Tequila Time..มาดื่มตากิล่ากันเถอะ

 

หลังจากที่เขียนถึงตากิล่าในบทความก่อนปีใหม่ ถึงวันนี้ฉันยังรู้สึกค้างคาใจอยู่เลยว่าจะขอพูดถึงตากิล่าสักหน่อย เผื่อผู้อ่านอ่านจบแล้วจะมองตากิล่าด้วยสายตาอันอ่อนโยนขึ้น ตากิล่าถูกเข้าใจผิดมาตลอด เนื่องจากสำหรับหลายๆคนจะมองว่าตากิล่าเป็นเหล้าที่เอาไว้ตบเป็นช็อตเท่านั้น วัดความแกร่งของคนที่จำนวนช็อต สิ่งนี้ทำเอาฉันขยาดตากิล่าไปนาน ไม่นานมานี้ผู้ผลิตเริ่มมีความพยายามที่จะลบภาพเก่าๆออกไป มีการนำเสนอตากิล่าในหลายรูปแบบและพยายามให้ผู้คนหันมามองว่าจริงๆแล้วตากิล่าเป็นเครื่องดื่มที่เราสามารถจิบแบบละเมียดละไมได้ไม่แพ้วิสกี้หรือบรั่นดีเลยทีเดียว

     ตากิล่าเป็นเหล้ากลั่นจากประเทศเม็กซิโกที่ทำจากวัตถุดิบเฉพาะชนิดหนึ่งเรียกว่าอากาเว่ มีหน้าตาคล้ายๆว่านหางจรเข้ขนาดยักษ์ โดยตามกฎอากาเว่ที่นำมาผลิตตากีล่าจะต้องเป็นพันธุ์ Blue Agave เท่านั้น เพราะไฟเบอร์น้อย คาร์โบไฮเดรตเยอะ ซึ่งอากาเว่สีน้ำเงินที่จะมาผลิตตากิล่าจะปลูกมากที่เมืองตากิล่า (ตากิล่าเป็นชื่อเมืองด้วยนะ) ปัจจุบันมี 5 รัฐในเม็กซิโกที่อนุญาตให้ผลิตตากิล่าได้

 

 

     ต้นอากาเว่ที่จะนำมาใช้เค้าจะรอให้โตเต็มที่ก่อนซึ่งใช้เวลาประมาณหกปี ส่วนใหญ่แล้วผู้ผลิตเค้ามักจะรอ7-12 ปีเลยทีเดียว พอถึงเวลาเค้าก็จะตัดเอาใบแหลมๆยาวๆออกเอาแต่แกนตรงกลางที่เรียกว่า PiÑa มาใช้ โดยจะนำ PiÑa ไปอบให้สุกแล้วบดเอาน้ำมาหมักต่อ  โดยก่อนหมักเขาจะมีการผสมส่วนผสมตามสูตรของแต่ละผู้ผลิต เช่น หากเป็นตากิลาชนิด 100% Agave ก็จะใช้น้ำจากอากาเว่ 100% เลย แต่ถ้าจะทำตากิล่าแบบธรรมดา หรือที่บางทีเค้าเรียกว่า mixtos เขาจะเอาน้ำอากาเว่มาผสมกับน้ำเชื่อมอื่นเช่นกากน้ำตาลหรือไม่ก็ corn syrup แล้วนำไปหมัก...นี่คือสาเหตุที่ในเรื่องที่แล้วฉันจึงบอกว่าเวลาเลือกตากิล่าให้เลือกที่มีระบุว่า 100% Agave เท่านั้น เพราะเราจะได้รสชาติและความหอมของอากาเว่อย่างแท้จริง ไม่ใช่ตากิล่าที่มีแต่รสแอลกอฮอล์

 

     พอหมักกับยีสต์เสร็จแล้วก็ถึงขั้นตอนการกลั่น การกลั่นจะทำให้แอลกอฮอล์เข้มข้นขึ้นโดยน้ำไปต้มในหม้อต้มแล้วสกัดเอาแอลกฮอล์ออกมา กลั่นเสร็จก็ถึงขั้นตอนการบ่มในถังไม้โอ๊ค จะบ่มหรือไม่ขึ้นอยู่กับสไตล์ของตากิล่าที่จะผลิต  ซึ่งอันนี้มันจะมีการระบุบนฉลากให้เราทราบด้วย ได้แก่

 Blanco – หรือบางทีเขียนว่า Silver ก็คือตากิล่าที่ไม่ได้ผ่านการบ่ม หรือถ้าบ่มก็เวลาสั้นมากๆๆๆ Blanco ถือว่าเป็นตากิล่ารสชาติอากาเว่เพียวๆที่สุด เหมาะสำหรับนำไปผสมค็อกเทลหรือจะจิบเปล่าๆก็ได้

 

     Reposado – แปลว่า Aged อันนี้คือตากิล่าที่บ่มอย่างน้อย 2 เดือน จึงมีสีทองอ่อนๆ Reposado จะมีกลิ่นหอมของอากาเว่ผสมกับกลิ่นโอ๊คจางๆ เป็นระดับที่ฉันชอบที่สุด ทานเพียวๆผสมน้ำเล็กน้อย บาร์แพงๆหน่อยเขาอาจนำReposado มาผสมค็อกเทลก็ได้

 

     Añejo -  หรือ Extra Aged ตามกฎจะต้องบ่มอย่างน้อย1 ปี อันนี้สีก็จะเข้มขึ้นแล้วมีกลิ่นและรสชาติสลับซับซ้อน นุ่มนวล เหมาะสำหรับค่อยๆละเมียด มักมีกลิ่นหอมของคาราเมล ผลไม้แห้ง เครื่องเทศ และกลิ่นอากาเว่จางๆ

 

     Muy Añejo – หรือ Ultra Aged อันนี้บ่มในถังไม้โอ๊คอย่างน้อย 3 ปี แน่นอนราคาแพงที่สุดและผู้ผลิตเขามักจะเลือกตากิล่าที่คุณภาพดีที่สุดมาบ่มนานขนาดนี้ รสชาติหอมนุ่ม ขอสารภาพว่าไม่เคยลองแบบนี้ ใครลองแล้วบอกด้วยนะว่ารสชาติเป็นยังไง  แน่นอนการดื่ม Muy Añejo น่าจะเทียบเท่ากับการดื่มคอนญัคดีๆได้เลย

 

     Joven – บางทีบนฉลากเขียนว่า Gold แต่อย่าคิดว่าตากิล่าประเภทนี้ผ่านการบ่มมานะ ส่วนใหญ่แล้วTequila Gold คือ Silver ผสมกับReposado หรือ Añejo/ Muy Añejo นะ แต่ถ้าไปคว้าตากิล่าโกลด์แบบไม่ใช่ 100% Agave ละก็ คุณก็จะได้ Silver + สีคาราเมลนะจ๊ะ

 

     ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่ารสชาติอากาเว่มันเป็นอะไรที่บอบบางมากส่วนใหญ่แล้วผู้ผลิตเค้าจะไม่บ่มเกิน 5 ปีเพราะไม่งั้นกลิ่นโอ๊คจะไปกลบกลิ่นอากาเว่เสียหมด ตามกฏตากิล่าจะต้องมีระดับแอลกอฮอล์เมื่อบรรจุขวดอยู่ระหว่าง 35-55% ขึ้นอยู่กับผู้ผลิตและกฎหมายของประเทศที่จะส่งออก....ชอบแบบไหนไปลองกันดู แล้วจะรู้ว่าตากิล่าไม่ใช่ผู้ร้าย