Q&A คำถามที่พบบ่อย มหากาพย์คดีจอห์นนี เดปป์-แอมเบอร์ เฮิร์ด ก่อนลูกขุนตัดสิน
DISCLAIMER: ออกตัวกันครั้งที่สองก่อนว่าคำถามนี่มาจากเพื่อนของผู้เขียนซึ่งติดตามห่าง ๆ บ้างและไม่ได้ติดตามเลยถามมาหลังไมค์ เอามารวมกันตรงนี้ทีเดียว ใครไม่สงสัยข้อไหนจะได้อ่านข้ามไปได้ ขอเตือนว่าคำตอบอาจมี hearsay และกอสซิบด้วย
ใครจะชนะคดีระหว่างป๋าเดปป์ กับแอมเบอร์ (ต่อจากนี้ขอเรียกเธอว่า แอ๋ม)
ตอบอย่างกวน ๆ ว่าไม่สามารถรู้ได้เลย เราคงต้องรอลูกขุนเท่านั้น แต่ส่วนตัวผู้เขียนรู้สึกว่าแม้ลูกขุนจะไม่ตัดสินใจเขาชนะ ป๋าดูเหมือนได้รับชัยชนะแล้วใน Court of Public Opinion หรือศาลเสียงประชาชนนั่นเอง อันนี้ผู้เขียนมิได้มโนแต่อย่างใด เพราะเข้าไปดูโพลล์ไหนก็เจอแบบนี้ เช่นเมื่อต้นเดือนในตอนที่คดีเพิ่งไปครึ่งทาง นักกฎหมายที่เป็นยูทูปเบอร์ (LawTubers) ก็ออกมาทำโพลล์ขณะไลฟ์เรื่องคดีนี้ และผลปรากฏว่าคะแนนเทไปที่ป๋าอย่างถล่มทลายมากกว่า 97%
นี่ยังไม่นับเสียงเชียร์กระหึ่มของแฟนๆ เสียงตะโกนรอบศาลให้กำลังใจทุก ๆ วันที่ป๋ามาและออกจากศาล และเสียง BOO โห่แอ๋มแบบเอาเป็นเอาตาย แถมบางคนยกนิ้ว (คงไม่ต้องบอกว่านิ้วไหน) ให้เมื่อรถเธอออกไป
นี่ยังไม่นับการที่แฟนๆ มายืนรอหน้าศาลฝ่าสายฝนในวันสุดท้าย มีคนจูงอัลปากามาให้กำลังใจป๋าและทีมทนาย หรือการที่มีคนแต่งคอสตูมนางเงือกนั่งรอที่เก้าอี้ หรือแต่งตัวเป็นกัปตันแจ็ค สแปร์โรว์อยู่นอกศาล เมื่อมองดูโดยรวมแล้วแอ๋มน่าจะเดินสวยแต่หาที่ยืนยาก หลังคดีนี้ ผู้เขียนเองยอมรับว่าแอบสงสารและคิดว่าหลังจากคดีแอ๋มน่าจะอยู่ยากนะ (ยกเว้นถ้าชนะคดีก็อาจจะอยู่ยากแต่ไม่มาก)
ถ้าป๋าชนะ แอ๋มจะเป็นไง
ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย Mark Breyer บอกว่าแอ๋มอาจต้องล้มละลายหากป๋าเดปป์อดีตสามีของเธอชนะคดีหมิ่นประมาท ทนายมาร์กบอกว่าคุณจะไปรีดเลือดจากปูมันไม่ได้หรอก
แต่ไม่ว่าใครแพ้หรือชนะ นักกฎหมายบอกว่าลูกขุนอาจจะยังไม่ตัดสินเรื่องมูลค่าก็ได้ แค่บอกว่าใครชนะ อันนี้เป็นอีกความเป็นไปได้ ไม่ว่าใครจะแพ้ ยังมีช่องให้อุทธรณ์คำตัดสินได้ถ้าจะสู้อีกสักยก
ลูกขุนเป็นกลางทุกคนไหม และตัดสินกันอย่างไร
ลูกขุนก็เป็นคนเหมือนเรา และแน่นอนว่าคนที่นั่งอยู่ในคณะลูกขุนต้องได้ดูหนังที่ป๋าเล่นบ้างแหละ ถามว่าเป็นกลางไหม น่าจะตอบได้เลยว่าไม่มีใครเป็นกลางหรอก แต่การทำหน้าที่นั้นจะเป็นกลางได้โดยพิจารณาตามวัตถุประสงค์และดูตามพยานหลักฐาน
ความจริงคณะลูกขุนมีทั้งหมด 11 คนและตามกฎหมายของ Fairfax County ใช้ลูกขุน 7 คน ซึ่งก่อนหน้านี้มีออกไปแล้ว 2 คน เนื่องจากปัญหาสุขภาพ เหลือ 9 คนและมาคัดออกโค้งสุดท้ายให้เหลือ 7 ซึ่งเป็นการปฏิบัติทั่วไปไม่ได้พิเศษสำหรับคดีนี้ เพราะต้องมีสำรองไว้และไม่มีใครจะรู้ว่าใครจะเป็นตัวสำรอง ซึ่งดีตรงที่ทุกคนก็ต้องตั้งอกตั้งใจฟังให้ดี ใครที่เคยดูซีรีส์ประมาณนี้คงจะพอนึกภาพออก ผู้เขียนยังจำได้จากเรื่อง The Good Wife ซึ่งทนายเขาก็จะคอยดูเหมือนกันว่าลูกขุนเป็นพวกไหนอย่างไร ซึ่งบางทีก็มีผลในคดีด้วย หรือลองนึกถึงเรื่องจริงในคดีดัง ๆ ก็ได้ อย่างไรก็ตามเขามีการคุยการเลือกเพื่อให้ได้คนที่ไม่ลำเอียง
ความสนุกเรื่องลูกขุนก็คือความมหากาพย์นี้ทำให้มียูทูปเบอร์ทำคอนเทนท์ด้านนี้กัน เพราะแม้จะมีการถ่ายทอดสดในศาล เราจะไม่เคยเห็นส่วนที่คณะลูกขุนนั่ง (ทางซ้ายของผู้พิพากษาด้านที่แอ๋มหันไปคุยด้วยตลอดเวลานั่นเอง) เหล่ายูทูปเบอร์กลุ่มนักกฎหมายและกลุ่มวิเคราะห์พฤติกรรม (Behavioral Analysis) ก็จะพยายามไปอยู่ในแกลลอรีในศาลเพื่อจะดูการแสดงออก (ที่ไม่ค่อยจะมี) ของบรรดาลูกขุน และความท้าทายในคดีนี้คือลูกขุนหลายคนใส่หน้ากาก และมีบางคนนั่งนิ่งเป็นหินไม่มีปฏิกิริยาอะไรให้อ่านเลย ทั้งนี้หลายช่องรวมถึงทวิตเตอร์พูดตรงกันว่าน่าเสียดายที่มีลูกขุนสองหมายเลขที่ไม่ได้เป็น 7 คนสุดท้าย ออกไป ซึ่งสองคนนั้นดูจะเป็นแฟนป๋าอย่างชัดเจน
พวกยูทูปเบอร์กลุ่มนี้ยังมีรายงานตรงกันว่ายามที่แอ๋มกล่าวแบบถึงพริกถึงขิงและหันไปทางคณะลูกขุนนั้น ท้งหมดไม่มีใครมองและสบตาไปที่เธอเลย
ทำไมต้องปิดบังตัวตนลูกขุนด้วย
เพื่อเป็นการรักษาความปลอดภัยของตัวลูกขุนเอง โดยเฉพาะเมื่อการตัดสินเกี่ยวข้องกับดาราดังขนาดนี้ อย่างไรก็ตามหลังการตัดสินหากลูกขุนคนใดอยากให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับคดีก็ย่อมเป็นไปได้ จากนักกฎหมายยูทูปเบอร์ ช่อง Lawyer You Know
ทนายทั้งสองทีมมาจากไหน คดีมหากาพย์นี้ ค่าทนายเท่าไหร่
เรื่องนี้น่าสน มิสอีเลนทนายของแอ๋มก็มีการพูดว่าเธอยังไม่สามารถบริจาคเงินตามสัญญาได้เพราะต้องใช้เงินในการต่อสู่คดีกับป๋า ทาง Newsweek มีการให้ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายจาก Arora Law Trial Attorneys ประเมินว่าเท่าไหร่กัน ซึ่งการคำนวณการค่าธรรมเนียมต้องคิดจากจุดเริ่มต้นเมื่อสามปีที่แล้วทีเดียว
Depp เป็นตัวแทนจากสำนักงานกฎหมายระหว่างประเทศ Brown Rudnick ทีมทนายความของเขาประกอบด้วย Vasquez, Ben Chew, Stephanie Calnan, Andrew Crawford, Rebecca MacDowell Lecaroz, Yarelyn Mena, Jessica Meyers และ Samuel Moniz
สำหรับทีมป๋าน่าจะจ่ายโดยเฉลี่ย 600 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง ตัวเลขกลม ๆ ประมาณ 19,800 บาทต่อชั่วโมงสำหรับทนายความแต่ละคน ป๋าเดปป์มีทนายความเจ็ดคน ไม่นับเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ ค่าศาล ค่าเดินทาง ฯลฯ คิดตลอดการพิจารณาคดีหกสัปดาห์ ก็จะตกออกมาเป็นตัวเลขกลม ๆ อย่างน้อย 5.5 ล้านดอลลาร์ให้ทีมกฎหมาย
สำหรับทีมของแอ๋มน่าจะน้อยกว่ามากเนื่องจากทีมกฎหมายที่เล็กกว่าอย่างที่เราเห็นกัน ทนายสามคนของแอ๋ม มาจาก Woods Rogers บริษัทกฎหมายในเวอร์จิเนีย ทีมงานประกอบด้วย อีเลน (Elaine Bredehoft), เบน ร็อตเตอร์บอร์น (Ben Rottenborn) และ โจซัว (Joshua Treece) ผู้เชี่ยวชาญประเมินว่าค่าธรรมเนียม 3 ล้านดอลลาร์บวกกับผู้เชี่ยวชาญ 200,000 ดอลลาร์
นอกจากนี้พยานที่เป็นผู้เชี่ยวชาญแต่ละคนในศาลก็มีค่าตัวไม่เบาทีเดียว ผู้เชี่ยวชาญมีตั้งแต่การแพทย์ ธุรกิจ และจิตวิทยา ค่าธรรมเนียมของพวกเขาเริ่มต้นตั้งแต่ 1,000 ถึง 5,000 ดอลลาร์ขึ้นไปต่อวัน ซึ่งการจ่ายเงินให้ผู้เชี่ยวชาญก็เป็นเรื่องปกติ ดังที่เราได้เห็นอีเลนถาม ดร เคอร์รีคนสวยเรื่องค่าตัวของเธอและเธอก็ตอบว่าใช่ ไม่โต้แย้งปกปิดแต่อย่างใด
ทำไมคดีนี้จึงมีการไต่สวนที Fairfax Countyในรัฐเวอร์จิเนีย
อันที่จริงแล้วทนายแอ๋มต้องการให้มีการไต่สวนคดีนี้ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นรัฐที่ทั้งป๋าเดปป์และแอ๋มอาศัยอยู่ แต่อย่างไรก็ตาม ผู้พิพากษาบอกว่าป๋ามีสิทธิ์นำคดีนี้ขึ้นศาลในรัฐเวอร์จิเนียได้เนื่องจากระบบคอมพิวเตอร์ของหนังสือพิมพ์เดอะ วอชิงตัน โพสต์ ฉบับออนไลน์ ตั้งอยู่ในเขตปกครองแฟร์แฟกซ์นั่นเอง
นอกจากนี้ทนายของเดปป์ยังระบุว่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะกฎหมายของรัฐเวอร์จิเนียเอื้อประโยชน์ในทางคดีต่อเดปป์มากกว่า
ทนายแอ๋มคิดว่าตัวเองจะชนะคดีหรือจึงมารับว่าความนี้
คำถามนี้คือเพื่อนรุ่นน้องของผู้เขียนถาม และเป็นคำถามดีที่มีการถามในยูทิวบ์ช่องกฎหมายด้วย นักกฏหมายตอบว่าปกติทนายจะรับคดีถ้าเห็นว่ามีช่องทางที่ชนะ และทนายอาจจะปฏิเสธไม่รับคดีก็ได้ ในกรณีของแอ๋ม มีคนตั้งข้อกังขาเกี่ยวกับภาษากายของ #ทีมแอมเบอร์ ว่ามันไม่อบอุ่นเลย และดูเหมือนว่าทนายฝั่งแอ๋มจะไม่ค่อยอินเมื่อเทียบกับฝั่งทางป๋าที่มีการแสดงออกแบบให้กำลังใจกันเป็นระยะ ๆ ซึ่งอันนี้หลายคนมองตรงกัน แถมนักวิเคราะห์ภาษากายยังมองว่าการแสดงออกของคามิลล์ และเบน ชิว เป็นการให้กำลังใจ เห็นใจคนที่ตกเป็นเหยื่อความรุนแรงจริง ๆ
นอกจากนี้ยังมีช็อตเด็ดที่แอ๋มเดินออกจากศาลหลังจบการซักถามโดยไม่รอให้ศาลบอกยกเลิก ที่ทำเอาทุกคนทางยูทิวบ์และโซเชียลมีเดียอื่น ๆ มองตรงกันว่า แอ๋มพอใจการทำงานของอีเลน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทนายทีมแอ๋มได้รับคำชมเชยมากในโค้งสุดท้ายในการกล่าวปิด ที่ทำได้ดีชนิดที่ว่าคนที่เป็นทีมป๋ายังออกปากชม โดยเฉพาะ เบน ร็อกเตอร์บอร์นที่ตรึงลูกขุนอยู่หมัดตลอดการกล่าวจบ
มีข่าวลือว่า อีเลน ทนายของแอ๋ม ร้องไห้จริงไหม
แรก ๆ มีข่าวลือว่าอีเลนเป็นแฟนป๋าคนหนึ่งเหมือนกัน แต่ข่าวนี้ไม่มีการยืนยัน ส่วนมีการพูดหนาหูกันเรื่อย ๆ ว่าอีเลนแอบไปร้องไห้ในห้องน้ำนั้น แรก ๆ ก็เป็นข่าวลือแต่หลังจากนั้นมีนักข่าวพลเมือง ยูทูปเบอร์ที่อยู่หน้าห้องน้ำเห็นอีเลนเข้าไปร้องไห้และกลับออกมาด้วยจมูกแดงก่ำ คนที่ทำข่าวคนนี้จึงมาให้สัมภาษณ์ในช่องยูทิวบ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ นอกจากนี้ยังมีนักกฎหมายอีกคนที่เจออีเลนในห้องน้ำ เธอสงสารเลยทักอีเลนเพื่อแสดงความเห็นใจ อีเลนบอกว่าเธอไม่สามารถพูดคุยได้ หลายคนมองเห็นความอึดอัดอย่างชัดเจนของทนายหญิงฝั่งแอ๋ม และภาษาทางร่างกายในวันท้าย ๆ ที่แอ๋มเขียนโน้ตส่งให้ คุณอีเลนชำเลืองมองแล้วหันกลับเลย ผู้อ่านภาษาร่างกายบอกว่ามันแลดูว่าความสัมพันธ์ไม่ดีเลย นอกจากนี้ยังมีคำบอกเล่าข้าง ๆ ศาล แบบ hearsay ว่าแอ๋มต่อว่าอีเลน จนอีเลนบอกว่าจริง ๆ แล้วคุณสามารถว่าความให้ตัวเองได้นะ
ทำไมมีเทปเสียงของทั้งคู่เยอะมาก
คือทั้งคู่อัดไว้ เป็นกิจกรรมของทั้งคู่ ป๋าบอกว่าป๋าอัดไว้เป็นหลักฐานเพราะแอ๋มชอบโกหก พูดแล้วก็กลับคำหรือบางทีก็ไม่ยอมรับว่าตัวเองใช้ความรุนแรงเลยอัดไว้เปิดให้แอ๋มฟัง ส่วนทางแอ๋มอ้างว่าเค้าอัดไว้เพื่อที่จะเปิดให้ป๋าฟังประมาณเวลาดี ๆ กัน และไม่เมาจะได้มารีวิวว่าทำอะไรลงไปบ้าง (อ่านถึงตรงนี้แล้วรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองคนเป็นพิษมาก นับว่าโชคดีที่แยกกันเสียได้ #คหสต) นอกจากนี้ยังมีส่วนที่อัดเอาไว้เพื่อรับคำปรึกษาตอนที่ชีวิตรักเริ่มมีปัญหา
แต่ก็มีการอัดที่เป็นการแอบอัดของแอ๋มเช่นกัน เช่นเทปเสียงที่แอ๋มกลับมาหาป๋าที่ซานฟรานซิสโก ทั้งแต่ตัวเองไปขอ restraining order (คำสั่งห้าม) จากศาลเอง ที่แอ๋มมีสคริปต์มาแล้วพูดตามที่ตั้งใจมา แล้วหลอกล่อให้ป๋าพูดโน่นนี่ จนท้าย ๆ ของการอัดเขาจับได้ว่าเธอแอบอัดเสียง ดูเหมือนเธอคิดว่าเธอจะดูดี แต่คนที่ได้ยินเทปเสียงนี้เต็ม ๆ ต่างส่ายหน้าและบอกว่าแอ๋มโรคจิตไม่เบา