ชม ชิม ชอป และเรียนรู้เรื่องป่าในนิทรรศการ “คิดถึง….สมเด็จย่า ครั้งที่ 25 และ 50 ปี มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ”
ชวนร่วมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของ “สมเด็จย่า” ที่ทรงมีต่อคนไทยในนิทรรศการ “คิดถึง….สมเด็จย่า ครั้งที่ 25 และ 50 ปี มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ” ตั้งแต่วันที่ 14-24 ตุลาคม 2565 ชั้น 1 แฟชั่นฮอลล์ สยามพารากอน
ชมนิทรรศการการพัฒนาการปลูกฝิ่นกลายเป็นปลูกกาแฟพืชทดแทน และพระราโชบาย “ปลูกป่า ปลูกคน “ ของสมเด็จย่า และในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงริเริ่มเมื่อ 50 ปีก่อนจนพื้นที่ดอยตุงทำ Carbon Offset ได้มากมายขนาดนี้
ภายในงานยังมีโซนอาบป่า เหมือนป่าเล็กๆ ที่เด็กสามารถร่วมกิจกรรมได้ โดยส่งตรงธรรมชาติจากดอยตุงมา
ผ่านการมองเห็น ได้ยิน ได้กลิ่น รับรส และสัมผัส ซึ่งในเร็วๆ นี้ทางดอยตุงจะเริ่มรับนักท่องเที่ยวเข้าร่วมกิจกรรมอาบป่าอีกด้วย
นอกจากนิทรรศการแล้ว ยังช้อป ชิม สินค้าดอยตุงที่เกิดขึ้นจากพระราชปณิธานที่จะสร้างโอกาสและทางเลือกในการดำรงชีวิตให้กับชุมชนที่ขาดโอกาส
เริ่มจากร้านต้นไม้ดอยตุง ที่ทักทายสายปลูกด้วยรองเท้านารีดอยตุง มีหลายไซซ์หลายสี เฟิร์นชนิดต่างๆ ดอกหน้าวัวสีสันที่สะกดทุกสายตา ซึ่งเกิดจากการขยายพันธุ์และส่งต่อให้กับชุมชนเพาะปลูก สร้างรายได้ ตามที่สมเด็จย่าได้ทรงวางแนวทางเรื่องการสร้างอาชีพและต่อยอดให้ชุมชนไว้
เอาใจแฟชั่นนิสต้าด้วยสินค้าเสื้อผ้าและกระเป๋าจากโครงการ ที่มีดีไซน์น่าใช้ และยังมีผ้าจากการ upcycling ขวดพลาสติกอีกด้วย โดยมีลวดลายของพื้นถิ่น นอกจากนี้ก็มีสินค้ากระเป๋าสะพาย ผ้าพันคอ และยังมีสินค้าเซรามิกทำมือ ที่เลอค่า มีเสน่ห์เฉพาะตัวไม่ว่าจะเป็นแก้วกาแฟหรือแจกัน ที่น่าซื้อใช้เอง หรือจะเป็นของขวัญของฝากก็ประทับใจผู้รับ
ดอยตุงยังมีสินค้าที่ปรับปรุงพัฒนาให้เป็นที่ชื่นชอบของคนรุ่นใหม่ เช่น แมคคาเดเมียรสทรัฟเฟิล และกาแฟชนิดต่างๆ ที่นักดื่มชื่นชอบ รวมทั้ง Special Blend ต้อยรับเทศกาลฮาโลวีนที่กำลังจะมาถึงด้วย
ยังมีร้านกาแฟให้บริการ มีกาแฟสูตรเฉพาะเช่น แมคคาดาเมีย ลาเต้ นอกจากนี้ยังมีครัวตำหนักมาจำหน่ายอาหาร ซึ่งล้วนแต่เป็นเมนูเด็ดของดอยตุง ทั้งข้าวซอย ขนมจีนน้ำเงี้ยว ข้าวผัดน้ำพริกดอยตุง สปาเก็ตตี้ไส้อั่ว เป็นต้น สามารถนั่งรับประทานในพื้นที่นิทรรศการ หรือใครอยากจะซื้อน้ำพริกกลับบ้านก็ได้ และยังมีให้เลือกมากมายทั้งน้ำพริกกากหมู น้ำพริกเห็ดหอม น้ำพริกหนุ่ม ไส้อั่ว กล้วยอบ แคบหมู และอีกมากมาย
เรียกได้ว่างานนี้เป็นการจำลองดอยตุงมาเลยทีเดียว เพื่อจะรำลึกถึง สมเด็จย่า และสื่อสารเรื่องความยั่งยืนกับภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ทางมูลนิธิได้สืบสานในงานนี้ หลังจบงานที่สยามพารากอนหากใครอยากสัมผัสงานและสินค้าของดอยตุงมากขึ้น สามารถตามไปเที่ยวงานที่งานสีสันเชียงราย ได้อีก หรือจะไปจอยทริปอาบป่าของทางดอยตุงก็ได้ มีทั้งทริปสั้นๆ และทริปลองสเตย์ ในขั้นต้นเน้นประชาสัมพันธฺในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยก่อน