ชิล ชิม ดื่ม ชม ปล่อยใจไปกับสีสันและความสร้างสรรค์ไม่มีที่สิ้นสุดในราชเทวี
เมื่อพูดถึงราชเทวี สิ่งแรกที่หลายๆ คนคิดถึงคือทำเลกลางเมืองที่อยู่ติดกับแหล่งฮิปของวัยรุ่นหลายสมัยอย่างสยามสแควร์ โดยเฉพาะเดี๋ยวนี้ที่เรามักจะเดินทางไปสยามกันด้วยรถไฟฟ้า สถานีราชเทวีไม่ใช่จุดหมายของหลายๆ คนแต่เป็นจุดคว้ากระเป๋า ลุกจากที่นั่งและเริ่มขยับไปหน้าประตูเพื่อเตรียมตัวลงรถไฟ เรียกว่านั่งข้ามๆ มองผ่านๆ กันไปอย่างน่าน้อยใจที่สุด
แต่หารู้ไม่ว่าในขณะที่กรุงเทพฯ เติบโตอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว พื้นที่กลางเมืองมากมายถูกเปลี่ยนไปเป็นศูนย์การค้า คอนโด อาคารสำนักงานใหญ่โตหรูหรา ราชเทวีคือทำเลทองหนึ่งในไม่กี่แห่งของเมืองกรุงที่มีรถไฟฟ้าพาดผ่าน แต่ยังคงเสน่ห์และความเป็นตัวเองไว้ได้อย่างเหลือเชื่อ และในวันนี้ย่านเล็กๆ ฝังตัวอยู่กลางเมืองติดรถไฟฟ้ามีสิ่งที่ฮิปสเตอร์ต้องการสำหรับการใช้ชีวิตในแต่ละวันอย่างครบถ้วน ตั้งแต่โฮสเทลเก๋ๆ ร้านกาแฟชิคๆ หรือร้านอาหารที่ยังมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวหาที่ไหนไม่ได้ กำแพงสีถลอกเก่าๆ แถวตีนสะพานหัวช้างตอนนี้ศิลปินเขาเปลี่ยนให้เป็นภาพกราฟฟิตี้สีสันสะดุดตาไปแล้ว เก๋แค่ไหนลองนึกเอา
ของดีที่ราชเทวีมีอะไรบ้าง พร้อมไหม ไปกันเลย
Co-Working Space สตูดิโอและเวิร์คช้อป
Asia Building
นี่ไม่ใช่ตึกธรรมดา แต่มันมีทั้ง co-working space และแดนซ์สตูดิโออยู่ในตึกเดียวกัน ชั้นล่างคือ Ne8t ที่ซึ่งใช้เป็นห้องประชุมขนาดเล็กสำหรับ 4 – 8 คน หรือเป็นพื้นที่จัดอีเวนท์สำหรับ 80 – 100 คนได้อย่างสบายๆ ถัดขึ้นมาชั้นสองเป็น ที่พื้นที่ทำงานร่วมเหมาะสำหรับบุคคลไร้สำนักงานไปนั่งทำงานได้ตลอดทั้งวัน บนสุดชั้นสาม เป็น Groove Studio Bangkok ที่คนชอบเต้นไม่ควรพลาด
ริมถนนพญาไท ติดกับบันไดรถไฟฟ้าราชเทวี ฝั่งเดียวกับโรงแรมเอเชีย
น้องใหม่ย่านราชเทวี ที่ยิ่งทำให้ทำเลนี้ครบเครื่องมากยิ่งขึ้นหลังจากที่เยโลเปิดประตูพื้นที่แห่งการสร้างสรรค์งานศิลปะทุกแขนง เป็น creative platform ไม่ว่าจะเป็นงานวิจิตรศิลป์ไปจนถึงงานเขียนหรืองานดนตรี พื้นที่แห่งนี้เปิดประตูต้อนรับศิลปินทุกท่านไม่ว่าจะเป็นหน้าใหม่หรือฝีมือเก๋า นอกจากนี้ยังเป็นพื้นเวิร์คช็อปจุดประกายไอเดียใหม่ๆ สถานที่ทำงานร่วม หรือ co-working space สตูดิโอภาพถ่ายและที่นั่งจิบกาแฟชิลๆ หาแรงบันดาลใจด้วย
ซอยเกษมสันต์ 1 ถนนพญาไท สถานีรถไฟฟ้าสนามกีฬาแห่งชาติ (ทางออก 3)
แฟนๆ งานคราฟต์ต้องไม่พลาดห้องเรียนงานศิลปะทำมือที่ตั้งอยู่ข้างๆ สวนเฉลิมหล้าที่เต็มไปด้วยกำแพงกราฟฟิตี้ เหงามือเมื่อไหร่ก็แวะมาเลย เขามีเวิร์คช้อปกันทุกสุดสัปดาห์ และมีศิลปินเก่งๆ อย่าง Riety, Nalu และ Rivy’s Curly มานำคลาสอยู่เป็นประจำ
ติดสวนเฉลิมหล้า BTS พญาไท ทางออก 2
บ้านสไตล์เรโทรสุดคลาสสิคข้างสะพานหัวช้างคือสตูดิโอถ่ายภาพให้เช่ากลางใจเมือง มีอุปกรณ์ครบครัน พร้อมช่างภาพ ช่างแต่งหน้าทำผม สไตล์ลิสต์ นางแบบ นายแบบ บริการครบวงจรสำหรับถ่ายภาพแฟชั่น พรีเวดดิ้ง และยังมีพื้นที่สำหรับจัดงานอีเว้นท์ เวิร์คชอป ในบ้านสไตล์ไทยโบราณวินเทจ มีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร สามารถเลือกถ่ายได้ทั้งในบ้านและบริเวณด้านนอก ได้ทุกสิ่งสรรพตามใจท่านเลยทีเดียว
ข้างสะพานหัวช้าง
โทร (097)162 4650
ร้านกาแฟและเบเกอรี
ถ้าอยากหลีกเลี่ยงร้านกาแฟแฟรนไชส์ ขอแนะนำร้านกาแฟเล็กๆ ที่หุ้นส่วนเจ้าของร้านมาชงกาแฟเสิร์ฟเองทุกวัน แน่นอนว่ารสชาติจากเมล็ดกาแฟที่คัดสรรมาแล้วกับฝีมือการชงคนรักกาแฟย่อมทำให้รสชาติกาแฟไม่ธรรมดา ผนังสีขาวที่มีภาพลายลายเส้นสีฟ้าสะดุดตายังทำให้ร้านนี้ถูกจริตนักท่องเที่ยวและเด็กแนวเอามากๆ นอกจากนี้ยัง มีอาหารว่างเบาๆ เช่น แซนด์วิช บราวนีหรือแม้แต่อาหารจานหลักง่ายๆ ที่อิ่มได้จริงจัง
ซอยพญานาค ตรงข้ามโรงเรียนสัมมาชีวศิลป์
เปิดบริการทุกวัน 8.30 น. – 18.30 น.
ร้านกาแฟบรรยากาศชิล เหมาะสมอ่างยิ่งกับการหนีความวุ่นวานมานั่งพักผ่อน หรือแม้แต่มานั่งปั่นงาน เพราะด้วยขนาดร้านที่เล็กที่ทำให้ร้านรองรับลูกค้าได้ไม่เยอะไปโดยปริยาย ร้านนี้เป็นส่วนหนึ่งของโฮสเทล Monomer ลูกค้าเลยได้อานิสงส์อาหารเช้าอร่อยๆ อิ่มท้อง พร้อมรับมือกับงานได้ตลอดทั้งวัน
486/151 ถนนพญาไท เข้าได้สองทางจากถนนพญาไท และเพชรบุรีซอย 16
เปิดทุกวัน 7.30 น. – 21.30 น. (จันทร์-ศุกร์) และ 8.30 น. – 20.00 น. (เสาร์-อาทิตย์)
แวะพักเติมพลังระหว่างทาง หรือจะหลบมุมหาความสงบท่ามกลางความจอแจ A Journey ร้านกาแฟและเบเกอรี่เล็กๆ เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมอย่างยิ่ง จิบกาแฟแก้ง่วง หาขนมกินรองท้องหรือจะเอาแบบอิ่มจริงจังก็สามารถทำได้ อาหารที่น่าจะเป็นอาหารฝรั่งแบบจานเดียว ส่วนขนมจะเป็นสูตรเฉพาะของทางร้านที่ทำออกมานุ่ม เบา ไม่หนักลิ้น แถมยังมีพวกคัพเค้กน่ารักๆ ด้วย เข้ามีอีกสาขาด้วยนะที่ที่ปากซอยสุขุมวิท 67
ปากซอยเกษมสันต์ 1 ติดกับหอศิลป์กรุงเทพมหานคร
เปิดทุกวัน เวลา 07.00 น. – 18.00 น.
ถ้าคุณเป็นฮิปสเตอร์ตัวจริง คุณต้องไม่พลาดกาแฟร้านนี้ เพราะที่นี่ไม่ได้เสิร์ฟกาแฟจากเครื่องเหมือนร้านกาแฟเก๋ๆ ที่อื่น แต่เป็นกาแฟที่คัดเลือกเมล็ดจากทั่วทุกมุมโลกมาให้คุณดริปด้วยการรินน้ำร้อนด้วยมือจากกาผ่านกระดาษกรองช้าๆ ให้ความร้อนได้ดึงเอารสชาติจากผงกาแฟลงสู่แก้วกาแฟด้านล่างพร้อมเสิร์ฟให้ลูกค้าที่เฝ้าคอยอย่างใจเย็น น้ำบ๊วยที่ทางร้านผลิตเองจากบ๊วยปลอดสารจากภาคเหนือของเราเอง และเสิร์ฟในบางฤดูเท่านั้น
ชั้น 1 หอศิลป์กรุงเทพมหานคร
เวลา 10.00 น. – 21.00 น. ทุกวันยกเว้นวันจันทร์
ร้านอาหารและบาร์
ในซอยพญานาคแคบๆ นี้ยังมีร้านอาหารกึ่งผับ ที่เอาบ้านไม้เก่ามาปรับเป็นร้านอาหาร แถมบางมีคอนเสิร์ตเล่นสดเอาใจคอเพลงทุกค่ำ มีหมดตั้งแต่ร็อค โอลดี้ส์ ไปจนถึงวงอย่างเดอะบีจีส์ บีเทิลส์ ไปจนถึงอาร์แอนด์บีและฮิพฮอพ เหมาะแก่การนั่งชิลลอยชายเหมือนชื่อร้านที่สุด ตอนเช้ามีกาแฟหอมๆ ให้นั่งจิบเพลินๆ ด้วยตั้งแต่ 7.30 น. ภายใต้ชื่อ Slow’ist ร้านปิดเที่ยงคืนนะจ๊ะ อย่าเพลินจนเลยเวลา
ซอยพญานาค
เปิดบริการทุกวัน 17.30 น. – 24.00 น.
ด้วยมาตรฐานของ Casa Lapin คงไม่ต้องสาธยายมาก เอาเป็นว่าตอนนี้มีสาขาแล้วที่ราชเทวี เป็นหนึ่งในแปดสาขาทั่วกรุงเทพฯ เรื่องกาแฟไม่ต้องพูดถึงเพราะขั้นเทพติดอันดับ สามารถหาอะไรอร่อยๆ ฟินๆ รองท้องได้สารพัดไม่ว่าจะเป็นแพนเค้กมื้อเช้า หรือครัวซองต์นุ่มชุ่มเนย อร่อยมีมาตรฐานทุกสาขา
อยู่ในอาคาร Evergreen (จอดรถฟรีสองชั่วโมง)
เปิดบริการทุกวันเวลา 07.00 น. - 22.00 น.
ร้านอาหารไทยเพื่อนรัก
อิ่มท้อง สบายกระเป๋ากับเมนูอาหารไทยยอดนิยมรสชาติจัดจ้านคุณภาพคับถ้วย เอาใจคนรักการกินด้วยเมนูบ้านๆ อย่างกะเพรา แกงจืด ต้มยำ ไปจนถึงเมนูหากินยากอย่างน้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกตาแดง ปั้นสิบทอด นอกจากอาหารไทยยังมีเมนูตะวันตกประยุกต์อย่างสปาเกตตี้หมูบราวน์ซอส และอื่นๆ
363/1 ซอยพญานาค 200 เมตรจากสถานีรถไฟฟ้าราชเทวี
เปิดบริการทุกวันเวลา 11.00 น. – 21.30 น. โทร (02) 611 0402
Feat Lab
มองเผินๆ ร้านนี้เหมือนจะเป็นร้านกาแฟ แต่จริงๆ แล้วมันเป็นร้านอาหารและบาร์คราฟต์เบียร์ เพราะฉะนั้นร้านนี้จึงเปิดค่อนข้างสายและเสิร์ฟอาหารเที่ยงเป็นต้นไป นอกจากอาหารทั้งไทยและเทศแล้วยังมีคราฟต์เบียร์ทั้งแบบขวดและสดให้เลือกหลายสไตล์ พร้อมกับเมนูที่อธิบายไว้ละเอียดยิบ นั่งชิลๆ ยาวๆ ไปเลยตั้งแต่สายยันค่ำ
ข้างสะพานหัวช้าง
เปิดจันทร์-เสาร์ 12:00 น. -22:00 น. โทร 02-611-0070
ร้านดอยคำ ราชเทวี
ร้านดอยคำสาขานี้ไม่ได้มีแค่ซูเปอร์มาร์เก็ต แต่เป็นทั้งตลาด ร้านอาหาร และร้านกาแฟในคราวเดียว สาขานี้มีทั้งอาหารสำเร็จรูป ของใช้ และยังมีร้านอาหารที่เสิร์ฟทั้งอาหารเช้า กลางวัน และเย็น และยังมีกาแฟและอาหารว่างเสิร์ฟตลอดทั้งวัน
แต่ถ้าคุณอยากได้ผักผลไม้สด ของสดจะเข้าทุกวันอังคาร เพราะฉะนั้นถ้าคุณมาวันอื่นชั้นอาหารสดอาจจะมีของร้อยหรือไม่มีเลย
117/1 ถนนพญาไท (ตีนสะพานหัวช้าง)
เวลาทำการ 8.00 – 20.00 น. ทุกวัน
The Roof Gastro Siam@Siam
ดาดฟ้าโรงแรม Siam@Siam บนชั้น 25 อาจจะไม่สูงเสียดฟ้าแบบบาร์รูฟท้อปตามโรงแรมหลายๆ ที่ แต่มุมที่นี่มีเอกลักษณ์ และอยู่ในระดับที่สูงพอจะเห็นไปถึงภูเขาทองหรือสนามหลวงเลยทีเดียว บรรยากาศเป็นอะไรที่ง่ายๆ ชิลๆ สีสันสดใสแบบฮิปๆ สมกับเป็นดีไซน์โฮเทล ซึ่งคอนเซ็ปต์นี้ยังรวมไปถึงอาหารด้วย อาหารฟิวชั่นที่นี่เป็นแนวแกสโตร คือมาเป็นจานๆ กินง่าย สบายท้อง สั่งมาแชร์กันได้ นอกจากนี้ยังมีค็อกเทลสุดครีเอทีฟในราคาน่าคบหาให้จิบเพลินๆ ด้วย
โรงแรมอยู่ปากซอย ปากซอยเกษมสันต์ 2
เปิดทุกวัน 18.30 น. ถึงเที่ยงคืน
โทร (02) 217 3000
ร้านซูชิดังที่มีสาขาที่ทองหล่อและเพลินจิต ยังมีสาขาอยู่ที่ราชเทวีด้วย ร้านซูชิเล็กๆ บรรยากาศอบอุ่นเสิร์ฟปลาดิบคุณภาพดีชิ้นโตบนข้าวชิ้นพอดีคำ โรลสารพัดแบบหลากรสชาติ เหมาะทั้งพาหวานจู๋จี๋ หรือพาแกงค์มาเม้ามอย เตือนไว้หน่อยว่าร้านค่อนข้างเล็ก ช่วงไพรม์ไทม์อาจต้องรอคิวบ้าง ส่วนที่จอดรถมีเหลือเฟือ แต่มันใกล้รถไฟฟ้ามาเลยนะ นั่งรถสาธารณะมาเถอะ
Siam Swana Hotel ซอยพญานาค ใกล้กับโรงแรมเอเซีย
ลง BTS ราชเทวี เลี้ยวซ้ายเข้าซอยตรงไปประมาณ 200 เมตร ร้านอยู่ขวามือ
เปิดทุกวันเวลา 10.30 น. – 23.00 น.
ร้านข้าวแกงปักษ์ใต้
เที่ยงแล้ว อยากได้อะไรแรงๆ มาเติมท้อง เดินเข้าซอยพญานาคไปเลย เลยโรงแรมเอเชียไปนิดจะได้กลิ่นเครื่องแกงใต้หอมเตะจมูกชวนให้น้ำลายสอ เมนูเด็ดตลอดกาลคือแกงฟักไก่ ไก่ผัดขิง ข้าวยำ และอื่นๆ มากมายแล้วแต่วัตถุดิบและอารมณ์ของเชฟ (ฮ่าๆ) ร้านนี้คงเอกลักษณ์ของร้านอาหารใต้ คือ มีน้ำพริกกะปิและผักสดให้กินแกล้มฟรีตั้งแต่ช่วงสายเป็นต้นไปจนกว่าจะหมดราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 30 บาทขึ้นไปสำหรับข้าวราดแกงหนึ่งอย่าง ชาวใต้จะร้องหรอยแรง แต่ชาวกรุงอาจจะร้องจ๊ากได้เพราะความรุนแรงจัดจ้านระดับสิบ ร้านเล็กแต่ฮอตมาก ช่วงเที่ยงอาจต้องรอคิวหน่อย
ซอยพญานาค (ห่างจากโรงแรมเอเชียประมาณ 100 เมตร)
เปิดบริการทุกวันตั้งแต่หลัง 6 โมงเช้าไปจนถึงประมาณบ่ายสองหรือจนกว่าจะหมด
นายฮวด
ตัวจริงเสียงจริงเรื่องเตี๋ยวหมูในย่านนี้ต้องยกให้มิสเตอร์ฮวด ก๋วยเตี๋ยวหมูร้านนี้มีทั้งหมูหมักแผ่น ทุกเช้าระหว่างที่ต้มน้ำซุปสำหรับใช้แต่ละวัน เจ้าของร้านก็จะนั่งห่อเกี๊ยวไปพลาง ส่วนข้าวหมูทอดร้านนี้เป็นหมูทอดเป็นชิ้นแล้วหั่นโปะบนข้าวหอมมะลิร้อนๆ ทำให้หมูทอดไม่แห้ง เสิร์ฟพร้อมกับน้ำซุปสาหร่ายช่วยให้คล่องคอ ทีเด็ดอีกอย่างของร้านนี้คือน้ำจิ้มพริกตำข้าวหมูทอด มีความเปรี้ยวเผ็ดในตัว อร่อยจนต้องขอสอง
ซอยพญานาค ห่างจากถนนบรรทัดทองประมาณ 20 เมตร
เปิดบริการวันจันทร์ถึงเสาร์ประมาณ 10 โมงกว่าๆ จนถึงบ่ายสอง
ร้านก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำ เกี๊ยวกรอบ (ไม่มีชื่อร้าน)
ถ้าอยากซดร้อนๆ เครื่องยำหนักๆ ไปจัดเลยที่ ร้านก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำไร้ชื่อตรงข้าม 7-Eelven สาขาหัวมุมซอยเพชรบุรี 10 เปรี้ยว หวาน เผ็ด ลงตัวตามแบบฉบับก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำ เพิ่มเกี๊ยวกรอบทอดใหม่ๆ ไม่หืน เพิ่มความกรุบกรอบน่าเคี้ยว ร้านมีที่นั่งได้ครั้ง 30 เลยทีเดียวแต่ถ้าเที่ยงก็ต้องรอลุ้น เพราะของเขาชื่อเสียงระบือไกล อยากกินของอร่อยต้องอดทน
ซอยพญานาค ตรงข้ามร้าน 7-Eleven สาขาหัวมุมซอยเพชรบุรี 10
ขนมครกป้าเล็ก
ในบรรดาขนมไทยในเมืองกรุง ขนมครกแบบดั้งเดิมดูจะหากินยากที่สุด เพราะมันต้องทำสดๆ กินร้อนๆ แคะปุ๊บเข้าปากปั๊บ ขนมครกป้าเล็กไม่มีไส้แม้แต่หอมซอยตามแบบที่นิยม แต่รสชาติไม่ได้ขาดหาย เพราะป้าเล็กจะหยอดน้ำกะทิลงหลุม รออย่างใจเย็นให้รอบนอกของขนมครกเหลืองกรอบเป็นสีน้ำตาล แล้วจึงแคะออกมา ส่วนแป้งไม่หวานจนเกินไป ไม่แฉะ กินตอนอุ่นๆ เหมาะกินกาแฟดำตอนเช้าเป็นอย่างยิ่ง
รถเข็นในตลาด เดินเข้าซอยเพชรบุรี 12/6
ขายทุกวันตั้งแต่ประมาณ 6.30 น. ไปจนถึงเที่ยงหรือของจะหมด แต่ถ้าวันไหนฝนตกหนักก็ต้องลุ้นว่าป้าเล็กจะออกมาขายหรือเปล่า
ร้านไส้กรอก (อิสาน) เนื้อ
ไส้กรอกเนื้อทำเองจะค่อยๆ สุกด้วยการรมควันบนเตาถ่าน จนหนังจะกรอบ ส่วนไส้ที่เป็นข้าวจะมีรสชาติเปรี้ยวนิดๆ แบบไส้กรอกอีสาน แต่กลิ่นและรสชาติเนื้อเด่นมาก เรียกว่าเนื้อเน้นๆ เต็มปากเต็มคำ ราคาชิ้นละ 10 บาทขาดตัว ถ้าซื้อชิ้นเดียวต้องจิ้มเดินกินเหมือนสมัยเด็กเลิกโรงเรียน สองชิ้นขึ้นไปป้าถึงจะหั่นใส่ถุงแถมผักให้นะจ๊ะ
อยู่หัวมุมในซอยโรงเรียนกิ่งเพชร (ประมาณ 150 เมตรจากถนนบรรทัดทอง เลยโรงเรียนกิ่งเพชรมาประมาณ 30 เมตร)
ขายทุกวันยกเว้นวันอาทิตย์ ช่วงเวลาใกล้เลิกเรียนตั้งแต่ประมาณบ่ายสองจนถึงเย็นๆ
ต้นกล้าขนมไทย
ร้านขนมหวานเคลื่อนที่คันนี้เดินทางจากครัวแถวปิ่นเกล้าไปขายตามจุดต่างๆ ในกรุงเทพฯ และจะแวะมาแถวราชเทวีอาทิตย์ละครั้ง ตัวเลือกขนมไทยมีให้เลือกหลากหลายตั้งแต่ถั่วแปบไปจนถึงเปียกปูนและขนมใส่ไส้ แนวบ้านๆ เดิมๆ แต่หากินยาก ราคาเริ่มต้นที่ห่อละ 20 บาทเท่านั้น
ร้านเป็นรถตุ๊กตุ๊กจอดหน้าโรงเรียนสัมมาอาชีวศิลป์ ในซอยพญานาค
มาขายทุกเช้าวันอังคารเวลาประมาณ 7-10 โมง
แกลเลอรีและพิพิธภัณฑ์
พิพิธภัณฑ์บ้านไทย จิม ทอมป์สัน
เรือนไทยหลังงามใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่อดีตคือบ้านพักของ จิม ทอมป์สัน ตั้งแต่ย้ายมาอาศัยอยู่ที่นี่ตั้งแต่ พ.ศ. 2490 จนกระทั่งหายสาบสูญเมื่อ พ.ศ. 2510 ตั้งอยู่ริมคลองแสนแสบ ฝั่งตรงข้ามคลองกับชุมชนบ้านครัว ชุมชนมุสลิมซึ่งชุมชนทอผ้าแห่งหนึ่งที่ยังหลงเหลืออยู่ในพระนคร ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของมูลนิธิจิม ทอมป์สัน จัดแสดงศิลปวัตถุของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะพระพุทธรูปยุคสมัยต่างๆ ไว้เป็นจำนวนมาก ตัวอาคารเรือนไทยได้รับรางวัลอาคารอนุรักษ์ดีเด่น ประจำปี พ.ศ. 2539 จากสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ ส่วนแสดงงานยังมีนิทรรศการหมุนเวียนด้านศิลปะวัฒนธรรมให้เลือกชมได้ตามความสนใจตลอดทั้งปี
ซอยเกษมสันต์ 2 ถนนพระราม 1 (จากปากซอยประมาณ 300 เมตร)
เปิดทำการทุกวัน 9.00 น. – 18.00 น.
หอศิลป์ร่วมสมัยที่ศิลปินและผู้ที่สนับสนุนศิลปะต้องรวมตัวเรียกร้องกันยาวนานกว่าจะได้มาเปิดตัวเมื่อปี 2551 เป็นอาคารรูปทรงแปลกตาสูงเก้าชั้น เอียงทำมุมรับแสงธรรมชาติ แบ่งเป็นส่วนนิทรรศการ โรงฉายภาพยนตร์ ห้องเวิร์คช้อป ร้านค้าเกี่ยวกับศิลปะ คาเฟ่ ร้านอาหาร และห้องสมุดชั้นใต้ดินที่เปิดให้ใช้บริการฟรี
แยกปทุมวัน หัวมุมถนนพระราม 1 และถนนพญาไท ตรงข้ามมาบุญครอง
เปิดทำการทุกวัน 10.00 น. – 21.00 น. ยกเว้นวันจันทร์