อร่ามพรรณไม้งามที่ซ่อนตัวท่ามกลางพงไพร
ยามเดินเที่ยวป่า คนก็มักจะชื่นชมทิวทัศน์อันงดงาม ตื่นเต้นกับการส่องสัตว์ หรือแบกกล้องไปถ่ายรูปนกนานาชนิด แต่ก็มีไม่น้อยที่หลงใหลดอกไม้ป่าผลัดเปลี่ยนกันออกมาให้ยลโฉมในแต่ละฤดูกาล วันนี้ HappeningBKK ชวนสายเขียวมารู้จักกับพรรณไม้หายากที่ไม่เพียงมีสีสันสวยงาม หากแต่ยังเป็นตัวชี้วัดถึงความหลากหลายทางชีวภาพบนผืนป่าของไทย

พิศวงสีส้ม
ช่วงเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม ของทุกปี นักท่องเที่ยวจะได้ชมพิศวงสีส้มออกดอกบานสะพรั่งใกล้น้ำตกโตนเด้ง อุทยานแห่งชาติศรีพังงา ซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยดอกสีส้มสดใสที่โผล่ขึ้นมาจากพื้นป่า ราวกับโคมไฟธรรมชาติที่ส่องแสงในความมืดมิดของป่าไผ่
การเดินทางไม่ยุ่งยาก เพียงแค่เดินเท้าระยะทางเพียง 300 เมตรตามเส้นทางธรรมชาติสู่น้ำตกโตนเด้ง ก็จะได้สัมผัสกับความมหัศจรรย์ของพิศวงสีส้มที่หาชมได้ยากในพื้นที่อื่น

หนวดแมวถิ่นใต้
ไม้ล้มลุกในวงศ์กะเพรา (Lamiaceae) ชนิดนี้ ถูกพบครั้งแรกในไทยเมื่อปี 2471 ณ พื้นที่คลองวะ อำเภอกระบุรี จังหวัดระนอง โดยนายแพทย์ชาวไอริช หลังจากนั้น ก็ไม่มีใครพบเห็นมาเป็นเวลานานหลายทศวรรษจนเข้าใจกันว่าสูญพันธุ์ไปแล้ว กระทั่ง ทีมสำรวจหอพรรณไม้ (Forest Herbarium - BKF) ได้พบโดยบังเอิญเมื่อไม่นานมานี้ ณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันออก อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก

กำยาน
พืชชนิดนี้จะพบได้บริเวณริมหน้าผาบนยอดเขาสูง ณ อุทยานแห่งชาติไทรทอง จังหวัดชัยภูมิ ชาวนครพนมเรียกว่า "ซาดสมิง" และชาวขะแมร์ สะเร็นเรียกว่า "สะดาน"
สิ่งที่ทำให้กำยานโดดเด่นคือ ใบที่ราวกับใครนำสีขาวนวลมาทาด้านล่าง จนเมื่อลมโชยผ่าน ใบจะพลิกโบกสะบัด เผยให้เห็นแสงขาวระยิบระยับที่มองเห็นได้แม้จากระยะไกล เมื่อถึงฤดูดอกบาน ดอกตูมทรงกระบอกสง่างามจะค่อยๆ เปิดตัว กลีบดอกบิดม้วนเป็นเกลียวไปทางโคนดอก เผยให้เห็นอับเรณูสีส้มสดใสเรียงเป็นแถวขนานราวกับนักเต้นที่เตรียมแสดง กลิ่นหอมหวานจะลอยมาตามลม ขณะที่ถ้วยกลีบเรียบเนียนปกคลุมด้วยขนรูปดาวหนาแน่น และก้านชูอับเรณูก็มีขนปกคลุมอย่างละเอียดอ่อน

โมกส้ม
พรรณไม้หายากชนิดหนึ่งแห่งผืนป่าตะวันออกของประเทศไทย อาทิ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว จังหวัดจันทบุรี
โมกส้ม หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อ วงศ์ตีนเป็ด วงศ์ไม้ลั่นทม หรือ วงศ์โมก สามารถเติบโตได้สูงถึง 7 เมตร สิ่งที่ทำให้โมกส้มโดดเด่นและแตกต่างจากพรรณไม้อื่นๆ คือ ดอกสีส้มสดใสที่มีกลิ่นหอมเอียนเป็นเอกลักษณ์
โมกส้มเลือกที่อยู่อาศัยอย่างจำเพาะ คือ อาศัยอยู่บริเวณริมลำธารในป่าดิบที่ระดับความสูง 450-700 เมตรจากระดับน้ำทะเล สภาพแวดล้อมที่เฉพาะเจาะจงนี้ทำให้โมกส้มกลายเป็นพรรณไม้ที่หาได้ยาก และต้องการการดูแลรักษาเป็นพิเศษ

นกน้อย
ไม้พุ่มกึ่งเลื้อยในป่าลึก อุทยานแห่งชาติภูเรือ จังหวัดเลย มีเอกลักษณ์พิเศษ คือ ใบด้านล่างปกคลุมด้วยขนสีขาวหนาแน่นเหมือนผ้าไหมเงิน ดอกสีแดงอมเขียว อับเรณูห่อหุ้มด้วยขนยาวปุย เหมือนตุ๊กตาขนาดจิ๋ว ออกผลเป็นฝักเล็กๆ น่ารัก

บัวฮาดำ
บัวฮาดำ กระดูกไก่ดำ หรือ เฉียงพร้าดำ เป็นไม้พุ่มเฉพาะถิ่นที่ซ่อนตัวอยู่ในผืนป่าดิบเขาแห่งอุทยานแห่งชาติภูลังกา
สิ่งที่ทำให้พืชชนิดนี้น่าสนใจคือ ใบที่มีเนื้อสัมผัสหนาคล้ายแผ่นหนัง ซึ่งเป็นการปรับตัวต่อสภาพแวดล้อมที่แห้งแล้งในระดับความสูง ช่อดอกมีใบประดับขนาดใหญ่ที่ทำหน้าที่ดึงดูดแมลงผสมเกสร นอกจากความงดงามแล้ว บัวฮาดำ ยังมีสรรพคุณเป็นสมุนไพร ใช้ใบทำเป็นยาแก้ไข้ ลดความร้อน เป็นยาเย็นถอนพิษ

ตาไก่เกาะช้าง
พืชชนิดนี้พบได้เฉพาะที่เกาะช้าง จังหวัดตราด เท่านั้น ตามป่าดิบชื้นและป่าดิบแล้งใกล้ลำธาร โดยจะออกดอกและผลในช่วงเดือนธันวาคมถึงมกราคม ปัจจุบันพบว่า เหลืออยู่เพียงจำนวนน้อยมาก และมีความเสี่ยงสูงที่จะสูญพันธุ์หากไม่มีมาตรการอนุรักษ์ที่เหมาะสม
ตาไก่เกาะช้าง เป็นไม้พุ่มหรือไม้ต้นไม่ผลัดใบที่สูงได้ถึง 8 เมตร มีลักษณะใบเดี่ยวเรียงสลับ รูปใบหอกถึงรูปใบหอกแกมรูปรี ดอกออกเป็นช่อกึ่งซี่ร่ม ตามซอกใบ มี 2-6 ดอก ดอกสีชมพูอมแดง มีจุดต่อมสีม่วงอมดำทั้งที่กลีบเลี้ยง กลีบดอก และอับเรณู ส่วนผลเมื่อสุกจะมีสีม่วงอมแดง

อัคคนีเทวา
พืชหายากถิ่นเดียวของไทยที่เติบโตอย่างสวยงามบนหน้าผาหินปูนในอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ไม้ล้มลุกชนิดนี้โดดเด่นด้วยใบหนาที่มีขนสีน้ำตาลดำปกคลุมและขอบใบจักฟันเลื่อยชัดเจน ช่อดอกสีขาวอมม่วงที่ออกที่ปลายยอดเป็นช่อกลมเดี่ยวสร้างความงดงามให้กับระบบนิเวศหินปูนอันเปราะบาง

ฝอยทองมาเลย์
นักวิจัยหอพรรณไม้ได้ค้นพบที่เบตง จังหวัดยะลา ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากต่อวงการพฤกษศาสตร์ไทย เพราะแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงทางชีวภาพระหว่างภาคใต้ของไทยกับคาบสมุทรมาเลย์ จากเดิมที่เคยพบเฉพาะในรัฐเปรัค และรัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย
ฝอยทองมาเลย์จัดเป็นพืชเฉพาะถิ่นของคาบสมุทรมาเลย์และกำลังเผชิญกับภาวะถูกคุกคามอย่างหนักจากการสูญเสียพื้นที่ป่า ซึ่งไทยก็จะต้องวางแผนอนุรักษ์พืชชนิดนี้ก่อนที่จะสูญพันธุ์ไปจากธรรมชาติ

เอื้องเศวตจูงนาง
กล้วยไม้ป่าหายากของไทยชนิดนี้ เคยเชื่อว่าอาจสูญพันธุ์ไปจากธรรมชาติแล้ว หลังจากที่ไม่มีรายงานการค้นพบมานานหลายสิบปี แต่ปัจจุบันได้มีการค้นพบอีกครั้ง โดยมักจะขึ้นตามต้นไม้ในป่าผลัดใบ ป่าดิบแล้งริมลำธาร และบริเวณยอดเขาที่เปิดโล่งบนภูเขาหินทราย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในแถบเทือกเขาพนมดงรัก และพื้นที่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดนครนายก
เอื้องเศวตจูงนาง มาจากการผสมผสานของสองคำ คือ เศวต หมายถึง สีขาว ซึ่งสื่อถึงสีของกลีบเลี้ยงและกลีบดอกของกล้วยไม้ชนิดนี้ ส่วนจูงนาง มาจากลักษณะของกลีบปากที่มีรูปร่างคล้ายกับว่านจูงนาง ซึ่งเป็นพืชอีกชนิดหนึ่งในประเทศไทย
ที่มาเรื่องและภาพ: กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช