#SAVEแกงไตปลา กินอาหารเป็นยาตำรับปักษ์ใต้
ดราม่า "แกงไตปลา" ล่าสุด เกิดจากการที่ TasteAtlas เว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลอาหารจากทั่วโลก ยกให้ “แกงไตปลา” ของประเทศไทย รั้งแชมป์ครองอันดับที่ 1 จาก 100 เมนูยอดแย่ของโลก
โดย Top 20 แกงยอดแย่ของโลก ได้แก่
- อันดับ 1 แกงไตปลา จากประเทศไทย
- อันดับ 2 Hákarl (ฮาคาร์ล) จากไอซ์แลนด์
- อันดับ 3 Fesikh (เฟสซิก) จากอียิปต์
- อันดับ 4 Yerushalmi Kugel (เยรูชาลมี คูเกล) จากอิสราเอล
- อันดับ 5 Luther Burger (ลูเธอร์ เบอร์เกอร์) จากสหรัฐอเมริกา
- อันดับ 6 Pani ca meusa (ปานี กา มูซา) จากอิตาลี
- อันดับ 7 Jellied Eels (เจลลี่ อีล-ปลาไหลเยลลี่) จากอังกฤษ
- อันดับ 8 Calskrove (คาลสโกรฟ) จากสวีเดน
- อันดับ 9 Peladillas (เพลลา ดิลลาส) จากสเปน
- อันดับ 10 Smalahove (สมาลาโฮฟ) จากนอร์เวย์
- อันดับ 11 Beyin salatasi (เบยิน ซาลาตาซี) จากเตอร์กิเย
- อันดับ 12 Chapalele (ชาปาเลเล่) เกาะชิโลเอ จากชิลี
- อันดับ 13 Sneem Black Pudding (สนีม พุดดิ้งดำ) จากไอร์แลนด์
- อันดับ 14 Marmite and Chip Sandwich (แซนด์วิชมาร์ไมต์และชิป) จากนิวซีแลนด์
- อันดับ 15 Fried spider (A-ping) (แมงมุมทอดอาปิง) จากกัมพูชา
- อันดับ 16 Gazpacho de mango (คาสปาโช่ เดอ แมงโก้) จากสเปน
- อันดับ 17 Bocadillo de carne de caballo (โบคาดิลโล่ เด การ์เน่ เด กาบัลโล) จากสเปน
- อันดับ 18 Tinutuan (ตินูตวน) จากอินโดนีเซีย
- อันดับ 19 Oil Down จากเกรเนดา
- อันดับ 20 Lutefisk (ลูเตฟิสก์) จากนอร์เวย์
เปิดหูเปิดตา “แกงไตปลา” อาหารถิ่นใต้
“แกงไตปลา” หรือในภาษาใต้ เรียกว่า “แกงพุงปลา” เป็นเสน่ห์การถนอมอาหารแบบหมักดองรูปแบบหนึ่ง ที่มีถิ่นกำเนิดมาจากทางตอนใต้ของประเทศไทย โดยใช้ส่วนกระเพาะของปลา เช่น ปลาทู ปลาคัง ปลาดุก ปลาช่อน หรือปลาอื่นๆ มาหมักกับเกลือ 10-30 วัน ไตปลาที่หมักได้ที่จะเหลวและมีมันไหลออกมา เมื่อนำมาทำแกง ใส่เนื้อปลา ผักที่มีรสชาติเค็มๆ รสร้อนแรง ยิ่งทำให้รสชาติมีความเข้มข้น
ความลับของแกงไตปลาที่หลายคนไม่รู้คือ แกงไตปลามีทั้งแบบไม่ใส่กะทิและใส่กะทิ แต่แบบไม่ใส่กะทิจะได้รับความนิยมมากกว่า ผู้คนส่วนใหญ่มักกินแกงไตปลาคู่กับข้าว หรือขนมจีน ซึ่งอร่อยไม่แพ้กัน ด้วยรสเผ็ดร้อนแบบใต้ จึงนิยมกินคู่กับผักนานาๆ ชนิด นับเป็นภูมิปัญญาของคนในสมัยก่อนที่หาของมากินดับร้อน แถมเพิ่มคุณค่าให้อาหารในมื้อนั้น
กินอาหารเป็นยา “แกงไตปลา” เมนูสารพัดประโยชน์
ไตปลา : เป็นของหมักดองที่มีโปรตีนสูง นำมาทำแกงโดยใส่พริกแกงที่มีส่วนผสมของสมุนไพรต่างๆ ซึ่งล้วนมีสรรพคุณช่วยแก้ท้องอืด รสเผ็ดร้อนของพริกช่วยให้การไหลเวียนโลหิตดีขึ้น มีไขมันจากปลาซึ่งเป็นไขมันดี และมีสมุนไพรหลายชนิด
ข่า : รสเผ็ดปร่าและร้อน ช่วยขับลม ขับพิษร้ายในมดลูก ขับลมในลำไส้
หอมแดง : รสเผ็ดร้อน แก้ไข้เพื่อเสมหะ บำรุงธาตุ แก้ไข้หวัด
ตะไคร้ : แก้ปวดท้อง ขับปัสสาวะ บำรุงธาตุ ช่วยเจริญอาหารและขับเหงื่อ
มีวิตามิน : ได้จากผัก เช่น ฟักทองที่มีวิตามินเอ มะเขือพวงช่วยย่อยอาหาร และข้อเด่นของผักทั้งหมดที่ใส่นี้มีกากใยที่ช่วยระบายท้องได้อย่างดี
ทั้งหมดนี้ที่กล่าวมาเป็นเรื่องราวของ “แกงไตปลา” ที่คนรักอาหารไทยและคนรักความจัดจ้านยกให้จานนี้เป็นยอดอาหารแดนทักษิณ ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ทางวัฒนธรรม ล้ำเลิศด้วยคุณค่า ส่วนเรื่องรสชาติของอาหารนั้นอาจเป็นเรื่องของความชอบส่วนบุคคล อาจจะได้พบเจอบ้างทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบ ต่างจิตต่างใจ ... นานาจิตตัง!