HandySense B-Farm เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ช่วยเกษตรกรปลดล็อกทุกปัญหาฟาร์มได้แบบง่ายๆ

คงไม่ต้องมาพูดกันแล้วว่า จำเป็นต้องเอาเทคโนโลยีมาใช้แก้ปัญหาการเกษตรมากแค่ไหนเพื่อให้อยู่รอด แล้วอะไรล่ะที่ทำให้เทคโนโลยีสมาร์ทฟาร์มไม่ถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลาย วันนี้ เนคเทค สวทช. มีคำตอบให้แล้วด้วยแพลตฟอร์มฟาร์มอัจฉริยะ HandySense เวอร์ชั่น 3 ที่ออกแบบมาเพื่อให้เกษตรกรลุงป้าน้าอา สามารถใช้ได้สุดง่าย และเอาไปสร้างโซลูชั่นได้เองให้เหมาะสมตรงตามความต้องการของแต่ละคน

เนคเทค พยายามพัฒนา HandySense มาอย่างต่อเนื่อง หลังจากเปิดตัวเวอร์ชั่นแรกไปเมื่อ 4 ปีที่แล้ว โดยปิดจุดอ่อน (pain points) ต่างๆ จนประสบความสำเร็จมาถึงขั้นที่ผ่านการทดสอบมาตรฐานในระดับอุตสาหกรรม ซึ่งเป็น Open Innovation ที่ผู้ประกอบการหรือผู้สนใจทั่วไปสามารถนำพิมพ์เขียว (ฟรี) ไปใช้ในการผลิตอุปกรณ์สมาร์ทฟาร์มเพื่อใช้เองหรือจำหน่ายได้

ทีมวิจัยเทคโนโลยีเกษตรดิจิทัล เนคเทค นำโดย นริชพันธ์ เป็นผลดี บอกว่า แม้จะมีทั้งซอฟท์แวร์และฮาร์ทแวร์สำหรับทำฟาร์มอัจฉริยะในท้องตลาดเยอะแยะ แต่สาเหตุหลักที่ทำให้เกษตรกรไม่ใช้อย่างแพร่หลาย ก็เพราะเทคโนโลยีใช้ยากเกินไป ยิ่งเกษตรกรไทยมีอายุเฉลี่ยปาเข้าไปเกือบ 60 ปี การเรียนรู้และใช้งานเทคโนโลยีจึงเป็นอะไรที่ยากมาก ระบบที่มีอยู่ก็ไม่ตอบโจทย์ เพราะการเกษตรมีความหลากหลายชนิดทั้งพืชและสัตว์ รวมไปถึงตัวแปรจากสภาพแวดล้อม และการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศที่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการใช้งานของอุปกรณ์ จึงไม่สามารถใช้เทคโนโลยีแบบเดียวกันได้ 

"ปัญหาที่พบ ส่วนหนึ่งเกิดจากประสบการณ์ตรงของตัวเอง ซึ่งผมก็เป็นหนึ่งใน young smart farmers ของฉะเชิงเทรา เพราะเกิดแรงบันดาลใจที่จะนำความรู้เรื่องเทคโนโลยีไปใช้กับการเกษตร โดยไปทำฟาร์มมะเขือเทศตั้งแต่ยังไม่มีระบบ HandySense จึงทำให้เห็นจุดอ่อนหลายอย่างที่นำกลับมาใช้ในการปรับปรุงพัฒนา เพื่อให้เกษตรกรใช้ได้จริง และเข้าถึงเทคโนโลยีได้ทุกคน"

ช่างซ่อมก็เป็นอีกปัญหาใหญ่ ซึ่งเกษตรกรกังวลว่า ถ้ามีปัญหาการใช้งาน ใครจะเข้าไปช่วยล่ะ ดังนั้น นอกจากทีมงานของตัวเองแล้ว เนคเทค กำลังสร้างระบบนิเวศที่เป็นเครือข่ายผู้ประกอบการให้สามารถเข้าไปดูแล ให้คำปรึกษา คำแนะนำการใช้งาน รวมไปถึงการสร้างคนเพื่อให้กลายเป็นที่ปรึกษาเกษตรกรด้วย

 

ฟังก์ชั่นใหม่มันดียังไง ง่ายแค่ไหน

ดร.พนิตา พงษ์ไพบูลย์ รองผู้อำนวยการ เนคเทค อธิบายว่า HandySense B-Farm ใช้เทคโนโลยีเซ็นเซอร์ ผสานกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ Internet of Things (IoT) เพื่อให้ควบคุมการทำงานฟาร์มโดยระบบอัตโนมัติ ทำให้บริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต วิเคราะห์ข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ และทนทานต่อสภาพแวดล้อม

HandySense B-Farm จะแตกต่างจากระบบอื่นๆ เพราะออกแบบมาเฉพาะเจาะจงสำหรับการเกษตร และเป็นแพลตฟอร์มที่เปลี่ยนจากการเขียนโค้ด (Text Code) มาเป็นแบบบล็อก (Block Module) ซึ่งจุดเด่นคือ ลากแล้ววาง ปรับแต่ง ตั้งค่า แก้ไขได้ง่าย สะดวกรวดเร็ว เพราะในระบบได้มีการตั้งค่าและฟังก์ชั่นพื้นฐานที่จำเป็น เช่น การควบคุมอุณหภูมิ ค่าความชื้นดิน การตั้งเวลาระบบอัตโนมัติต่างๆ ตามที่กำหนด เป็นต้น เพื่อให้ผู้ใช้งานได้ออกแบบสมาร์ทฟาร์มของตนแบบฟรีสไตล์ โดยเกษตรกรสามารถสั่งงานระบบควบคุมต่างๆ ผ่านสมาร์ทโฟน ช่วยลดข้อจำกัดเรื่องคนที่จะมาพัฒนาสมาร์ทฟาร์ม ไม่จำเป็นต้องเป็นโปรแกรมเมอร์ หรือคนที่มีความรู้ในการเขียนโค้ด แม้แต่คนที่เป็นช่างติดตามดาวเทียมก็สามารถทำเองได้ 

 

ความสามารถของ HandySense B-Farm

• มี sensors และ actuators (แอคชูเอเตอร์) ที่หลากหลายให้เรียกใช้ 
• ติดต่อแชทแอปพลิเคชั่นเพื่อทำระบบแจ้งเตือนได้ง่าย
• พัฒนาและติดต่อกับ IoTs Dashboard ได้ง่าย
• เชื่อมต่อและดึงข้อมูลผ่านระบบ API เช่น ดึงข้อมูลพยากรณ์ฝนตก การเตือนภัยโรคระบาด เพื่อให้ระบบ IoTs ตัดสินใจและทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
• เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์ม API ต่างๆ เพื่อพัฒนาการทำงานของระบบให้มีความฉลาดมากขึ้น
• สามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์อื่นได้ เช่น กล้อง เพื่อขยายขีดความสามรถของการประยุกต์ใช้

นริชพันธ์ แนะว่า เกษตรกรควรเริ่มจากเทคโนโลยีที่ง่าย และก่อนจะออกแบบระบบของตัวเองก็ต้องรู้ก่อนว่าพืชที่เราปลูก หรือสัตว์ที่เราเลี้ยง ต้องดูแลจัดการในเรื่องอะไรบ้าง จากนั้นจึงมาเลือกบล็อกในแต่ละเรื่องให้ตรงกับความต้องการ เช่น บล็อกที่เป็นเรื่องของระบบเซ็นเซอร์ก็มีให้เลือกหลากหลายมาก ค่าธาตุอินทรีย์ ออกซิเจนในน้ำ คาร์บอนในนาข้าว ระบบการทำปุ๋ย และการให้น้ำ เป็นต้น เรียกว่าอยากได้การจัดการฟาร์มแบบไหน ก็สร้างได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง 

ในอนาคต เกษตรกรก็สามารถอัพเดทฟังก์ชั่น HanddySense B-Farm ได้อย่างต่อเนื่อง แบบ Over-the-Air (OTA) 

ในอนาคต จะไม่ใช่แค่นี้ เพราะจะมีผู้ประกอบการพัฒนาฮาร์ทแวร์มารองรับมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งซอฟท์แวร์ก็จะมากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงดาต้าที่เป็นประโยชน์กับเกษตรกรก็จะมีมากขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน 

ทั้งนี้ เนคเทค คาดว่าในปีแรกจะมีผู้เปิดใช้งาน HanddySense B-Farm มากกว่า 500 ราย ปีที่สองมากกว่า 1,000 ราย และปีที่สามมากกว่า 3,000 ราย 

ผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดซอฟท์แวร์ Version 1.0 พร้อม OTA function update และคู่มือการใช้งานได้ทั้งทางเว็บไซต์ https://handysense.io หรือเฟซบุ๊ค HandySense Community