เฟ้นหาเลิศฝีมือ 5 เมนูมหาชน ปลุกกระแสข้าวแกงไทยให้โลกจำ
ข้าวแกง เป็นวัฒนธรรมการกินของคนไทยมาแต่โบราณ น่าจะเริ่มได้รับความนิยมมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 แล้ว ซึ่งไม่เพียงเป็นร้านสตรีทฟู้ด ห้องแถว หรือขายตามตลาดสด/ตลาดนัด เดี๋ยวนี้ข้าวแกงไปเสิร์ฟบนห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน และสถานีรถไฟฟ้า ทำให้สมาคมภัตตาคารไทยปิ๊งไอเดีย ชวนการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ชูข้าวแกงไทยให้เป็นที่รู้จักและกลายเป็น Food Destination ของชาวต่างชาติทั่วโลก โดยประเดิมจัดประกวดสุดยอดแชมป์ข้าวแกงไทยสู่สากล “Khao Gaeng” Thai Curry Rice Championship 2025

การประลองชิงแชมป์ข้าวแกงครั้งนี้ ได้เลือก 5 เมนูมหาชน ได้แก่ แกงเขียวหวานไก่, ต้มข่าไก่, พะแนงเนื้อ, พะโล้, และน้ำพริกกะปิ+ปลาทู ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17-19 ต.ค. 2025 ณ ศูนย์การค้า Phenix ประตูน้ำ โดยร้านข้าวแกงที่เปิดมาไม่ต่ำกว่า 1 ปี สามารถสมัครเข้าร่วมได้ทาง FB: Thai Restaurant Association และ FB: Khao Gaeng – Thai Curry Rice Championship 2025
ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. บอกว่า เราต้องการโปรโมทคำว่า 'Khao Gaeng' ให้เป็นที่จดจำติดปากคนต่างชาติ แทนที่จะเรียกว่า Thai Curry Rice เหมือนกับคำว่า 'Muay Thai' ที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางทั่วโลก ซึ่งข้าวแกงสะท้อนวิถีชีวิตและวัฒนธรรมไทย ดังนั้น เราจะสามารถใช้ข้าวแกงเป็นทูตทางอาหาร หรือ Gastrodiplomacy และยกระดับข้าวแกงไทยสู่เสน่ห์ไทย และเป็น Must Taste ที่ชาวต่างชาติต้องมาชิมสักครั้งในชีวิต ผ่านกิจกรรมการตลาด ที่ ททท. จะดำเนินการต่อไป เช่น เสิร์ฟข้าวแกงบนสายการบินไทย และจัดมุมข้าวแกงไทยในห้องอาหารของโรงแรม เป็นต้น
นอกจากนี้ ททท. มีแนวคิดจะจัดประกวดข้าวแกงไทยในภูมิภาคทั่วประเทศ เพราะข้าวแกงถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของแต่ละท้องถิ่น เป็นอาหารที่มีราคาเข้าถึงได้สำหรับนักท่องเที่ยวทุกระดับ และมีความหลากหลายให้ได้ทดลองชิม ไม่ว่านักท่องเที่ยวจะเดินทางไปในภาคใด ก็จะพบกับร้านข้าวแกงอันเป็นแหล่งรวมอาหารไทยยอดนิยมของภาคนั้นๆ เช่นเดียวกับนาซี เลอมัก เป็นตัวแทนอาหารของมาเลเซีย, ลักซาและข้าวมันไก่สิงคโปร์ เป็นตัวแทนอาหารของสิงคโปร์ เป็นต้น อีกทั้งยังเป็นอาหารที่ถูกบันทึกไว้ใน Michelin Guide จำนวนหลายร้านด้วย
ขณะที่ ฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย บอกว่า ทุกครั้งที่มีการจัดประกวดการทำอาหารก็จะสร้างแรงกระเพื่อมให้เกิดความนิยมได้อย่างมาก เช่น การแข่งขันผัดกะเพรา “World Kaphrao Thailand Grand Prix 2023” ที่ททท. จัดไปเมื่อสองปีก่อน ก็ทำให้ผัดกะเพราเป็นเมนูที่รู้จักในวงกว้างและได้รับการยอมรับจากชาวต่างชาติมากขึ้น ดังนั้น สมาคมฯ เชื่อมั่นว่า การจัดประกวดครั้งนี้ จะปลุกกระแสข้าวแกงเชื่อมวัฒนธรรมไทยกับการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ เราได้ 3 ฟู้ดเดลิเวอรี่แพลตฟอร์มอย่าง LINE MAN Wongnai, Grab, และ Robinhood มาร่วมเป็นพันธมิตร เพื่อสนับสนุนและเปิดโอกาสให้ร้านข้าวแกงไทยเข้าถึงผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น
ผู้เข้าแข่งขันได้อะไรบ้าง
ร้านเล็ก ร้านใหญ่ ร้านใหม่หรือในตำนานจากทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นร้านสตรีทฟู้ด ร้านข้าวแกงทั่วไป หรือในห้างฯ ก็มาประชันรสมือกันได้ เพียงแต่ต้องเปิดมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 ปี เป็นอาหารประเภทจัดทำสำเร็จพร้อมตักขาย และจัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับการแข่งขันมาด้วยตัวเอง โดยเกณฑ์การประกวดมีองค์ประกอบทั้งความอร่อย มีคุณภาพ ความคิดสร้างสรรค์ และถูกสุขลักษณะ ซึ่งทางสมาคมฯ ตั้งเป้าจะมีร้านข้าวแกงผ่านการคัดเลือกเข้าประกวดจำนวน 30 ร้าน
ผู้ชนะเลิศจะได้รับเงินรางวัล 100,000 บาท รองชนะเลิศอันดับ 1 เงินรางวัล 50,000 บาท รองชนะเลิศอันดับ 2 เงินรางวัล 30,000 บาท รองชนะเลิศอันดับ 3 เงินรางวัล 20,000 บาท และรองชนะเลิศอันดับ 4 เงินรางวัล 10,000 บาท นอกจากนี้ยังจะมีรางวัลพิเศษจากแพลทฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่ต่างๆ อีกด้วย
LINE MAN Wongnai มอบแพ็กเกจพิเศษโปรโมทร้านด้วยการทำคอนเทนต์เพื่อสร้างการรับรู้และเพิ่มยอดขายผ่านโซเชียลมีเดียของ LINE MAN และ Wongnai สนับสนุนเครื่องแจ้งเตือนยอดเงิน 'LINE Pay QR Box' ฟรี ที่มีฟีเจอร์เสียงแจ้งเตือนยอดเงินเข้าจะช่วยเพิ่มความมั่นใจว่าทุกธุรกรรมเกิดขึ้นจริง ตรวจสอบได้ และลดความกังวลในการรับชำระเงิน
แกร็บ ประเทศไทย สนับสนุนเงินรางวัลพิเศษ 20,000 บาทสำหรับผู้ชนะเลิศ นอกจากนี้ ผู้ชนะทั้ง 5 อันดับแรกยังจะได้รับ “แพคเกจส่งเสริมยอดขาย” สำหรับการเปิดร้านเพื่อขายอาหารผ่าน GrabFood มูลค่ากว่า 50,000 บาทต่อร้าน (รวมทั้งสิ้น 250,000 บาท) เป็นระยะเวลา 3 เดือน พร้อมอุปกรณ์ตกแต่งร้าน อีกทั้งยังเตรียมจัดแคมเปญพิเศษเพื่อร่วมโปรโมตเมนูข้าวแกงสำหรับร้านอาหารต่างๆ ที่ขายบนแพลตฟอร์มในช่วงไตรมาส 4 เพื่อสร้างสีสันและต่อยอดให้กับโครงการนี้ด้วย
ส่วนโรบินฮู้ด จะโปรโมทแชมป์ข้าวแกงไทย ซึ่งไม่เพียงแนะนำเมนูสุดยอดอร่อยเท่านั้น แต่มุ่งสื่อสารและส่งเสริมการเข้าถึงข้าวแกงไทยได้ง่าย โดยเฉพาะกลุ่มคนเจนใหม่ ชาวต่างชาติ และนักท่องเที่ยว โดยจะมีการแนะนำการจับคู่อาหาร (Food Pairing) ให้เกิดเมนูหลากหลายให้ได้รสชาติและสัมผัสที่ลงตัว รวมไปถึงการสร้างสรรค์การจัดจานอย่างมีรสนิยมแบบสากล เปิดมุมมองการกินข้าวแกงที่ไม่จำเจอีกต่อไป
#ThaiCurryGlobal #KhaoGaeng
#KhaoGaengThai #KhaoGaengThaiCurryRiceChampionship2025