เซ็นทารา กางพิมพ์เขียวความยั่งยืน พร้อมริเริ่มโรงแรมต้นแบบ สู่เป้าหมาย Net Zero
แนวโน้มความต้องการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนของนักเดินทางทั่วโลกที่เพิ่มขึ้น ทำให้โรงแรมและรีสอร์ทต้องปรับกลุทธ์การดำเนินธุรกิจที่มากกว่าการใส่ใจดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม แต่ครอบคลุมถึงมิติด้านสังคม และธรรมาภิบาล ซึ่งเป็นการสร้างคุณค่าใหม่ที่ไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป
โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา เป็นหนึ่งในโรงแรมชั้นนำของประเทศไทย ที่มีการพัฒนากลยุทธ์การดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืนมาอย่างต่อเนื่อง เริ่มจากการนำระบบบริหารจัดการตามมาตรฐาน EarthCheck มาใช้ตั้งแต่ปี 2009 เพื่อยกระดับการดำเนินงานด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม ตามด้วยการเข้าร่วมการรับรองมาตรฐาน Green Hotel โดยกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม มาจนถึงกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน บนหลักการของ ESG (Environment, Social and Governance) โดยปีนี้ โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทาราทั้งในประเทศและต่างประเทศ ผ่านการรับรองมาตรฐาน จากสภาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโลก หรือ GSTC (Global Sustainable Tourism Council) ครบทั้ง 42 แห่งตามเป้าหมาย
ธีระยุทธ จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา บอกว่า เซ็นทารา ได้จัดทำ C-E-N-T-A-R-A Sustainability Blueprint ซึ่งเป็นการผสานพันธกิจขององค์กรเข้ากับองค์ประกอบ ESG โดยดำเนินการผ่าน 7 ด้านด้วยกัน คือ
- C-Climate Resilience and Action - พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
- E-Elevated Stakeholder Engagement - ยกระดับการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
- Nuture of Nature & Local Cultures - ดูแลทรัพยากรธรรมชาติและวัฒนธรรมท้องถิ่น
- T-Trust, Transparency & Good Governance - สร้างความเชื่อมั่น ดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใส และมีธรรมาภิบาล
- A-Agile Organization Development - พัฒนาองค์กรให้มีความคล่องตัว พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์
- R-Risk & Crisis Management - เน้นการบริหารความเสี่ยงและภาวะวิกฤตอย่างมีประสิทธิภาพ
- A-Acceleration of Innovation & Sustainable Finance - ขับเคลื่อนนวัตกรรมใหม่ๆ และจัดหาเงินทุนสีเขียว (Green Finance)
ธีระยุทธ ยังบอกอีกว่า ปีหน้า เซ็นทาราจะริเริ่ม Sustainable Hotel โดยจะเลือกหนึ่งโรงแรมมาพัฒนาเพื่อให้เป็น showcase ของทั้งเครือ ซึ่งจะเป็นแนวทางในการดำเนินการต่อไปในอนาคต โดยจะมีทั้งการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และระบบการกักเก็บคาร์บอนจากพื้นที่สีเขียวของเราเอง
เส้นทางสู่ Net Zero
ตามแผนระยะยาว เซ็นทารา กำหนดเป้าหมายปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ (Net Zero GHG) ภายในปี 2050 (พ.ศ.2593) ส่วนเป้าหมายระยะสั้น จะลดก๊าซเรือนกระจกในสโคปที่ 1 และ 2 ให้ได้ 40% (เทียบจากปีฐาน 2019) ภายในปี 2029 (พ.ศ.2572) ซึ่งผลปรากฎว่า สามารถลดลงไปได้แล้ว 35.04% ( ณ ตุลาคม 2025) หรือ 31.53 กก.คาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อห้องที่มีการเข้าพัก ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมโรงแรมในไทยตาม Cornell Hotel Sustainability Benchmarking (CHSB) Index ถึง 51.94%
ส่วนสโคปที่ 3 เป็นการจัดการห่วงโซ่อุปทานอย่างยั่งยืน โดยเพิ่มอัตราการรีไซเคิล และเพิ่มสัดส่วนการจัดหาสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมหรือผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำให้มากขึ้น
ทัศน์ชัย พัฒนโกศัย ผู้ช่วยรองประธานฝ่ายบริหารความเสี่ยง กฎหมาย และความยั่งยืน และ ปานเนตร์ จันทร์นพรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายปฎิบัติการสำนักงาน สำนักงานใหญ่ เล่าถึงความคืบหน้าในการดำเนินโครงการต่างๆ ว่า เซ็นทารา ได้พัฒนานวัตกรรมใหม่ที่เรียกว่า In-room Energy Management System โดยติดตั้งและทดลองใช้งานที่โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ มิราจ รีสอร์ท พัทยา ซึ่งน่าจะเป็นแห่งแรกของวงการโรงแรมในไทยที่นำระบบนี้มาใช้ในห้องพัก โดยลูกค้าจะสามารถดูปริมาณการใช้พลังงานได้แบบเรียลไทม์ และเมื่อเค้าเห็นว่ามีการใช้ที่สูงเกินไป ก็กดโหมดประหยัดพลังงานได้ ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของลูกค้า
ด้านการประหยัดพลังงาน มีการติดตั้งระบบโซล่าเซลล์ (Solar Cell) เสร็จสิ้นแล้วทั้งหมด 14 โรงแรม โดยจะเพิ่มเป็น 18 แห่งในปีนี้ และจะติดตั้งเพิ่ม 6-8 แห่งปีหน้า ติดตั้งระบบ Smart Sensor, Energy Management System (EMS), District Cooling รวมถึง Smart Building Control ซึ่งจะทำให้เห็นภาพการใช้พลังงานทุกส่วนของทั้งอาคาร เพื่อควบคุมให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
การบริหารจัดการน้ำก็เป็นส่วนสำคัญ โดยปีนี้ เซ็นทาราลดการใช้น้ำได้ 30.08% (ณ ต.ค.2025) ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ หรือลดลง 20% เทียบจากปีฐาน 2019

รีไซเคิลก็เป็นอีกเป้าหมายที่มีการริเริ่มนวัตกรรมใหม่ๆ ซึ่งนอกจากการนำขวดพลาสติกจาก 4 โรงแรมในเครือที่จังหวัดกระบี่ มาแปรสภาพเป็นกระเป๋าและหมวก เซ็นทารา ยังได้นำผ้าปูที่นอนและผ้าม่านใช้แล้ว กลับเข้าไปกระบวนการทำเส้นใยรีไซเคิล เพื่อผลิตเป็นเสื้อสูท ที่ผู้บริหารนำมาสวมใส่ด้วย

ขณะเดียวกัน โรงแรมบางแห่ง เช่น เซ็นทารา รีเซิร์ฟ สมุย สร้างสวนสมุนไพรออร์กานิค หนึ่งในโครงการริเริ่มเพื่อส่งเสริมและรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน และนำส่วนผสมจากสวนสมุนไพรมาปรุงเป็นอาหารเพื่อลดปริมาณคาร์บอนฟุตปริ๊นท์อีกด้วย
เปิดพื้นที่ สร้างโอกาสชุมชน
เซ็นทารา ได้ร่วมมือกับมูลนิธิ เอสโอเอส ประเทศไทย มาตั้งแต่ปี 2017 เพื่อส่งต่ออาหารส่วนเกินคุณภาพดีจาก 17 โรงแรมในกรุงเทพฯ หัวหิน ภูเก็ต และเชียงใหม่ ไปยังกลุ่มผู้มีรายได้น้อย และกลุ่มเปราะบางในชุมชนต่างๆ
ส่งเสริมอาชีพชุมชนผ่านโครงการ 1 โรงแรม 1 ผลิตภัณฑ์ และ Community Market เพื่อช่วยสนับสนุนสินค้าชุมชนกว่า 6,000 ชิ้น จากผู้ประกอบการท้องถิ่น และจัดสรรพื้นที่รวมกว่า 6,300 ตารางเมตร ให้ผู้ประกอบการท้องถิ่นได้มีพื้นที่จำหน่ายสินค้าภายในโรงแรมโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย อีกทั้งสนับสนุนอาหารพื้นถิ่นขึ้นชื่อให้มาทำขายในห้องอาหารเช้าของโรงแรมด้วย เช่น ขนมอาโป้ง ที่อ่าวนาง จ. กระบี่ และโรตีสายไหม จ.อยุธยา
นอกจากนี้ เซ็นทารา ยังได้จ้างงานผู้สูงอายุ และผู้พิการในอัตราที่เกินกว่ากฎหมายการจ้างงานกำหนด และใช้โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ เป็นสถานที่ที่ให้ความรู้กับผู้พิการ และมาฝึกทำงานจริง เพื่อเตรียมความพร้อมให้สามารถเข้าสู่ธุรกิจได้จริง
