เมืองมิถิลา มีพระราชาหัวโตเท่าไข่ ... มันใช่เหรอออ

ชื่อมิถิลานี้มีอยู่จริง เป็นเมืองขนาดเล็กๆ ตั้งอยู่ในเขตประเทศเนปาล ไม่ใช่อินเดีย แต่วัฒนธรรมระหว่างสองประเทศนี้เองก็แทบจะแยกกันไม่ออก เพราะแคว้นมิถิลาตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเนปาลที่มีอาณาเขตติดชิดกับดินแดนอินเดีย และพลเมืองสองประเทศนี้ก็ดูเหมือนจะใกล้ชิดเป็นเครือญาติกันอยู่ เดินทางไปมาหาสู่กันตลอดเวลา วัดแห่งนี้เป็นวัดฮินดูแท้ๆ แต่สร้างเป็นสถาปัตยกรรมแบบโมกุล

ที่นี่ไม่มีพระราชาหัวโตเท่าไข่และไม่มีใครรู้จักแก้วหน้าม้า ตามตำนานของเมืองนี้ ปกครองโดยกษัตริย์ผู้สร้างเมืองที่มีพระนามว่า จานัก ถ้าเราอ้างอิงไปถึงเรืองรามายณะ หรือรามเกียรติ์ นางสีดานั้นก็ถือกำเนิดที่เมืองจานักปูร์ (Janakpur) กษัตริย์จานักคือบิดาของนางสีดานั่นเอง จานักปูร์คือชื่อเมืองหลวงที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของแคว้นมิถิลา นอกจากแก้วหน้าม้า บางคนอาจคุ้นเคยกับชื่อเมืองมิถิลานี้เพราะไปปรากฏอยู่ใน "มโหสถชาดก มหาบัณฑิตแห่งมิถิลานคร" รวมทั้งในเรือง "พระมหาชนก" ด้วย วัดจานักเป็นสถานที่แสวงบุญของชาวอินเดียมาช้านาน

หากใครจะไปเที่ยวมิถิลา ต้องขึ้นสายการบินชื่อ Buddha Air หรือไม่ก็ Yeti Airlines จากกาฐมาณฑุ เมืองหลวงของประเทศเนปาล ไปยังเมืองจานักปูร์ โดยจะใช้เวลาบินเพียงแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้นเองสำหรับระยะทาง 370 กม หากนั่งรถบัสก็ราว 10 ชั่วโมง แต่หากเดินทางมาจากเมืองพัทน่า ประเทศอินเดีย จะใกล้กว่ามาก นั่งรถเพียง 5 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว วัดนี้ออกทุนสร้างโดยราชินีของเมือง Tikangart แห่งอินเดียเมือ ไม่ถึง 100 ปีมานี่เอง

ตัวเมืองจานักปูร์นี้ห่างจากพรมแดนอินเดียแค่เพียง 20 กมเท่านั้น เราจึงพบเห็นนักท่องเที่ยวชาวอินเดียเกลื่อนเมือง และไม่ใช่แค่มาท่องเที่ยวธรรมดา ที่นี่เต็มไปด้วยคู่รักชาวอินเดียเดินทางข้ามพรมแดนเพื่อมาเฉลิมฉลองการแต่งงานกันที่เมืองจานักเปอร์แห่งนี้ มีการนำขบวนพาเหรอดนตรีมาดีดสีตีเป่ากันอย่างครื้นเครง ศานยชนชาวฮินดูเล่นดนตรีและร้องบทสวดในวัด Janak Mandir

โรงแรมในเมืองนี้เองก็มีการจัดงานแต่งงานให้คู่บ่าวสาวเป็นว่าเล่น เพราะชาวฮินดูเชื่อกันตามเรื่องราวในมหากาพย์รามายณะ ว่าจานักปูร์นี้แหละเป็นเมืองที่พระรามและนางสีดาจัดงานอภิเษกสมรส ผู้แสวงบุญชาวฮินดูต่างเดินทางมาที่เมืองนี้กันในช่วงราวๆ เดือนเมษายน-พฤษภาคม ของทุกปีเพื่อร่วมฉลองวันเกิดให้แก่นางสีดาในเทศกาล Janaki Navami ส่วนช่วงปลายปีก็จะมีเทศกาล Vivah Panchami อันเป็นวันอภิเษกสมรสของพระรามและนางสีดา ภาพวาดบนหินที่วัดพระราม

ไม่ว่าใครที่มาเที่ยวเมืองจานักปูร์ ก็ต้องมาที่วัดจานัก (Janak Mandir) สถาปัตยกรรมในแบบโมกุลที่พบเห็นไม่ได้ง่ายนักในประเทศเนปาล เป็นสไตล์การออกแบบในช่วงที่มุสลิมเรืองอำนาจในอินเดีย แต่ในความเป็นจริงก็ไม่ได้เก่าขนาดนั้น วัดนี้ออกทุนสร้างโดยราชินีของเมือง Tikangart แห่งอินเดียเมือ ไม่ถึง 100 ปีมานี่เอง ผู้ที่บริจาคเงินสร้างก็คงเลือกได้ว่าอยากสร้างออกมาแนวๆ นี้บ้าง เพราะอันที่จริง วัดแห่งนี้เป็นวัดฮินดูแท้ๆ หากใครมาเห็นก็ต้องยอมรับว่าสวยงามแปลกตาเอามากๆ รายรอบวัดก็มีสวยที่เรียกกันว่า พลับพลาวิวาห์ (Vivah Mandap) ที่เชื่อกันไปว่าเป็นสถานที่จัดงานอภิเษกสมรสของพระรามและนางสีดา พลับพลาวิวาห์ ที่เชื่อกันไปว่าเป็นสถานที่จัดงานอภิเษกสมรสของพระรามและนางสีดา

ในเมืองจานักปูร์ไม่ใช่มีแค่วัดเดียว แต่ยังมีวัดราม (Rama Mandir) ที่มีผู้คนนับถือมากมาย ห่างออก 18 กม จากตัวเมืองไปก็มีวันธนูชา (Dhanusha Mandir) ที่เป็นวัดฮินดูเก่าอีกแห่งหนึ่ง ถ้านั่งรถออกไปเราก็จะเห็นบรรยากาศชนบทแท้ๆของที่นี่ มีตลาดแบกะดิน ที่แบจริงๆจนเหมือนทุกอย่างที่วางขายอยู่นั้นเปื้อนฝุ่นจนเกราะกรัง เราเดินไปเหมือนฝันมากกว่าเรื่องจริง รู้สึกเหมือนเข้ามาอยู่ในหนังอินเดียยังไงยังงั้น บทสวด ดนตรี คือพิธีกรรมที่มีความสุขของชาวฮินดู