ชวนชมละครเวทีร่วมสมัย “ลำนำชีวิต : Ballad of Life” ในวาระ 150 ปีชาตกาล "เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี"

จากแนวคิดในผลงานของเจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี ผู้มีคุณูปการด้านการศึกษาของไทย สู่ละครเวทีร่วมสมัย “ลำนำชีวิต : Ballad of Life” ฝีมือการกำกับของ นิกร แซ่ตั้ง ศิลปินศิลปาธร Theatre8x8

มูลนิธิเจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี จัดละครเวทีจัดละครเวทีร่วมสมัย “ลำนำชีวิต Ballad of Life” ฉลอง 150 ปีชาตกาล เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี เจ้าของนามปากา “ครูเทพ” นำแนวคิดเนื้อหาจากผลงานของท่านมาตีความและเรียงร้อยใหม่ให้สอดคล้องบริบทสังคมปัจจุบัน สะท้อนความเป็นอมตะและวิสัยทัศน์ของท่านที่มีมากว่าร้อยปี โดยมี นิกร แซ่ตั้ง ศิลปินศิลปาธร สาขาศิลปะการแสดงปี พ.ศ. 2553 จากคณะละคร 8x8 (Theatre8x8) เป็นผู้กำกับ โดยจะจัดแสดงระหว่าง 22-24 สิงหาคม 2567 ณ ศูนย์ศิลปการละครสดใส พันธุมโกมล ชั้น 6 อาคารมหาจักรีสิรินธร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี (สนั่น เทพหัสดิน ณ อยุธยา) เป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการวางรากฐานให้แก่ระบบการศึกษาไทย และเคยดำรงตำแหน่งปลัดทูลฉลอง กระทรวงธรรมการ ท่านได้พัฒนาการศึกษาในทุกระดับ ตั้งแต่ขั้นปฐมวัย จนถึงอุดมศึกษา การสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา การให้ผู้หญิงได้มีโอกาสเรียนหนังสือ การออกพระราชบัญญัติประถมศึกษาภาคบังคับ การแต่งตำราเรียน นอกจากนี้ ท่านยังได้แต่งบทประพันธ์มากมายทั้งด้านการศึกษาและบทกวีต่าง ๆ ซึ่งสอดแทรกแนวคิดที่ยังคงทันสมัยสอดคล้องกับบริบทสังคมในปัจจุบัน

“ลำนำชีวิต เป็นละครเวทีร่วมสมัยที่จัดแสดงขึ้นในโอกาสใกล้วาระครบรอบ 150 ปีชาตกาลในปี 2569 ของเจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี ผู้มีคุณูปการด้านการศึกษาของไทย ในฐานะผู้จัดและตัวแทนมูลนิธิฯ เราคาดหวังให้คนได้รู้จักและเห็นวิสัยทัศน์อันก้าวไกลของเจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี ผ่านบทละครพูด โดยใช้ละครเวทีสมัยใหม่เป็นตัวเชื่อมสังคม ที่ไม่ใช่แค่สนุก แต่ยังให้ข้อคิดและสติปัญญา พร้อมทั้งยังเป็นการสนับสนุนผู้จัดละครเวทีของไทยที่มีฝีมือ ซึ่งรายได้ทั้งหมดโดยไม่หักค่าใช้จ่ายจะมอบให้มูลนิธิเจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรีต่อไป” ศ.ดร.นทีทิพย์ กฤษณามระ ผู้อยู่เบื้องหลังต้นกำเนิดละคร กล่าว

สำหรับลำนำชีวิต (Ballad of Life) เป็นละครสั้น 3 ตอนต่อกัน ความยาว 60 นาที ในครั้งนี้ได้นักแสดงทั้งรุ่นใหญ่และรุ่นใหม่ที่มีชื่อเสียงด้านคุณภาพร่วมแสดงมากมาย อาทิ ดวงใจ หิรัญศรี, สุชาวดี เพชรพนมพร, สุมณฑา สวนผลรัตน์, ตรึงตรา โฆษิตชัยมงคล, ศักดิ์ชาย เกียรติปัญญาโอภาส, วิภู บุนนาค, ณัฐวุฒิ เมืองมูล และประพันธ์ดนตรีโดย สินนภา สารสาส

"ในละครเรื่องนี้ ตอนที่ 1 ตัวละคร (Role) คุณนิกรได้หยิบบทกลอน 'รามรันทด' หนึ่งในเนื้อหาของหนังสือ 'โคลงกลอนครูเทพ' ขึ้นมาตีความใหม่ สะท้อนอีกแง่มุมที่ซ่อนความรู้สึกในใจของพระราม ที่ต้องให้นางสีดาลุยไฟเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ให้สิ้นคำครหา รวมถึงการจำใจเนรเทศคนรักด้วยหน้าที่กษัตริย์ ทว่า ในใจกลับต้องทนทุกข์แสนสาหัส โดยทั้งหมดถูกถ่ายทอดออกมาในรูปแบบละครซ้อนละคร ผ่านวัฒนธรรมการรำฟ้อน และดนตรีที่มีความร่วมสมัยซึ่งจะตรึงใจผู้ชม" ศ.ดร.นทีทิพย์ เล่าถึงหนึ่งในฉากที่ชื่นชอบ

ในส่วน “ตอนที่ 2 วิชาชีวิต (Wisdom)” ที่จะเล่าความท้าทายของแม่ยุคปัจจุบันที่ต้องรับมือกับความเปราะบางของลูก ๆ เจเนอเรชั่นใหม่ กับประเด็นทางสังคมไม่ว่าจะเป็นการเลือกเรียนตามใจตนหรือตามใจพ่อแม่ ปริญญาจำเป็นไหม สะท้อนกระแสความคิดของมนุษย์ที่ตั้งคำถามต่อโครงสร้างการศึกษาที่ถูกวางไว้มากว่า 100 ปีแล้ว และ “ตอนที่ 3 รอยมนุษย์ (Legacy)” ที่เน้นบรรยากาศและความรู้สึกมากกว่าเรื่องราวที่จับต้องได้ เมื่อมนุษย์จากโลกนี้ไป สิ่งที่เหลือไว้เป็นร่องรอยคืออะไร เราจำเป็นต้องทิ้งอะไรไว้ให้คนรุ่นหลังไหม เป็นตอนที่ได้แรงบันดาลใจจากชีวิตของเจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี ที่ทิ้งผลงานไว้ให้คนรุ่นหลังมากมาย ซึ่งสะท้อนกลับมาว่าเราควรคิดที่จะต้องทิ้งอะไรไว้ในวันที่จากลาหรือไม่ ละครชวนให้นึกถึงความเปลี่ยนแปลงจากยุคเก่าสู่ยุคใหม่ กะเทาะเปลือกของความเป็นมนุษย์ ผ่านสถานการณ์ที่แตกต่างกัน