รสมือแม่แน่กว่าใครที่ร้าน “ธนา”
ชวนชิมเมนูธรรมดาที่ไม่ธรรมดาทั้งหน้าตาและรสชาติที่ปรุงสดใหม่ด้วยฝีมือแม่ในร้านที่ชื่อไม่เหมือนร้านอาหารย่านท่าเตียน
เพราะเชื่อในฝีมือแม่ และมั่นใจว่าอาหารที่แม่ทำ คือ อาหารที่อร่อยที่สุด “ธนา” ร้านอาหารไทยที่มีกลิ่นอายอาหารจีน แต่รสชาติกลมกล่อมเข้มข้นแบบไทยๆ จึงได้ถือกำเนิดขึ้น โดยมีคุณแม่ภัทร์ศรัณย์หรือหม่าม้าของครอบครัวธนาโรจน์ปิยทัชเป็นเชฟใหญ่ที่ปรุงอาหารเองทุกจาน มีคุณพ่อภูมิพัฒน์เป็นคนเสิร์ฟและดูแลหน้าร้าน และมีลูกๆ เป็นผู้หนุนหลัง
ร้านอาหารเล็กๆ ในย่านที่เตียนแห่งนี้มีเพียง 4-5 โต๊ะเล็กๆ รับลูกค้าได้คราวละ 15-20 คน ตกแต่งในสไตล์เรียบๆ โทนสีน้ำตาลอ่อนอบอุ่น ให้บรรยากาศเหมือนห้องรับแขกที่พร้อมต้อนรับเพื่อนๆ ของลูกหรือญาติสนิทมานั่งรับประทานอาหารฝีมือหม่าม้าด้วยกันในบ้าน และแน่นอนว่าอาหารในร้านเป็นสไตล์โฮมคุก มาจากเมนูที่คนในครอบครัวชื่นชอบและเชื่อว่าจะถูกปากคนอื่นด้วยเช่นกัน
เมนูของร้าน “ธนา” มีหลากหลายทั้งอาหารที่เราคุ้นเคย เช่น ก๋วยเตี๋ยวราดหน้า ผัดผักปวยเล้ง หมูสับหนำเลี้ยบ และเมนูไม่พลาดไม่ได้สำหรับนักท่องเที่ยว เช่น ไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ แต่ความไม่ธรรมดาของร้านนี้ คือ รสชาติที่มีความเป็นเอกลักษณ์ กลมกล่อมเข้มข้น และความพิเศษที่เกิดจากความพลิกแพลงของคุณแม่ และความชอบของลูก
หนึ่งในเมนูที่หารับประทานได้ที่นี่ที่เดียว คือ ข้าวหน้าหมูธนา ข้าวหอมมะลิที่หุงเรียงเม็ดสวยนุ่มกำลังดีหอมกรุ่น ราดหน้าด้วยหมูซีอิ๊ว ไข่ข้น กุนเชียง กับแตงโมดองสูตรพิเศษที่คุณแม่นำเนื้อแตงโมส่วนที่สีขาวและแดงนิดๆ มาหั่นเต๋าขนาดจิ๋วดองจนได้สามรสกำลังดี ช่วยตัดเลี่ยนและทำให้อาหารจานนี้ครบรส เติมความหอมด้วยงาขาวอิ่มอร่อยไม่เหมือนใคร เวลากินแนะนำให้ชิมแตงโมดองก่อนเพื่อให้ได้รสชาติ ก่อนจะคลุกทุกอย่างรวมกันจึงจะได้อาหารที่ครบรส มีเนื้อสัมผัสหลากหลายในคำเดียว
เกี๊ยวหมูสับในซอสเผ็ด แป้งเกี๊ยวบางกำลังดี ใส่ไส้หมูสับปรุงรสนุ่มนวลกลมกล่อม ทีเด็ดอยู่ที่ซอสรสจัดจ้าน เปรี้ยว เค็ม หวาน ตัดเลี่ยนด้วยพริกที่เกิดจากรีเควสของลูกว่าอยากกินเกี๊ยวราดน้ำจิ้มแซ่บ เมื่อคุณแม่จัดให้ เกี๊ยวนึ่งจานนี้จึงไม่ธรรมดา
ราดหน้าสามพี่น้อง ก๋วยเตี๋ยวที่คุณแม่นำของโปรดของลูกๆ ทั้งสามมารวมไว้ในชามเดียว เวลาอยู่บ้านลูกคนหนึ่งชอบราดหน้าหมู อีกคนชอบราดหน้าปลา เมื่อนำมาปรับขึ้นโต๊ะอาหารในร้านเก๋ จึงกลายมาเป็นราดหน้าเส้นใหญ่กรอบเกรียมหอมกระทะ ราดหน้าด้วยหมูหมัก ไข่ดาว หมูหวาน ปลากะพงทอด ถูกใจลูกๆ และลูกค้า
ไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ที่เราคิดว่าเป็นอาหารนักท่องเที่ยวทั่วไป กลับไม่ธรรมดาเมื่อปรุงออกมาจากครัวของร้านด้วยฝีมือแม่ เนื้อไก่ชิ้นพอดีคำทอดกรอบนอกนุ่มในไม่อมน้ำมัน ใครโชคดีจะตักได้ชิ้นหนังไก่กรอบ เม็ดมะม่วงหิมพานต์เคี้ยวกรุบหอมมัน
นอกจากนี้ยังมีข้าวหน้าไก่สูตรหม่าม๊า หมูปลาเค็ม และอีกหลายสิบเมนูที่เราคุ้นเคยกันในบ้าน แต่ไม่ค่อยพบในร้านอาหาร แต่ไม่ว่าจานไหนก็ปรุงจากวัตถุดิบคุณภาพสูงที่ส่วนใหญ่หาได้ในตลาดท่าเตียน ซึ่งเดิมเคยเป็นตลาดค้าส่งและศูนย์รวมอาหารสดอาหารทะเล ของแห้งของเค็มที่สำคัญของกรุงเทพฯ มาร้อยกว่าปีตั้งแต่สมัยที่คนไทยสัญจรกันทางน้ำเป็นหลัก
หนึ่งในเอกลักษณ์ของอาหารจากครัวคุณแม่แห่งร้านธนา คือ ผักชีจีนและผักชีลาวใบฝอยที่ตกแต่งมาในเกือบทุกจาน ซึ่งเป็นความชอบส่วนตัวของคุณแม่ นอกจากเติมความสวยงามน่ารักในแต่ละจานแล้ว ยังสามารถกินแกล้มกับอาหารช่วยชูรสชาติให้โดดเด่น อร่อยหอมมากขึ้น
นอกจากอาหารที่รสชาติกลมกล่อมด้วยฝีมือแม่แล้ว ที่มาของร้านยังทำให้หลายคนแปลกใจ เพราะครอบครัวธนาโรจน์ปิยทัชทำธุรกิจขายส่งมานานกว่า 50 ปีในชื่อร้าน “ธนาภัณฑ์” จนกระทั่งแถบท่าเตียน วัดโพธิ์กลายเป็นย่านนักท่องเที่ยวมากขึ้น ธุรกิจค้าส่งไม่ใช่คำตอบสำหรับย่านนี้อีกต่อไป ประกอบกับลูกๆ เรียนจบทำงานกันหมดแล้ว คุณภูมิพัฒน์และคุณภัทร์ศรัณย์เริ่มอยากใช้ชีวิตสบายๆ ในวัยเกษียณจึงได้เลิกกิจการยี่ปั๊ว แต่ลูกๆ ยุให้ทำร้านอาหารพ่อกับแม่จะได้ไม่เหงา และเป็นโอกาสจะได้โชว์ฝีมือแม่ด้วย จึงได้เกิดเป็นร้าน “ธนา” ทุกวันนี้
และแน่นอนว่าลูกๆ ทั้งสามที่ยุให้พ่อกับแม่เปลี่ยนอาชีพในวัย 60 ร่วมแรงร่วมใจกันสนับสนุนเต็มที่ ลูกชายที่จบการตกแต่งภายใน รับหน้าที่เปลี่ยนโฉมห้องแถวร้านค้าส่งให้กลายเป็นร้านอาหารทันสมัย บรรยากาศน่านั่งและใช้งานได้จริง ลูกอีกคนที่ทำงานด้านกราฟิกดีไซน์รับหน้าที่ออกแบบและผลิตเมนูของร้าน ส่วนลูกสาวคนโตมาช่วยวางระบบการเงินของร้าน และทุกคนผลัดกันมาช่วยพ่อกับแม่ดูแลลูกค้าในวันหยุดจากงานประจำ
เสน่ห์อีกอย่างของร้านนี้คือ ไม่ว่าจะวันเวลาไหน ลูกค้าจะได้รับบริการเหมือนคนในครอบครัวจากเจ้าของร้านทั้งสองเสมอ และจากการที่ทำร้านอาหารแบบพอดีตัวไม่เกินกำลัง ไม่เหนื่อยเกินไป ร้านธนาจึงเน้นที่คุณภาพและรสชาติอาหาร เปิดบริการเฉพาะเวลา 11.00-16.00 น. เท่านั้น และหยุดทุกวันจันทร์ เพื่อให้เจ้าของร้านยังมีเวลาไปเดินออกกำลังในสวนรมณีนาถทุกๆ เย็น
อาหารของหม่าม้า (แม่) จึงย้ายจากครัวของบ้าน มาให้นักท่องเที่ยวและคนทั่วไปได้ชื่นชมด้วยเหตุนี้