้านอาหารที่เติบโตจากร้านขนาดเล็กริมทาง เสิร์ฟอาหารไทยสไตล์ภาคใต้ที่มีรสชาติจัดจ้าน ปรุงจากอาหารทะเลสดใหม่และวัตถุดิบตามฤดูกาล
- สำหรับร้านอาหารที่ได้รับการเลื่อนระดับจากปีก่อนมีจำนวนทั้งสิ้น 6 ร้าน ในจำนวนนี้เป็นร้านสตรีทฟู้ดถึง 5 ร้าน ได้แก่ กรุงเทพฯ: ยุ้งข้าวหอม (สาขาแอมพาร์ค จุฬา) ร้านอาหารที่นำเสนอเมนูเด็ดจากภาคใต้ อาทิ ซี่โครงหมูกอและ, เมนูจากน้ำพริกแกงตำเอง รวมทั้งขนมโคน้ำกะทิที่หอมกลิ่นมะพร้าวและงาคั่ว
- เชียงใหม่: ก๋วยจั๊บช้างม่อยตัดใหม่ ร้านสตรีทฟู้ดที่มีเมนูก๋วยจั๊บขึ้นชื่อ ทั้งยังนำเสนอเปาะเปี๊ยะสดแป้งบางโรยไข่ที่เสิร์ฟมาพร้อมน้ำจิ้มรสเด็ดเป็นอาหารทานเล่น, ข้าวซอยแม่สาย ร้านสตรีทฟู้ดที่มีเมนูเด่น คือ ข้าวซอยเนื้อที่นุ่มนวลและหอมกรุ่นกลิ่นเครื่องเทศ รวมทั้งขนมจีนน้ำเงี้ยว
- ภูเก็ต: ข้าวต้มถนนดีบุก ร้านสตรีทฟู้ดที่นำเสนอเมนูข้าวต้มพร้อมเครื่องเคราสุดอร่อยให้เลือกหลากหลาย โดยมีน้ำซุปสีเข้มหอมกรุ่นกลิ่นสมุนไพรจีนเป็นสูตรลับ ทั้งยังมีข้าวไก่เนื้อทองที่นุ่มชุ่มน้ำปรุงรส หอมกลิ่นเต้าเจี้ยว และข้าวซี่โครงหมูพันปีที่นุ่มอร่อย เป็นเมนูพิเศษให้เลือกอร่อยได้, โรตีเจ้าฟ้า ร้านสตรีทฟู้ดที่เสิร์ฟโรตีกรอบร้อน ๆ สำหรับทานคู่กับแกงเลิศรส รวมถึงแกงมัสมั่นที่เนื้อนุ่มฉ่ำรสกลมกล่อมลงตัว
- พังงา: กอบ โภชนา ร้านสตรีทฟู้ดซึ่งนำเสนออาหารไทยพื้นบ้านรสอร่อยที่ครองใจลูกค้ามายาวนาน เมนูห้ามพลาด คือ ฉู่ฉี่กะหรี่กุ้ง ที่ปรุงรสได้นุ่มนวลครบเครื่อง
“ในช่วงเวลานี้ที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เริ่มบรรเทาลง เราหวังว่าการประกาศรายชื่อร้านอาหารที่ได้รับสัญลักษณ์ ‘บิบ กูร์มองด์’ จะมีส่วนช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวเชิงอาหารของไทย โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรือภาคอีสาน ซึ่ง ‘มิชลิน ไกด์’ ได้เข้าดำเนินการจัดอันดับร้านอาหารเป็นครั้งแรกในปีนี้ โดยมุ่งเสริมสร้างความคึกคักทางเศรษฐกิจให้กับชุมชนท้องถิ่นและประเทศไทยโดยรวม ตลอดจนจุดประกายให้นักท่องเที่ยวและนักชิมเกิดแรงบันดาลใจที่จะออกเดินทางไปค้นพบและเพลิดเพลินกับอาหารคุณภาพดีในราคาที่เป็นมิตรตามเมืองใหญ่ต่างๆ ของไทย” มร.ปูลเล็นเนค กล่าว