เชื่อหรือไม่? โลกร้อนเร่งนาฬิกาชีวิต ทำคนแก่เร็วกว่าอายุจริง

 

โลกร้อนไม่ได้กระทบแค่สิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศ แต่ “คน” นี่แหละที่โดนเต็มๆ

ในวันที่เราบ่นว่า "ร้อนจะตาย" นั่นอาจไม่ใช่คำพูดเกินจริงอีกต่อไป เพราะงานวิจัยล่าสุดจาก มหาวิทยาลัยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนีย ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Science Advances พบว่า อุณหภูมิที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ร่างกาย ‘แก่’ เร็วกว่าปกติถึง 2.48 ปี ในช่วงเวลาเพียง 6 ปีเท่านั้น

โลกร้อนเปลี่ยน DNA เราได้อย่างไร?

นักวิจัยวิเคราะห์กลุ่มผู้สูงวัยในสหรัฐจำนวนกว่า 3,600 คน โดยเฉลี่ยมีอายุ 68 ปี พร้อมเก็บตัวอย่างเลือด และตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมในระดับ Epigenetic หรือสิ่งที่ควบคุมการทำงานของยีนในร่างกายเรา ซึ่งสามารถบอกอายุทางชีวภาพของเซลล์ได้

สิ่งที่น่าตกใจคือ จำนวนวันที่ต้องเผชิญกับอุณหภูมิสูงจัด (Extreme Heat Days) ยิ่งมาก ร่างกายยิ่งเสื่อมสภาพเร็วขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องรอให้แก่ตามอายุจริง ๆ เพราะความเครียดจากความร้อนส่งผลต่อเซลล์โดยตรง ทำให้การฟื้นฟูตัวเองของร่างกายลดลง และเสี่ยงต่อการเกิดโรคเรื้อรังในอนาคต

นาฬิกาชีวภาพเร่งเดินเพราะอุณหภูมิที่สูงขึ้น

ในการศึกษานี้นักวิจัยใช้เครื่องมือวัดอายุเซลล์ที่เรียกว่า Epigenetic Clock 3 แบบ ได้แก่

• PCPhenoAge
• PCGrimAge
• DunedinPACE

ซึ่งทั้งหมดล้วนแสดงผลไปในทิศทางเดียวกันว่า ความร้อนที่สะสมในระยะยาวนั้นเร่งการแก่ชราอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในตัวชี้วัด PCPhenoAge ที่เพิ่มอายุชีวภาพถึง 2.48 ปี ในกลุ่มที่ต้องสัมผัสกับอุณหภูมิรุนแรงต่อเนื่องเป็นเวลานาน

 

เมื่อเรื่องของอากาศร้อน ไม่ได้เป็นแค่ “ฤดู”

การแก่ชราทางชีวภาพ (Biological Aging) ไม่ใช่แค่เรื่องของตัวเลขอายุในบัตรประชาชน แต่เป็นภาพสะท้อนสุขภาพในระดับลึก ตั้งแต่การทำงานของเซลล์ ระบบภูมิคุ้มกัน ไปจนถึงความเสี่ยงของโรคในอนาคต

และแม้ว่าผลกระทบนี้จะดูเหมือนเกี่ยวกับผู้สูงอายุเป็นหลัก แต่นักวิจัยชี้ว่า ไม่มีหลักฐานชัดเจนว่ากลุ่มประชากรใดมีภูมิคุ้มกันมากกว่าใคร กล่าวคือ...ทุกคนมีสิทธิ์โดนความร้อนเร่งให้แก่เร็วขึ้นได้เหมือนกัน!

 

แล้วเราทำอะไรได้บ้าง?

แม้เราจะหยุดคลื่นความร้อนไม่ได้ทันที แต่เราสามารถดูแลตัวเองให้ดีที่สุดในโลกที่กำลังเปลี่ยนไป

• หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดจัด โดยเฉพาะช่วงเวลา 11.00 – 15.00 น.
• ดื่มน้ำให้เพียงพอ และรักษาอุณหภูมิร่างกายให้สมดุล
• เลือกที่อยู่อาศัยหรือทำงานที่มีการระบายอากาศดี
• ใส่ใจสภาพอากาศและค่าดัชนีความร้อน ไม่ต่างจากที่เราดูพยากรณ์ฝน
• และที่สำคัญเราต้องร่วมกันลดโลกร้อน เพราะทุกองศาที่ลดได้ อาจหมายถึงปีชีวิตที่เราได้คืนกลับมา

 

ร้อนนี้ลองช้าลง แล้วดูแลสุขภาพใจ-กายให้มากขึ้น

โลกร้อนอาจไม่ใช่แค่เรื่องของสิ่งแวดล้อมอีกต่อไป แต่มันคือเรื่องของ “ชีวิต” เราโดยตรง การดูแลสุขภาพในยุคที่อุณหภูมิเกิน 40°C กลายเป็นเรื่องปกติ จึงไม่ใช่เทรนด์ แต่เป็นความจำเป็น

หากเราปล่อยให้อุณหภูมิสูงขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เราอาจไม่ได้เสียแค่ความเย็นสบายในชีวิตประจำวัน แต่ยังเสียเวลาในชีวิตที่ควรจะมีเพิ่มขึ้นไปอย่างช้าๆ อีกด้วย

 

 

อ้างอิง : Science