ส่องนวัตกรรมรองเท้าที่เป็นมากกว่ารองเท้ากีฬา ของ“Under Armour SlipSpeed Mega”

Under Armour (อันเดอร์ อาร์เมอร์) ผู้นำแบรนด์เสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬาชั้นนำจากสหรัฐอเมริกา เปิดตัว  Under Armour SlipSpeed Mega รองเท้ารุ่นใหม่ที่เป็นมากกว่ารองเท้ากีฬา ด้วยดีไซน์ล้ำสมัยไม่เหมือนใคร สามารถสวมใส่ได้ทุกเพศ และตอบโจทย์ทุกฟังก์ชั่น เอาใจทั้งสายสปอร์ตและสายแฟชั่น โดยมาในคอนเซ็ปต์ Flex As You Go ที่สามารถเปลี่ยนโหมดรองเท้าได้ดั่งใจ สามารถสวมใส่ได้ในทุกโอกาส และไม่ให้พลาดทุกจังหวะในการใช้ชีวิต

Under Armour SlipSpeed Mega เป็นรองเท้าที่ผ่านการออกแบบมาเพื่อให้เข้ากับทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ซึ่งจุดเด่นคือบริเวณส้นรองเท้าที่สามารถสวมใส่ได้ 2 แบบทั้งแบบ Slip Mode หรือการพับส้นรองเท้า ที่ได้รับการออกแบบมาให้สามารถใส่แบบเหยียบส้นได้ง่ายดาย โดยไม่ทำให้รองเท้าเสียทรง เหมาะสำหรับวันสบาย ๆ และแบบ Speed Mode หรือการใส่รองเท้ากีฬาแบบปกติที่คลุมส้นเท้าและบิดเกลียวเพื่อให้รองเท้ากระชับ เหมาะสำหรับการออกไปทำกิจกรรมที่แอคทีฟหรือออกกำลังกาย ซึ่งผู้สวมใส่สามารถเลือกโหมดการใส่รองเท้าได้ตามต้องการ

นอกจากการออกแบบรองเท้ามาให้สามารถสวมใส่ได้ 2 แบบแล้ว รองเท้า Under Armour SlipSpeed Mega ยังมีคุณสมบัติอื่น ๆ ที่ตอบโจทย์การใช้งานของผู้ใช้ให้มากที่สุด ดังนี้ FLOAT - ULTRA-CUSHIONED การออกแบบที่ทำให้รองเท้ามีน้ำหนักเบาและพื้นรองเท้าสามารถรองรับแรงกระแทก เพื่อให้ผู้สวมใส่รู้สึกสบายขณะใส่, FRESH - BREATHABLE UPPER           การเลือกใช้ Material ที่ช่วยเรื่องการระบายอากาศในขณะใช้งานได้อย่างดี, CLICK - BOA FIT SYSTEM ที่ช่วยให้ผู้สวมใส่สามารถปรับขนาดให้กระชับและพอดีกับรูปเท้าได้ตามต้องการเพียงบิดเกลียว, COOL – ISO - CHILL PADDED INTERIOR ที่มาพร้อมโฟมและเทคโนโลยีซึ่งให้สัมผัสที่เย็นสบายจากส้นเท้าถึงปลายเท้า และ CLEAN - MACHINE  WASHABLE ที่สามารถทำความสะอาดได้ง่ายเพียงนำไปซักในเครื่องซักผ้า

รองเท้า Under Armour SlipSpeed Mega มีทั้งหมด 7 สี  Black / Mod Gray, Black, White, Distant Gray / Metallic Silver, White / Red, Camel / Sandstorm และ White / Rich Cream ให้เลือกได้ตามสไตล์ของแต่ละคน ในราคาคู่ละ 5,990 บาท ซึ่งเริ่มวางจำหน่ายในประเทศไทยวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2567

ช่องทางการจัดจำหน่าย เว็บไซต์ www.underarmour.co.th และร้านค้าอันเดอร์ อาร์เมอร์ สาขาสยามเซ็นเตอร์, สาขาเมกาบางนา, สาขาเซ็นทรัลเวิลด์, สาขาไอคอนสยาม, สาขาเซ็นทรัลภูเก็ต, สาขาจังซีลอน ภูเก็ต, สาขาเอ็มโพเรียม, สาขาเซ็นทรัลพัทยา, สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว, สาขาเซ็นทรัลเวสเกต, สาขาเซ็นทรัลเฟสติวัลเชียงใหม่, สาขาฟิวเจอร์พาร์ครังสิต, สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า, สาขาเว็นทรัลพระราม 2, สาขาแฟชั่นไอส์แลนด์ และสาขาเดอะมอลล์บางกะปิ สามารถติดตามรายละเอียดข้อมูลสินค้าและกิจกรรมเพิ่มเติมได้ทาง Facebook : UnderArmourThailand หรือ Instagram : underarmourth