โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช พัฒนา bear & bloom สกินแคร์ป้องกันผิวเด็กตั้งแต่แรกเกิด
เราคงเคยได้ยินกันว่า ผิวของเด็กบอบบาง และแห้งง่าย โดยเฉพาะเด็กแรกเกิดถึง 6 เดือน โดนอะไรนิดอะไรหน่อยก็เกิดอาการระคายเคือง หรือแพ้จนเป็นผื่นแดง และคันได้ง่ายๆ ทำให้ต้องมีผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเฉพาะเด็กในแต่ละช่วงวัย ล่าสุด มีแบรนด์สกิลแคร์พรีเมียมน้องใหม่ bear & bloom ที่พัฒนาโดยกุมารแพทย์ด้านโรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกัน โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล
ด้วยประสบการณ์ในการดูแลทั้งเรื่องผิวและจิตใจของเด็กไทย ผสมผสานวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช ได้นำเสนอ 3 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ bear & bloom Baby head to toe bath อ่อนโยนต่อผมและผิว (เหมาะสำหรับทารกแรกเกิด – 6 เดือน) bear & bloom Kids bath สะอาด อ่อนโยน ผิวนุ่มชุ่มชื้น (เหมาะสำหรับเด็กอายุ 6 เดือนขึ้นไป) และ bear & bloom Gentle baby lotion บางเบา ซึมไว สบายตัว (เหมาะสำหรับทารกแรกเกิดเป็นต้นไป)
รศ.พญ.พรรณทิพา ฉัตรชาตรี อาจารย์ประจำสาขาวิชาโรคภูมิแพ้และอิมมูโนวิทยา ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และแพทย์ที่ปรึกษา ศูนย์ภูมิแพ้เด็ก โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล บอกว่า เด็กจำนวนมากมีอาการผิวแห้ง แดง คัน และบางครั้งอาจเกาจนเกิดแผล เมื่อรักษาหายแล้วกลับมาเป็นอีกซ้ำๆ ฉะนั้น การดูแลผิวเด็กควรเริ่มตั้งแต่แรกเกิดและปรับเปลี่ยนตามช่วงวัย ไม่ใช่แค่รอให้เกิดปัญหา เพราะผิวที่แข็งแรงตั้งแต่ต้นจะช่วยลดความเสี่ยงของผื่นและโรงพยาบาลเด็กสมิติเวชระยะยาวได้
สมิติเวช ได้พัฒนา bear & bloom ที่มีส่วนผสมจากสารสกัดธรรมชาติ 3 ชนิด ได้แก่ Jojoba Oil เติมไขมันดีให้กับผิว เสริม "เกราะป้องกันผิว" ให้แข็งแรง ลดการระคายเคือง
Defensil-Plus ปลอบโยนผิวแพ้ง่าย เสริมความชุ่มชื้น และสารสกัดจาก Guava Leaf, Green Tea และ Rose Flower ต้านการอักเสบได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยจดสิทธิบัตรในประเทศเกาหลี รวมทั้งได้รับมาตรฐานผ่านการทดสอบการระคายเคือง (Dermatologically Tested-Non irritating) และผ่านการใช้จริงในโรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล
พญ.สุรางคณา เตชะไพฑูรย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวช และบีเอ็นเอช และผู้อำนวยการโรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า แนวคิด #โตไปไม่ป่วย จากโรงพยาบาลสมิติเวช มุ่งดูแลเด็กอย่างรอบด้านทั้งร่างกายและจิตใจ ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของชีวิต ซึ่งเป็นช่วงสำคัญของการเติบโต ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงยุคใหม่ เช่น มลภาวะฝุ่น PM2.5 สารเคมี และอาหารกระตุ้นภูมิแพ้ อาจส่งผลต่ออารมณ์ พฤติกรรม และพัฒนาการในระยะยาวของลูกน้อย ดังนั้น สมิติเวช จึงมุ่งเน้นการสร้าง Ecosystem เพื่อสนับสนุนให้เด็กเติบโตอย่างแข็งแรงและมีความสุข ในทุกช่วงชีวิต จากโรงพยาบาลถึงที่บ้าน
โรคภูมิแพ้แบ่งออกเป็น 4 ประเภทใหญ่ ๆ คือ โรคหวัดจากภูมิแพ้ โรคหืด โรคแพ้อาหาร และโรคผื่นแพ้ทางผิวหนัง ซึ่งโรคภูมิแพ้ เป็นโรคที่พบได้บ่อยในเด็กและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นมาก เช่น โรคหืดในเด็กไทย ดังนั้น พ่อแม่อย่ามองข้ามหรือคิดว่าเมื่อโตแล้วอาการของโรคจะหายไปเอง ควรพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมอ่อนโยน ปลอดภัย และมีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์รองรับ
#สมิติเวช #โรคภูมิแพ้ #โรงพยาบาลเด็ก