น้องๆ ผู้พิการ ร่วม-ลงมือ-ทำฝันของเขาให้เป็นจริง
ผู้ใหญ่มักจะถามเด็กๆ ว่า เมื่อโตขึ้นหนูอยากเป็นอะไร แต่หากเป็นเด็กที่มีความบกพร่องทางร่ายกายล่ะ คุณอาจทายไม่ถูกว่า พวกเขาฝันอยากเป็นหรือทำอะไรกันได้บ้าง
แทบไม่น่าเชื่อเลย เมื่อผลการสำรวจความคิดเห็นของเด็กพิการจากหลายๆ โรงเรียน ของมูลนิธิเวชดุสิต ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ปรากฎว่า สองอันดับแรกในกลุ่มอาชีพสร้างสรรค์ที่น้องๆ
ผู้พิการใฝ่ฝันอยากทำ คือ แฟชั่น และ ดนตรี
ดังนั้น มูลนิธิเวชดุสิตฯ จึงได้สานต่อโครงการ “
ความฝันไม่มีวันพิการ ปี 3” (Unlimited Dreams) ร่วม-ลงมือ-ทำ ด้วยการจับมือกับ 3 แบรนด์ดีไซเนอร์ดัง ได้แก่
Sretsis Patinya และ
Greyhound Original เพื่อเปิดโอกาส และสร้างแรงบันดาลใจให้น้องๆ ผู้พิการและด้อยโอกาสกล้าทำตวามความฝันโดยไร้ขีดจำกัด โดย Sretsis เปิดโอกาสให้เยาวชนที่ด้อยโอกาสและพิการได้เรียนรู้และสัมผัสการทำงานจริงด้านการออกแบบแฟชั่น ร่วมกับดีไซเนอร์และทีมงานที่เกี่ยวข้องในบรรยากาศการทำงานจริง
Patinya จะเป็นผู้ออกแบบชุดต้นแบบของ
Adaptive Clothing หรือเสื้อผ้าดัดแปลงสำหรับผู้มีข้อจำกัดทางร่ายกาย เพื่อที่จะนำไปผลิตจริง และแจกจ่ายให้กับผู้พิการและผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงวัย รวมถึงผู้ป่วยที่ขาดแคลน ในขณะที่ Greyhound Original ให้ความร่วมมือในการผลิตคอลเลคชั่นพิเศษที่น้องพิการร่วมในการออกแบบด้วย โดยรายได้จากการจำหน่ายหลังหักค่าใช้จ่ายในการผลิต จะมอบให้มูลนิธิเวชดุสิตฯ เพื่อใช้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมกาชีพที่ยั่งยืนให้กับผู้พิการทั่วประเทศต่อไป
หลังจาก 3 แบรนด์ดีไซเนอร์ได้ไปคลุกคลีและทำเวิร์คช้อปกับน้องๆ ที่โรงเรียนศรีสังวาลย์ โรงเรียนโสตศึกษาทุ่งมหาเมฆ และโรงเรียนประชาบดี ตลอดสามเดือนที่ผ่านมา มูลนิธิเวชดุสิตฯ ก็ได้จัดแฟชั่นโชว์ ณ ห้างสรรพสินค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ เปิดตัวทั้งคอลเลคชั่นต้นแบบ Adaptive Clothing และ คอลเลคชั่นพิเศษจากเกรฮาวด์ ออริจินัล
ปฎิญญา เกี่ยวข้อง ดีไซเนอร์แบรนด์ Patinya เล่าว่า การออกแบบเสื้อผ้าดัดแปลงสำหรับผู้มีข้อจำกัดทางร่ายกายถือเป็นความท้าทายและเป็นโจทย์ที่สำคัญมากสำหรับดีไซเนอร์ เพราะต้องคำนึงถึงรายละเอียดมากมาย ทั้งเนื้อผ้า การออกแบบ การตัดเย็บ และส่วนประกอบของเสื้อผ้า เพื่อให้ผู้พิการสามารถสวมใส่และถอดเสื้อผ้าได้เองในการดำเนินชีวิตประจำวัน เช่น แทนที่จะเป็นเสื้อติดกระดุม หรือซิป ก็จะเป็นการป้ายติดด้านข้าง หรือการตัดเย็บไร้ตะเข็บสำหรับผู้ป่วยติดเตียง เป็นต้น
เธอบอกว่า ไม่ใช่เพียงแค่การสวมใส่ง่ายและสะดวกสบาย แต่น้องๆ ผู้พิการก็สนใจเรื่องของแฟชั่น และอยากแต่งตัวสวยๆ ดูกระฉับกระเฉงทะมัดทะแมง ทำให้เธอต้องกลับมาทำการบ้านอย่างหนักในการออกแบบ Adaptive Clothing ซึ่งมูลนิธิเวชดุสิตฯ กำหนดจะผลิตจำนวน 5,000 ชิ้นในต้นปีหน้า เพื่อแจกจ่ายให้แก่ผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง และผู้ป่วยที่ขาดแคลนทุนทรัพย์
ทางด้าน วิชชุกร โชคดีทวีอนันต์ Creative Director แบรนด์ เกรฮาวด์ ออริจินัล เล่าวว่า น้องๆ ผู้พิการก็มีความฝันเช่นเดียวกับเด็กปกติทั่วไป เราอยากเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างแรงบันดาลใจให้น้องๆ ได้ทำตามฝัน โดยให้พวกเขามาลองเป็นดีไซเนอร์และถ่ายทอดจินตนาการของตัวเองลงบนผืนผ้า ไม่ว่าจะเป็นพระอาทิตย์ ลูกโป่งสีชมพู ดอกไม้ ต้นไม้ ดวงดาว และทะเล
สำหรับลิมิเต็ดคอลลคชั่น จากเกรย์ฮาวด์ เกรฮาวด์ ออริจินัล ที่น้องๆ จากโรงเรียนโสตศึกษาทุ่งมหาเมฆร่วมออกแบบ จะเป็นเสื้อเชิร์ตฮาวาย และเดรสที่สวมใส่แบบสบายๆ โดยผู้ที่สนใจอยากร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนและส่งเสริมน้องๆ ผู้พิการให้มีโอกาสได้ทำตามฝันบนเส้นทางอาชีพที่ชอบของแต่ละคน สามารถบริจาค หรือสั่งจองสินค้าล่วงหน้าได้ที่
Facebook: Vejdusit Foundation
รศ. อัจจิมา เศรษฐบุตร กรรมการและเลขานุการ มูลนิธิเวชดุสิตฯ เชื่อมั่นว่า เพียงแค่เพราะข้อจำกัดทางร่ายกายนั้นไม่สามารถทำให้คนๆ หนึ่งเลิกที่จะทำตามความฝันของตนเองได้ อยากให้ทุกคนตระหนักถึงความเท่าเทียมในสังคมของคนพิการ และก้าวข้ามข้อจำกัดทางร่างกายไปสู่เส้นทางอาชีพที่มั่นคงได้
