ปลุกหัวใจอนุรักษ์ผ่านเลนส์ช่างภาพชื่อดัง ในงาน NATGo-Photo Ark
ข่าวดีของคนรักษ์โลกและสัตว์ป่า รวมทั้งผู้ที่สนใจเรื่องภาพถ่าย เมื่อนิทรรศการ Photo Ark มาเยือนประเทศไทยเป็นครั้งแรก พร้อมนำเสนอภาพถ่ายสัตว์อันน่าทึ่งจากทั่วโลก รวมถึงสัตว์หลายชนิดที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผ่านเลนส์ของ โจเอล ซาร์ทอรี (Joel Sartore)
โจเอล ซาร์ทอรี ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มโครงการ Photo Ark ในปี 2549 หวังว่านิทรรศการนี้จะสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนได้เชื่อมโยงกับธรรมชาติและลงมือทำเพื่ออนุรักษ์ โดยกล่าวว่า "โครงการ Photo Ark เกิดขึ้นเพื่อช่วยให้ผู้คนมองข้ามตัวเองและหันมาให้ความสำคัญกับสัตว์เหล่านี้ รวมทั้งช่วยให้พวกเขาตระหนักว่าแม้แต่สิ่งมีชีวิตที่เล็กที่สุดที่หลายคนคิดว่าอยู่ด้านล่างของห่วงโซ่อาหาร เช่น แมลง ก็เป็นสิ่งที่ทำให้โลกมีเสถียรภาพ งานของผมคือการทำให้ผู้คนพยายามมีส่วนร่วมในแบบที่ผมรู้ซึ่งก็คือในฐานะช่างภาพ"
โจเอล กล่าวในงานเปิดนิทรรศการ National Geographic Photo Ark ภายใต้หัวข้อ “ภารกิจพิทักษ์สรรพสัตว์ผ่านภาพถ่าย” ว่าเขาทำหน้าที่ของเขาโดยสื่อสารผ่านทางภาพ และหวังว่าจะช่วยเพิ่มเสียงให้กับการรณรงค์ “สัตว์เหล่านี้ต้องการสิ่งเดียวกันกับคุณและผมต้องการไม่ว่าจะเป็นอาหาร อากาศ และน้ำสะอาด ที่อยู่อาศัย และสภาพอากาศที่เอื้อต่อการดำรงชีวิต” เขากล่าว พร้อมทั้งให้ข้อคิดว่าถ้าสัตว์เหล่านั้นอยู่ไม่ได้ หายไปจากโลก มนุษย์อย่างเราจะอยู่ได้หรือ?
ช่างภาพ National Geographic แสดงความขอบคุณสถานทูตสหรัฐฯ สำหรับการสนับสนุนและโอกาสในการบันทึกความหลากหลายทางชีวภาพที่เป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทย และพันธมิตรที่ทำให้เกิดงานครั้งนี้ขึ้น ทั้งนี้ โจเอลใช้เวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์ถ่ายภาพสัตว์ที่ไทย เช่น ที่สวนสัตว์โคราช สวนสัตว์เปิดเขาเขียว และสวนงู สถานเสาวภา ซึ่งเขาสามารถเก็บบันทึกสัตว์ได้มากกว่าหนึ่งร้อยสปีชีส์
“ประเทศไทยมีความหลากหลายทางชีวภาพที่น่าทึ่ง อย่างนกและสัตว์เลื้อยคลาน นี่มันก็ขึ้นอยู่กับคนไทยว่าจะเลือกที่จะอนุรักษ์ความอุดมสมบูรณ์ไว้หรือจะเก็บกินให้หมด”
ตัวอย่างสัตว์ป่าจากไทย เช่น เสืออินโดไชน่า เป็นรูปเสือโคร่งที่ตั้งอยู่ด้านหน้าของนิทรรศการที่ถ่ายจากสวนสัตวเปิดเขาเขียว การถ่ายรูปในโครงการ Photo Ark นั้นโจแอลเลือกที่จะถ่ายสัตว์แต่ละประเภทโดยใช้แบ็คกราวน์สีขาวหรือดำ และถ้าเลือกได้อย่างรูปเสือโคร่ง เขาจะเลือกให้สัตว์มองมาที่กล้องเพื่อสื่อสารกับคนดู โดยปกติเขาจะถ่ายภาพโดยไปยังสวนสัตว์ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทั่วโลก โดยใช้พื้นหลังสีขาวหรือดำอย่างละประมาณ 10 ภาพ แต่ในบางกรณีถ้าสัตว์มีอาการวิตกเขาอาจเลือกถ่ายโดยใช้แบ็คกราน์สีใดสีหนึ่ง เราใส่ใจความเครียดของสัตว์เป็นอย่างมากกับงานภาพถ่าย และเราพยายามทำงานให้เร็วมาก ดังนั้น จึงไม่มีการหัวเราะ ไม่มีการล้อเล่น ไม่มีการพูดคุย เราจึงใช้เวลาไม่กี่นาที” โจเอล ยังกล่าวเสริมว่าเขาไม่ชอบย้ายสัตว์ไปมาในระหว่างถ่าย บางครั้งถ้าสัตว์ตื่นตระหนกเกินไปเขาก็อาจรีบถ่ายเป็นวีดีโอ หรือไม่ถ่ายเลย
เขากล่าวว่าภาพบางภาพอาจจะไม่ใช่ระดับ world class แต่เขามีความตั้งใจที่จะเก็บภาพทุกสปีชีส์ในโลกให้ได้ ซึ่งเขาตระเวนถ่ายภาพแบบนี้มากว่า 15 ปีแล้ว และหากเขาไม่อยู่บนโลกนี้แล้ว เขาจะส่งต่อภารกิจให้กับลูกชายของเขา
สำหรับนิทรรศการในประเทศไทยนี้จัดแสดงภายใต้การจัดการของผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ คุณทอม โพธิสิทธิ์ ช่างภาพร่วมสมัยชื่อดังของไทย โดยมีผู้สนับสนุนมากกมาย ทั้งนี้ โจเอลหวังว่ามันจะสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้เข้าชมได้ส่งต่อจิตสำนึกอนุรักษ์ต่อไป
“เพราะธรรมชาติไม่สามารถส่งเสียงเลย คุณคือเสียงของธรรมชาติ คุณจะรักษาธรรมชาติได้อย่างไร?”
ช่างภาพชื่อดังบอกว่า เขาอยากให้ทุกคนสละเวลาสักนิดเพื่ออ่านแคปชั่นรูป ซึ่งมีภาษาไทยประกอบด้วยเพื่อที่จะได้รายละเอียดของสปีชีส์นั้นๆ บางคนอาจจะทึ่งกับข้อมูลที่ได้รับและเกิดความรู้สึกอยากจะร่วมอนุรักษ์ ตัวอย่างเช่น รูปแรดขาว (Southern White Rhino) ซึ่งเขาบันทึกภาพมาที่กำลังจะสูญพันธ์ุจากโลกนี้ ถ้าไม่มีใครใส่ใจ
เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย โรเบิร์ต เอฟ. โกเดค กล่าวในการเปิดงาน โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือระดับโลกในการปกป้องสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ ว่า “นิทรรศการนี้นำเสนอความงามอันหาที่เปรียบไม่ได้ของสัตว์ป่าในโลกของเรา ทั้งยังเป็นเครื่องเตือนใจที่ทรงพลังถึงหน้าที่ความรับผิดชอบที่เรามีร่วมกันเพื่อปกป้องโลกใบนี้ ไม่มีช่วงเวลาใดจะเร่งด่วนไปกว่าตอนนี้ ที่โลกของเรากำลังเผชิญกับการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในอัตราที่เร็วกว่าครั้งใดๆ ในอดีต นับตั้งแต่เมื่อครั้งที่ไดโนเสาร์ได้สูญพันธุ์ไปจากโลกนี้”
เอกอัครราชทูตโกเดคยังกล่าวด้วยว่า ความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อมเป็นเสาหลักสำคัญของความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีของเราโดยเสมอมาและจะเป็นเช่นนั้นต่อไป และเราสองประเทศก็เป็นพันธมิตรใกล้ชิดในด้านการอนุรักษ์สัตว์ป่า โดยเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นที่เรามีต่อสิ่งแวดล้อม เราทำงานร่วมกับหลายๆ หน่วยงานกันในหลายๆ โครงการ ตั้งแต่การลดมลพิษทางอากาศไปจนถึงการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งล้วนมีจุดมุ่งหมายเพื่อสงวนรักษามรดกทางธรรมชาติไว้ให้คนรุ่นต่อๆ ไป
ทั้งนี้ โจเอลบอกว่าหนึ่งในมูลเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการสูญพันธุ์คือการขาดที่อยู่อาศัย “ถ้าหากเราไม่สามารถที่จะรักษาพื้นที่ที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่ไว้ได้อย่างป่า ภูเขา หรือมหาสมุทร มันก็จบเกมแล้ว ถ้าเรายังทำลายถิ่นที่อยู่อาศัยของสัตว์ไปเรื่อยๆ จนหมด เขาหายไปหมด เราไม่สามารถช่วยชีวิตเขาได้ และสุดท้ายเราเองก็จะไม่รอด”
นิทรรศการ National Geographic Photo Ark เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมได้ ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 29 กรกฎาคม 2567 ณ โซน Living Hall ชั้น 3 สยามพารากอน ไม่เก็บค่าเข้าชม
เยี่ยมชม NatGeoPhotoArk.org เพื่อทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ Photo Ark และช่องทางการสนับสนุนความมุ่งมั่นของโจเอล
HappeningBKK Service
