คุยเรื่องศัลยกรรม : ศิลปะการดีไซน์ความสวยแบบธรรมชาติ

ในวงการศัลยกรรมและความงามที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วตลอดหลายปีที่ผ่านมาในประเทศไทย ชื่อของ “EMMA CLINIC” ได้รับการยอมรับจากผู้คนมากขึ้น ทั้งในด้านคุณภาพ ความเชี่ยวชาญของแพทย์ บริการที่ครบวงจร โดยเฉพาะในเรื่องของการดีไซน์ทรงจมูกที่เป็นเอกลักษณ์อย่าง “TearDrop” จมูกทรงซิกเนเจอร์ของ EMMA CLINIC ที่หลายคนต่างพูดถึง

วันนี้ HappeningBKK มีโอกาสได้สัมภาษณ์ คุณหมอน้ำ-แพทย์หญิงณัศรัตน์ กุลเกียรติประเสริฐ CEO ของ EMMA CLINIC ที่จะมาเล่าถึงแนวคิด เจาะลึกหัวใจของแบรนด์ ตลอดจนความท้าทายด้านการพัฒนาคลินิกศัลยกรรมยุคใหม่ให้เราได้ฟัง

ต้องออกตัวก่อนเลยว่า ผู้เขียนเองยังไม่เคยมีประสบการณ์การทำศัลยกรรมมาก่อน แต่หลังการสนทนากับคุณหมอน้ำจบลง มุมมองการทำศัลยกรรมของเราก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ด้วยอายุที่เท่ากันของผู้เขียนที่เป็นคนสัมภาษณ์ และคุณหมอน้ำผู้ถูกสัมภาษณ์ ทำให้เราปรับจูนกันได้เร็ว และพร้อมเปิดใจในทุกๆ เรื่องที่เราอยากรู้

เราเริ่มต้นด้วยการให้คุณหมอน้ำเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับตัวคุณหมอ และ EMMA CLINIC ให้ฟัง 

“หมอน้ำเรียนแพทย์ในประเทศไทย และด้วยความสนใจด้านศัลยกรรมจึงไปเรียนต่อที่ประเทศเกาหลี ต้องยอมรับว่าเกาหลีคือหมุดหมายที่คนไทยเลือกไปทำศัลยกรรม เพราะขึ้นชื่อเรื่องความครบวงจร แต่เราปล่อยให้เกาหลีครองพื้นที่นี้นานไปแล้ว บอกเลยว่าปัจจุบันหมอไทยเราเก่งมาก ไทยเรามีบริการที่ครบวงจร และพร้อมเป็นฮับด้านศัลยกรรม

ส่วน EMMA CLINIC หมอน้ำตั้งใจใช้ชื่อ ‘EMMA’ ที่หมายถึงความสมบูรณ์แบบ เพราะหมอน้ำอยากทำงานที่สมบูรณ์แบบที่สุดให้คนที่ไว้ใจเลือก EMMA CLINIC”

แล้ว “ความสมบูรณ์แบบ” สำหรับหมอน้ำคืออะไร? เราถามต่อ

“ความสมบูรณ์แบบสำหรับหมอคือ ‘ความพอดี’ เพราะถ้ามากเกินไปหรือน้อยเกินไปก็ไม่เหมาะกับเรา ในความพอดีต้อง ‘เข้ากับใบหน้าของแต่ละคน’ ผสานกับมีความ ‘เป็นธรรมชาติ’ เพราะหมอน้ำเชื่อว่าความเป็นธรรมชาติยั่งยืนที่สุด ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุค กี่สมัย ก็ยังคงอินเทรนด์อยู่เสมอ เหมือนจมูกที่สวย คือจมูกที่เข้ากับใบหน้าของเรา มีความเป็นธรรมชาติ และเป็นจมูกสุดท้ายที่จะอยู่กับเราไปตลอด”

 

เรามักได้ยินคำว่า “คิ้วเป็นมงกุฎของหน้า” แล้ว “จมูก” ล่ะ?

“ถ้าคิ้วเป็นมงกุฎของหน้า หมอน้ำมองว่า ‘จมูกคือแกนหลักของความสวย’ เพราะจมูกเปรียบดั่งจุดศูนย์กลางของใบหน้าที่ทุกๆ สายตาจะโฟกัสมาเป็นอันดับแรก ก่อนจะพิจารณามองไปที่องค์ประกอบอื่นๆ ของใบหน้า อย่างดวงตา ปาก คาง ที่สำคัญคือ จมูกยังบ่งบอกถึงความสวยและความสมมาตรของใบหน้าของแต่ละคน”

ในมุมมองของ CEO คิดว่าจุดแข็งของ EMMA CLINIC คืออะไร?

“หัวใจของ EMMA CLINIC คือการดีไซน์ เพราะทุกๆ องศาสำคัญกับใบหน้า ซึ่งจุดเริ่มต้นที่ทำให้ EMMA CLINIC เป็นที่รู้จักและมีฐานแฟนคลับมาจากการทำจมูกทรง ‘TearDrop’ ด้วยศาสตร์และศิลป์ทำให้เราออกแบบทรงจมูกสันสโลป ปลายพุ่ง ทิ้งหยดน้ำเบาๆ ที่ปลายจมูกเพื่อให้ดูละมุน มีความเป็นธรรมชาติ และรับกับใบหน้าของชาวเอเชีย จนกลายเป็นจมูกทรงซิกเนเจอร์ของ EMMA CLINIC

จุดแข็งถัดมาของ EMMA CLINIC คือทีมแพทย์ที่เชี่ยวชาญ ปัจจุบันเรามีคุณหมอให้บริการทั้งหมดเกือบ 20 ท่าน ซึ่งหมอน้ำคัดเลือกทีมแพทย์ทุกคนด้วยตัวเอง โดยดูจากประสบการณ์ที่มากพอ ที่สำคัญคือต้องมี Sense of Beauty เพื่อการดีไซน์ให้ตอบโจทย์ความต้องการ พร้อมดึงความเป็นธรรมชาติของแต่ละคนให้ออกมาได้ ผ่านการรับฟังความคิดของคนไข้และร่วมกันออกแบบ”

“ที่ขาดไม่ได้เลยคือ เรามี ‘Emma Care’ ที่อุดช่องว่างทุกความกังวลใจ ในฐานะที่หมอเองก็เป็นคนที่เคยทำศัลยกรรมจึงเข้าใจทุกความกังวลไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เราให้ความสำคัญกับทุกการบริการ ตั้งแต่การให้คำปรึกษา การมอบความอุ่นใจด้วยการจับมือระหว่างเข้ารับการผ่าตัดหรือทำศัลยกรรม เหมือนมีเพื่อนอยู่ข้างๆ เพื่อไม่ให้ใครต้องก้าวผ่านเรื่องนี้ไปเพียงลำพัง ตลอดจนการแชทตอบทุกคำถามหลังการผ่าตัด วิธีการดูแลตัวเอง การสังเกตอาการ อาหารที่กินได้-กินไม่ได้ หน้าเราบวมไปมั้ย? แบบนี้เรียกปกติหรือป่าว? เพื่อให้ทุกคนหมดความกังวล จึงเกิดเป็น Emma Care ที่จะคอยให้คำแนะนำกับคนไข้หลังทำนั่นเองค่ะ” หมอน้ำ กล่าวเสริม

สุดท้ายด้วยยึดมั่นในความสมบูรณ์แบบ หมอน้ำบอกว่า “ถ้าไม่ดี EMMA CLINIC ไม่ทำ ทำแล้วต้องดี ทำแล้วต้องเกิดประโยชน์กับคนอื่น ถ้าเค้ามาหาเรา เค้าต้องเป็นคนโชคดี ทุกสิ่งที่ได้กลับไป และความพึงพอใจ ต้องมากกว่าที่จ่ายมา นี่แหละที่ทำให้ EMMA CLINIC เติบโตอย่างยั่งยืนและพร้อมก้าวต่อไป”

 

ที่ EMMA CLINIC มีบริการอะไรบ้าง? และมีนวัตกรรมอะไรที่ตอบโจทย์คนยุคใหม่?

“EMMA CLINIC เราเริ่มต้นสร้างชื่อจากการทำจมูก เมื่อเป็นที่ยอมรับมากขึ้น เราจึงต่อยอดด้วยการเพิ่มเทคนิคที่ครอบคลุมทุกความต้องการของคนในปัจจุบัน ทั้ง Closed, Soft-Open และ Open Reconstruction หรือการทำตาสองชั้น เสริมคาง ศัลยกรรมปาก รวมถึงโปรแกรมใหม่ๆ อย่างการดึงหน้า สำหรับคนที่ต้องการยกกระชับใบหน้า อีกทั้งยังมีบริการเสริมหน้าอกสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความมั่นใจให้กับรูปร่างของตัวเอง ปีนี้เราได้เปิดตัวเทคโนโลยี ‘Hyperbaric Oxygen Chamber’ นวัตกรรมใหม่ที่ตอบโจทย์การฟื้นตัวหลังศัลยกรรมด้วยออกซิเจนบำบัด ที่จะช่วยลดอาการบวมและฟื้นฟูหลังการศัลยกรรมอย่างรวดเร็ว ทั้งยังช่วยปรับสมดุลในร่างกาย และทำให้ผิวพรรณสดใสขึ้นด้วย เรียกว่าเรามีบริการแบบครบวงจร และมาที่เดียวพร้อมเสิร์ฟความสวยที่เป็นธรรมชาติครบทุกมิติ”

ครบทุกมิติแล้วครอบคลุมทุกพื้นที่ด้วยไหม?

“ณ ตอนนี้ EMMA CLINIC เปิดให้บริการมาครบ 8 ปี มีทั้งหมด 10 สาขา ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยเฉพาะตามหัวเมืองใหญ่อย่างชลบุรี ขอนแก่น พิษณุโลก และโคราช ซึ่งแต่ละสาขาได้รับการตอบรับดีมาก และเร็วๆ นี้ EMMA CLINIC กำลังจะเปิดสาขาที่ 11 ในจังหวัดภูเก็ต เพื่อปักหมุดในภาคใต้ ส่วนสาขาที่ลูกค้าเข้ามาใช้บริการมากที่สุดยังคงเป็นสาขาหลักในกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเป็น อโศก ลาดพร้าว รังสิต แพรกษา พระราม 2 และพระราม 9 ค่ะ”

“ศัลยกรรม” ในมุมมองของ “ศัลยแพทย์”

“ถ้าพูดถึงคำว่า ‘ศัลยกรรม’ น้ำอยากให้ทุกคนมองเรื่องของการทำศัลยกรรมในมุมใหม่ ถ้าเราย้อนกลับสมัยก่อน ศัลยกรรมคือ ดูปลอม ดูโป๊ะ ก่อนจะได้รับการยอมรับเพิ่มขึ้นในเวลาต่อมา และกลายเป็นเรื่องธรรมดาที่ไม่ว่าจะเพศไหน วัยไหน เป็นคนดังหรือคนธรรมดาก็ศัลยกรรมได้ วันนี้ศัลยกรรมเปลี่ยนไปแล้ว ทั้งความคิด การยอมรับ รวมถึงเทคนิคต่างๆ ที่พัฒนาขึ้นมาก

ในมุมมองของหมอน้ำซึ่งเป็นหมอศัลยกรรมเห็นว่า ‘ศัลยกรรมคือธรรมชาติ และธรรมชาติสวยที่สุด’ ศัลยกรรมเป็นแค่เครื่องมือหนึ่งที่ทำให้คนมีความมั่นใจในความเป็นตัวเอง แต่สิ่งสำคัญคือการที่เราเห็นคุณค่าในตัวเอง เมื่อเราดูดีขึ้น สวยขึ้น เห็นคุณค่าในตัวเอง ชอบตัวเอง รักตัวเอง เราจะส่งต่อเป็นพลังเปลี่ยนแปลงสังคม และเปลี่ยนแปลงโลกให้ดีขึ้น”

อย่างที่เกริ่นไปแล้วว่า เมื่อฟังหมอน้ำพูดจบ มุมมองศัลยกรรมของเราก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เราตกตะกอนว่า “ความสวยคือธรรมชาติ ธรรมชาติคือความยั่งยืน” 

เมื่อสวยขึ้น ดูดีขึ้น เห็นคุณค่าในตัวเอง และมีความมั่นใจมากขึ้น “เรา” จะเป็น “เรา” ในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุด

สำหรับใครที่กำลังคิดเรื่องการทำศัลยกรรม อยากเปลี่ยนลุคให้เป๊ะปังแบบธรรมชาติและปลอดภัย แนะนำว่าให้มาที่ “EMMA CLINIC” เพื่อขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญก่อนการตัดสินใจ ไม่ได้อยากขาย แต่อยากบอกว่าถ้าไม่มาลองด้วยตัวเอง ไม่มารู้จัก “EMMA CLINIC” เหมือนที่เรารู้จัก คุณจะไม่มีวันเข้าใจ

สามารถดูรายละเอียดการให้บริการต่างๆ ได้ที่ https://emmaclinicthailand.com/