ปลายฝนของคนชอบของสูง ทุ่งแสลงหลวง จุดหมายต้องไปเยือนในช่วงปลายฝนต้นหนาว
Ben Irwin นักประพันธ์ชาวอเมริกากล่าวว่า “พวกเราส่วนใหญ่ใช้ชีวิตเหมือนกับ มีอีกหนึ่งชีวิตเก็บไว้ในธนาคาร”
นั่นคือวูบความคิดที่ปรากฏขึ้นท่ามกลางเสียงของลมหายใจที่หอบแฮกเป็นลิงป่วย เพราะก่อนหน้าที่จะตัดสินใจเดินทางมา ก็มีคนถามว่า ไปเที่ยวสบายๆ ไม่ดีกว่าหรือไง ไปให้ลำบาก จะไปทำไม
ระยะทางกว่า 9 ก.ม. ช่างแสนสั้น แต่เราใช้เวลากันถึงห้าชั่วโมงในการดั้นด้นผ่านแนวป่า ไต่ระดับขึ้นมาจนเกือบจะสุดทาง ช่วงเวลาที่ผ่านมาไม่มีอะไรให้ตื่นตาตื่นใจนัก เพราะมันมีแค่ต้นไม้น้อยใหญ่ปกคลุมไปตลอดสองข้างทางที่ลัดเลาะไปเรื่อยๆ แทบมองไม่เห็นทีท่าเลยว่าจะเจอจุดหมายเมื่อไหร่
ความเร้าใจเล็กๆ เกิดขึ้นในช่วงท้ายกับการปีนป่ายไต่ระดับกันสองสามเนิน เล่นเอาแขนขาอ่อนล้า แต่ก็ปลุกพลังลูกบ้าออกมาให้ได้ฮากันบ้าง ไม่อยากจะนึกเลยว่าค่ำคืนนี้จะมีแรงดื่มด่ำราตรีได้ยาวนานแค่ไหน
พักหอบกันบนหน้าผาเล็กๆ มองเห็นวิวเบื้องล่างอันกว้างไกล ทำให้เข้าใจได้ว่า เรามาไกลแค่ไหนแล้ว นั่นหมายความว่า ความหวังใกล้เข้ามาทุกขณะ สูดลมหายใจฮึดสู้อีกครั้งดังเป็นตัวแทนทีมชาติ สาวเท้าก้าวไปอีกเพียงระยะ เราก็ออกจากถ้ำอันแสนไกลนี้เสียที
ที่ความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 700 ม. บริเวณใจกลางของ อช.ทุ่งแสลงหลวง ลานกว้างที่ปูพรมด้วยผืนหญ้าสลับกับป่าสนเขา ยืนต้นตระหง่านประกาศความยิ่งใหญ่ ดินแดนที่เปรียบเสมือนราชาผู้รักสงบ เพราะไม่ง่ายนักที่ใครจะเข้าถึง หรือนึกถึง “ทุ่งโนนสน”
ในช่วงปลายฝนต้นหนาว หรือช่วงเดือน ต.ค.-พ.ย. ของทุกปี เป็นช่วงที่ป่าไม้จะมีความอุดมสมบูรณ์มากที่สุด และเป็นช่วงที่เจ้าหญิงแห่งขุนเขาจะออกมาเริงระบำ ผลิดอกออกสีสันไปทั่วทั้งทุ่ง อาทิ ดุสิตา ม้าวิ่ง กระดุมเงิน กระดุมทอง สร้อยสุวรรณา ทิพย์เกสร เขนงนายพราน เหลืองพิศมร เอื้องนวลจันทร์ ฯลฯ เดินชมกันเพลินกันได้ตั้งแต่เช้ายันค่ำ
กิจกรรมบนทุ่งโนนสน นอกจากจะเดินดอกไม้ที่กระจายตัวอยู่ทั่วทุ่งแล้ว ยังมีน้ำตกสายเล็กๆ ให้แวะลงไปแช่ เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้วสำหรับคนที่ต้องการชำระคราบไคล เพราะจุดกางเต้นท์บริเวณลานหิน อยู่ไกลจากน้ำตกแห่งนี้ ส่วนน้ำตกสายเล็กๆ ที่ใกล้ที่สุดก็อยู่ไกลเกือบกิโล นึกภาพว่าต้องเดินไปอาบน้ำปากซอยแล้วเดินกลับมาก็แล้วกัน
ไม่ใช่แค่ไม่มีห้องอาบน้ำ แต่ที่นี่ไม่มีอะไรเลย รวมทั้งสุขา ไม่มีแม้เพิงพักอาศัยของเจ้าหน้าที่อุทยาน สำหรับน้ำดื่ม นอกเหนือจากที่แบกกันขึ้นมาแล้ว ยังมีบริการ “น้ำตกต้ม” รสชาติเป็นอย่างไร ยังหาคำอธิบายไม่ถูก ที่ปราณีกันหน่อย คือ บริการลูกหาบ ที่จะคอยขนย้ายสัมภาระขึ้นมาให้ท่าน สนนราคา 1,300-1,500 บาทต่อคน และยังมีเจ้าหน้าที่คอยนำทางให้ แน่นอนว่า ต้องผ่านการวางแผนล่วงหน้าเพื่อนัดแนะกับทางพี่ๆ เขาก่อน โดยสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลต่างๆ ได้ที่ อช.ทุ่งแสลงหลวง โทร. 0- 5526-8019
ใครที่เห็นบรรยากาศใสๆ ดอกไม้สวยๆแล้วบอกว่าอยากไป อ่านถึงตรงนี้แล้ว จะเปลี่ยนใจก็ไม่แปลก เพราะฝนอดีตมีลูกสาวของข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง เคยร้องไห้กับเส้นทางขึ้นเนินอันโหดร้ายสำหรับคนบอบบางมาแล้ว จนเป็นที่มาของชื่อ “เนินสาวน้อย” ที่เราใช้พลังเฮือกใหญ่ไต่กันขึ้นมา แต่สำหรับนักเดินป่าขาลุย กระแอมเบาๆ พร้อมทิ้งสายตานิ่งเฉย แล้วเอ่ยว่า มันยังเด็กๆ นัก สำหรับพวกเขา
จึงนับเป็นเส้นทาง “จิ๊บๆ” ของขาเก๋า แต่สำหรับมือใหม่อาจต้องร้อง “จ๊าก” ส่วนผู้เขียนเป็นพันธุ์ครึ่งๆกลางๆ นานๆ จะเดินป่ากับเขาสักที ก็แค่ร้อง “จึ๋ย” พอเป็นพิธีและยอมรับโดยดีว่าคุ้มค่า
ในความไม่มีอะไรเลย บอกถึงความเป็นไป เราอยู่ด้วยการดำรงชีวิตไว้ ภายใต้การถ้อยทีถ้อยอาศัยของคนและธรรมชาติ สองค่ำที่ผ่านบนลานเขา มีเรื่องราวเล่าต่อกันฟังได้อีกยาวนาน
ความเปลี่ยนแปลงทำให้คนหวั่นไหว แต่สำหรับธรรมชาติ มันคือสิ่งที่เป็นไปเป็นฤดูกาล สร้างความหลากหลายให้ผู้ติดตามได้เลือกชื่นชม
และครั้งนี้ก็เช่นกัน ก็แค่ไหวหวั่นตอนที่มันเหนื่อยจนอยากถอย สุดท้ายก็ได้ยินดีว่าชีวิตที่ยังเดินหน้าถูกนำออกมาใช้อย่างคุ้มค่าแล้วอีกวันหนึ่ง
ในความไม่มีอะไร กลับมากมายในความรู้สึก จึงยังคงเชื่อมั่นว่า “ไม่มีการเดินทางครั้งไหนที่เราจะกลับมามือเปล่า”
ภาพ : LANLOM, KONNOKKOK
