HAPPENING BKK
NLINE MAGAZINE
×
5 เหตุผลที่ “โคเวิร์คกิ้งสเปซ” คือที่ทำงานแห่งอนาคต
by Manta
22 เม.ย. 2561, 21:02
  3,708 views

            เพราะคนส่วนใหญ่ในวัยทำงานใช้เวลาทำงานในหนึ่งวันเท่าๆ กับเวลานอน สำหรับบางคน เวลาทั้งหมดที่ให้กับงานมากถึงครึ่งหนึ่งของชีวิตเลยด้วยซ้ำ สถานที่ทำงานจึงมีความสำคัญพอๆ กับห้องนอนหรือบ้านที่เราอยู่อาศัยเลยทีเดียว นอกจากความรู้ความสามารถเฉพาะบุคคลแล้ว วิธีการและสภาพแวดล้อมในการทำงานก็เป็นส่วนสำคัญที่ก่อให้เกิดงานที่มีคุณภาพ หลายปีที่ผ่านมามี “โคเวิร์คกิ้งสเปซ” สำหรับฟรีแลนซ์และธุรกิจสตาร์ทอัพเกิดขึ้นมากมายเพื่อมอบความคล่องตัวและลดค่าใช้จ่าย แต่พื้นที่สาธารณะของคนทำงานในรูปแบบนี้ไม่ได้ดีต่อการทำงานแบบอิสระหรือบริษัทขนาดเล็กจิ๋วเท่านั้น บริษัทยักษ์ใหญ่หลายรายยอมทุ่มทุนเปลี่ยนออฟฟิศแบบดั้งเดิมให้มีความเป็นโคเวิร์คกิ้งสเปซมากขึ้นเพิ่มศักยภาพของพนักงาน

            นี่คือห้าเหตุผลที่ทำไมโคเวิร์คกิ้งสเปซจะกลายเป็นรูปแบบของออฟฟิศในอนาคต

สร้างแรงบันดาลใจ

            คงไม่ดีแน่ถ้าคุณต้องอุดอู้ในบ้านตลอดเพื่อปั่นงานให้ลูกค้า การได้ออกนอกบ้านเพื่อทำงาน (แม้ว่าคุณจะไม่ได้ไปออฟฟิศก็เถอะ) ทำให้คุณตื่นตัว จัดเอกสาร ทำรายการสิ่งที่ต้องทำ วางแผนการเดินทาง และเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับงาน โคเวิร์คกิ่งสเปซบางแห่งยังไม่ได้มีแค่พื้นที่ทำงานเท่านั้น  แต่ยังมีแกเลอรี ส่วนแสดงงาน ห้องทำเวิร์คช้อป หรืออื่นๆ ที่สร้างแรงบันดาลใจหรือไอเดียใหม่ๆ ได้โดยไม่ต้องเดินทางออกไปไหนไกล พื้นที่ที่มีการของธุรกิจหลายรูปแบบอาจมอบไอเดียหรือเทคนิคการทำงานที่คุณไม่เคยนึกถึงมาก่อนจากการได้เห็นวิธีการของธุรกิจแบบอื่นก็ได้ สิ่งเหล่านี้คุณหาไม่ได้แน่ๆ จากการนั่งทำงานที่บ้าน หรือในคอกออฟฟิศ

มีอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกครบ

            ปฎิเสธไม่ได้ว่านอกจากไอเดียพันล้านแล้ว อุปกรณ์ต่างๆ ก็มีความสำคัญในการผลิตงานให้ได้ตามที่ออกแบบไว้ แทนที่จะต้องเจียดเงินลงทุนซื้ออุปกรณ์ราคาสูงเพื่อใช้งานเองที่บ้าน หรือเปลี่ยนบ้านให้เป็นห้องประชุมที่สะดวกสบาย การใช้บริการโคเวิร์คกิ้งสเปซทุ่นค่าใช้จ่ายส่วนนี้ได้มาก ทั้งยังไม่ต้องเสียเวลาและเงินทองดูแลรักษาหรือซ่อมแซมเอง นอกจากนี้ โคเวิร์คกิ้งสเปซส่วนใหญ่ยังตั้งอยู่ในย่านที่เดินทางไปมาได้สะดวกสบายไม่ว่าจะรถส่วนตัวหรือการขนส่งสาธารณะ การพบปะทางธุรกิจ ระดมไอเดีย หรือตกลงกับลูกค้าจึงทำได้สะดวกกว่า ในบรรยากาศที่เพียบพร้อม

ทำงานและพักผ่อนได้ในเวลาเดียวกัน

            การทำงานที่บ้านไม่ได้ผ่อนคลายอย่างที่หลายคนคิด คุณต้องเข้าครัวทำกาแฟ อบขนมปัง หรือทำอาหารว่างตอนบ่าย แล้วก็ต้องล้างถ้วยชาม หรือไม่ก็ต้องทำความสะอาด ให้อาหารสัตว์เลี้ยง หรือทำงานบ้านเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างวัน ซึ่งไม่ช่วยสร้างบรรยกาศในการทำงานที่ดีเลย เพราะเหมือนกับว่าทำงานเหนื่อยแล้ว จะพักสมองยังมีงานบ้านมาเกี่ยวข้องในบรรยากาศเดิมๆ โคเวิร์คกิ้งสเปซมักจะมีมุมพักผ่อนที่เสิร์ฟชา กาแฟ ของว่าง หรือแม้แต่อาหารจานหลักที่อยู่ท้องให้คุณได้พักสมอง ชาร์ตแบทให้กับตัวเองอย่างแท้จริง

ได้พบปะผู้คนในแวดวงเดียวกัน

            การทำงานคนเดียวไม่จำเป็นต้องโดดเดี่ยวเสมอไป คุณอาจไม่มีเพื่อนร่วมงาน แต่ก็ยังมีเพื่อน “ร่วมที่ทำงาน” ได้ แน่นอนว่าถ้าคุณอยากใช้สมาธิคนเดียวสงบๆ โคเวิร์คกิ้งสเปซสามารถตอบโจทย์นี้ได้ แต่ถ้าคุณอยากมองหาคอนเน็คชั่น หรือเครือข่ายธุรกิจแบบเดียวกัน โคเวิร์คกิ้งสเปซก็เป็นเครือข่ายที่น่าสนใจ โดยเฉพาะโคเวิร์คกิ้งสเปซที่มีความพิเศษเฉพาะด้าน เช่นเป็นที่รวมตัวของนักสร้างสรรค์ นักเขียน ช่างฝีมือ หรือนักการตลาดในโลกดิจิตัลหรือโซเชียลมีเดีย คุณอาจจะได้พบกับเพื่อนร่วมงานหรือลูกค้าในอนาคต แม้แต่การได้พบกับคู่แข่งก็ถือว่าเป็นการดูเชิงเพื่อพัฒนายุทธศาสตร์ของคุณเองก็ได้

ทำให้คุณขยันขึ้น

            ชาวโคเวิร์คกิ้งสเปซแตกต่างจากพนักงานออฟฟิศทั่วไปที่มีข้อบังคับว่าต้องเข้างานตามเวลาทุกวัน ตรงที่พวกเขาจัดสรรเวลามาใช้พื้นที่นี้เพื่อกรำงานด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจให้งานเสร็จ เพื่อจะได้ลุยต่อกับโปรเจ็กต์หน้า หรือไปออกกำลังกายหรือสังสรรค์กับเพื่อน พูดง่ายๆ คือเข้ามาเพื่อขบให้แตกหรือเข็นให้เสร็จจริงๆ การได้อยู่ในบรรยากาศนี้จะมีผลต่อการทำงานของคุณอย่างไม่น่าเชื่อ นอกจากนี้โคเวิร์คกิ้งสเปซส่วนใหญ่เปิดบริการยาวนานกว่าชั่งโมงทำงานปกติ ทำให้คุณสามารถจัดการเวลาสำหรับจัดการเรื่องส่วนตัวและลุยงานจบโปรเจ็กต์ได้แม้จะเลยเวลาตอกบัตรออกงานมาแล้ว ไม่ต้องยกยอดไปทำวันถัดไป

STORY BY Manta

ABOUT THE AUTHOR
Manta

Manta

นักดื่ม นักจิบ ดื่มบ้างบ่นบ้าง

ALL POSTS