สมาคมนักเรียนเก่าสวิสส์ ในพระอุปถัมภ์ ฯ ปักหมุดเมืองโลซานน์ จัดพิธีถวายราชสักการะพระบรมรูป ร.9
ในระหว่างพิธีถวายสักกาะระ ยังมีนิทรรศการภาพประกอบหนังสือเทคนิคสีน้ำโดยฝีมือศิลปินไทยจัดแสดงในสวิตเซอร์แลนด์
สมาคมนักเรียนเก่าสวิสส์ ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ จัดโครงการยิ่งใหญ่ฉลอง 72 ปีของการก่อตั้ง เชิญประติมากรรมพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ประดิษฐาน ณ ศาลาไทยเฉลิม พระเกียรติ เมืองโลซานน์ สวิตเซอร์แลนด์ โดยจะจัดงาน “Le Buste du Roil Bhumibol à Lausanne พระภูมิบาลโลซานน์รำลึก” และพิธีถวายราชสักการะในวันที่ 14 กันยายน 2565 นี้ พร้อมเชิญ “อาจารย์เกริกบุระ ยมนาค” จัดการแสดงนิทรรศการภาพประกอบหนังสือเทคนิคสีน้ำโดยฝีมือศิลปินไทยเพื่อน้อมรำลึกถึง พระจริยาวัตรอันงดงามเมื่อครั้งประทับที่สวิตเซอร์แลนด์
นางกอบลาภ โปษะกฤษณะ นายกสมาคมนักเรียนเก่าสวิสส์ ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เปิดเผยว่า “ในโอกาสที่สมาคมฯ ก่อตั้งและดำเนินกิจกรรมสาธารณกุศลมากว่า 72 ปี สมาคม ฯ ได้จัดโครงการเทิดพระเกียรติและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ โดยได้เชิญประติมากรรมพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ไปประดิษฐานเป็นครั้งแรกที่เมืองโลซานน์ สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเคยเป็นที่ประทับของราชสกุลมหิดลมานานกว่า 18 ปี สมาคม ฯ หวังว่าพระบรมรูปนี้ จะเป็นศูนย์รวมใจของคนไทยในต่างแดน ชวนคนไทยให้ใกล้ชิดกันมากขึ้น และได้ร่วมน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้” นางกอบลาภกล่าว
พระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เป็นประติมากรรมหล่อบรอนซ์แบบครึ่งองค์ ขนาดเท่าองค์จริง กว้าง 56 เซนติเมตร ลึก 27 เซนติเมตร สูง 74 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 40 กิโลกรัม เป็นผลงานของนายวัชระ ประยูรคำ ซึ่งเป็นศิลปินชั้นนำของไทยที่มีผลงานประติมากรรมมากมาย โดยประดิษฐานอยู่บนแท่นฐานหินอ่อนประดับโลหะ ที่ออกแบบโดยนายก่อเกียรติ ทองผุด นายช่างศิลปกรรมชำนาญการแห่งกรมศิลปากร ที่มีประสบการณ์และผลงานด้านงานสถาปัตยกรรมไทยที่โดดเด่น และผลิตโดยบริษัท ส. บุญมีฤทธิ์วิศวกรรม จำกัด
สมาคมฯ ได้เชิญพระบรมรูปฯ ไปประดิษฐาน ณ ศาลาไทยเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งเป็นอาคารทรงไทยกลางสวนสาธารณะเดอนองตู ใกล้พิพิธภัณฑ์โอลิมปิก ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองโลซานน์ ศาลาไทยเฉลิมพระเกียรติก่อสร้างขึ้นเมื่อพ.ศ. 2549 ในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี และเนื่องในโอกาสครบรอบ 75 ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ระหว่างไทยและสวิตเซอร์แลนด์
นายนพปฎล คุณวิบูลย์ อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเบิร์น และที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ของสมาคมฯ กล่าวเสริมว่า “โครงการนี้มีความหมายมาก เพราะนอกจากจะเป็นการฉลอง 72 ปีของสมาคมฯ แล้ว ยังเป็นห้วงเวลาเดียวกันกับที่ประเทศไทยและสมาพันธรัฐสวิสได้ฉลองครบ 90 ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันอีกด้วย ในงานนี้รัฐบาลแคว้นโว และเมืองโลซานน์ ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการจัดงานถวายราชสักการะอย่างสมพระเกียรติ และพระบรมรูปฯ องค์นี้จึงจะเป็นอนุสรณ์สัญลักษณ์ที่สำคัญในสวิตเซอร์แลนด์ซึ่งสะท้อนถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศต่อไป”
นายวัชระ ประยูรคำ ศิลปินผู้ปั้นพระบรมรูปฯ เล่าถึงที่มาว่าเมื่อได้รับการติดต่อจากสมาคมฯ ก็ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ทำงานถวายเพื่อเทิดพระเกียรติพระมหากษัตริย์ผู้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอย่างมหาศาล และได้เลือกที่จะปั้นพระบรมรูปฯ โดยอ้างอิงพระบรมฉายาลักษณ์เมื่อครั้งพระชนมายุประมาณ 18-20 พรรษาสมัยที่ประทับอยู่ในสวิตเซอร์แลนด์ซึ่งเป็นภาพที่ชาวสวิสคุ้นเคยดี และออกแบบให้พระบรมรูปนี้ก้มพระพักตร์ลงเล็กน้อย เสมือนว่าขณะที่ยังทรงศึกษาอยู่นั้น ได้ทรงคำนึงถึงพระราชภาระอันหนักหน่วงที่รออยู่เบื้องหน้าในฐานะพระมหากษัตริย์ ตลอด 70 ปีที่ทรงครองราชย์นั้น พระองค์ก็ได้ทรงทำตามพระราชปณิธาน และทรงมีคุณูปการแก่คนไทยและคนทั่วโลกเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนและเศรษฐกิจพอเพียง
นายสุพจน์ โล่ห์คุณสมบัติ อุปนายกสมาคมฯ และผู้ประพันธ์หนังสือ “๙ ล้นเกล้าบรมสถานโลซานน์รำลึก” กล่าวว่า ประเทศสวิตเซอร์แลนด์มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ไทยมาก เพราะครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ไทยที่ทรงมีคุณูปการต่อคนไทยอย่างมากถึง 2 พระองค์ คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล และพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รวมถึงราชสกุลมหิดลนานถึง 18 ปี ในการจัดงานในครั้งนี้ สมาคมฯ จึงได้จัดทำหนังสือ “๙ ล้นเกล้าบรมสถานโลซานน์รำลึก” เพื่อเป็นที่ระลึก โดยมีภาพประกอบเทคนิคสีน้ำ บันทึกเรื่องราวเกี่ยวกับการจัดสร้างพระบรมรูปฯ รวมทั้งการน้อมรำลึกถึงพระจริยาวัตรอันงดงามของพระองค์เมื่อครั้งประทับในสวิตเซอร์แลนด์
ในงานดังกล่าว อาจารย์เกริกบุระ ยมนาค ศิลปินผู้เขียนภาพประกอบสีน้ำ ยังได้ร่วมเทิดพระเกียรติและน้อมรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และราชสกุลมหิดล ด้วยการจัดแสดงภาพวาดสถานที่ที่ราชสกุลมหิดลเคยประทับ และพระราชจริยาวัตรของทุกพระองค์ขณะประทับที่สวิตเซอร์แลนด์ เช่น ภาพแฟลตหมายเลข 16 ถนนทิสโซต์ ซึ่งเป็นแฟลตแห่งแรกที่ประทับอยู่ อาคาร และภาพเบื้องหลังขณะศิลปินกำลังปั้นพระบรมรูปฯ เป็นต้น
โครงการนี้ได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากพันธมิตรของสมาคมฯ ทั้งภาครัฐและเอกชนในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยมีผู้สนับสนุนหลักได้แก่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าภาพร่วมในการจัดงาน บมจ. ปตท. บมจ. จีเอฟพีที บมจ. ปูนซีเมนต์นครหลวง เซ็นทรัลกรุ๊ป และ บริษัท โตโยต้าเชียงราย จำกัด