HAPPENING BKK
NLINE MAGAZINE
×
คุยหลังไมค์ กับดีเจเกศ - เกศริน วิโรจน์ชูฉัตร จากกรีนเวฟสู่บทบาทใหม่
by ซัมเมอร์
20 ก.พ. 2566, 20:20
  2,594 views

“สวัสดีค่ะ ทักทายกันเป็นประจำตีสามถึงตีห้า สองชั่วโมงสำหรับการส่งเพลงเพราะๆ เติมพลังให้คุณค่ะ ดีเจเกศรินที่กรีนเวฟ เพลงดีๆกับความรู้สึกดีๆค่ะ” 

น้ำเสียงหวานใสฟังแล้วสบายใจของดีเจเกศริน วิโรจน์ชูฉัตร เป็นเพื่อนเราทุกเช้าตั้งแต่หลายคนอยู่ชั้นประถม จนขับรถไปทำงานเองในวันนี้ เป็นเวลาถึง 32 ปีแล้ว ตั้งแต่ยุคแผ่นเสียงไวนิล เทปคาสเส็ท ซีดี มาจนถึงไฟล์ดิจิตอล เราจะมาชวนเธอรีไวด์เทปกลับไปสู่ปี 1990 จากจุดเริ่มต้นที่คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จนถึงปัจจุบันและอนาคต...

Dj Ked Greenwave“เรียนเอ็มซี (วิทยุโทรทัศน์) ก็จะมีทำรายการต่างๆ ข่าว สารคดี เพลง ไฟนอลโปรเจคต์ ออกอากาศใต้ตึกก็จะเหมือนจัดวิทยุหนึ่งรายการมีข่าว สารคดี มีเพลง เหมือนเราเป็นดีเจ เปิดเพลงแล้วก็พูด แต่ไม่มีสอนวิชาดีเจในหลักสูตร เกศเป็นคนฟังวิทยุ เพราะแต่ก่อนเราชอบฟังเพลงแต่ว่าไม่ได้มีเงินซื้อเทปทุกชุดก็จะฟังจากวิทยุ ฟังดีเจ ชอบเพลงไหนก็อัดจากที่ดีเจเปิด เป็นจุดเริ่มต้นของการฟังเพลง” 

พอเรียนจบ เธอก็สมัครงานดีเจ “เพื่อนบอกว่าเอไทม์เปิดรับสมัคร ก็อยากทำ อยากเป็นดีเจก็ส่งเทปไปสมัคร ดีเจรุ่นเกศ เริ่มจากการอัดเทปส่งเข้ามาก่อน ตอนนั้นก็ยังไม่ได้รู้จักกับพี่ฉอดเป็นการส่วนตัว ส่งเทปแล้วพี่ตู๋ โศรยา โอสถานนท์ เป็นคนฟังก่อน เพราะจะมีคนส่งมาเยอะมาก แล้วก็ดึงไปส่งพี่ฉอดที่เป็นเฮดใหญ่สุด เขาฟังแล้วเรียกเข้าไปคุย หลังจากคุยแล้วรับก็ยังไม่ได้จัด ยังต้องทำเทป ให้พี่ฉอดกับพี่ตู๋ ช่วยกันเกลาจนแบบลงสนามจริงได้ก่อน ทำเทปเหมือนจัดรายการทุกวันเป็นการบ้านเล้วเข้าออฟฟิศ ฟังจนจัดได้ลงสนามได้ สนามแรกยังทำเทปส่งสถานี ออกอากาศจริง ชั่วโมงเดียวไม่ได้จัดสด จากนั้นพออยู่ตัว ก็ไปจัดสดครั้งแรกที่บัสซาวด์ที่ออกอากาศบนรถเมล์”

ในยุคต้น 90s นั้น ดีเจยังเปิดเพลงจากแผ่นเสียงไวนิล  “แต่ก่อนเริ่มต้นที่เป็นดีเจ ก็จะต้องมีอุปกรณ์มากมายโดยเฉพาะเรื่องของแผ่นเสียง แล้วแต่ก่อนรายการแต่ละรายการไม่ใช่ฟอร์แมตสเตชั่น ไม่ใช่คลื่นเดียวทั้งหมดแบบกรีนเวฟ จะเป็นสถานียี่สิบสี่ชั่วโมง แล้วแต่ใครประมูลได้ เช่น เอไทม์สามชั่วโมง ดีเจก็จะอยู่ที่สถานีต่าง ๆ มีตู้เหล็กเก็บแผ่นของแต่ละบริษัทที่สถานี เราก็ไปก่อนเวลา เลือกแผ่นแล้วหอบหิ้วไปห้องจัด การใช้แผ่น การเปิดเพลง ตั้งเพลง ต้องตั้งให้ถูกไม่งั้นหัวเพลงขาดหาย หรือแผ่นสกปรก ก็จะตกร่องร้องซ้ำอยู่อย่างนั้น พอจัดเสร็จ ก็ต้องไปเก็บในตู้ เพราะจะมีคนใช้ห้องต่อ วุ่นวาย แต่สนุก” 

“ดีเจยุคแรกที่เกศมาทำก็คือนึกภาพว่าเป็นวันแมนโชว์ ไม่มีผู้ช่วยไม่มีใครใด ๆ ทั้งสิ้น เราอยู่ในห้องจัดรายการคนเดียวเลย เวลาเปิดทุกสิ่งก็จะมี เปิดเพลงจากเทิร์นเทเบิลสองเครื่องสลับกัน เพลงนี้จบขึ้นเพลงนี้ ถึงเวลาโฆษณาเราก็ต้องหันไปเปิดเทปรีลใส่สปอตโฆษณา ถึงเวลาที่จะเปิดสารคดีคั่นรายการ เราก็ต้องหันไปที่เทปรีลอีกเครื่องหนึ่งอย่างนี้ คือจะต้องต่อเนื่องกันไม่ให้รายการมีเดดแอร์ เพราะฉะนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นคือในสองชั่วโมงหรือสามชั่วโมงที่เราจัดรายการอยู่นี่เราจะไปไหนไม่ได้เลย เราต้องอยู่เฝ้า ถ้าจะเข้าห้องน้ำก็ต้องอาศัยความว่องไว เปิดเพลงยาว ๆ ทิ้งไว้แล้วก็รีบไป เพลงที่เราใช้ประจำคือชีวิตสัมพันธ์ มันยาวดี (หัวเราะ) ก็เปิดทิ้งไว้ รีบวิ่งไปห้องน้ำแล้วก็รีบกลับมาต่อ อย่างที่บอกว่า การส่งรายการให้ต่อเนื่องเป็นสิ่งสำคัญ ต้องไม่มีเดตแอร์ ถ้ามีเดตแอร์ปั๊ปรายการมันก็จะดูไม่โอเค เพราะฉะนั้นทุกอย่างมันต้อง...ฟื้บ... เปิดไมค์พูดเปิดเพลงนี้ เพลงนั้นต่อ เปิดโฆษณา ปุ๊ปปั๊ปต่าง ๆ นานา”

ของสุดคลาสสิกอีกอย่าง ก็คือเทปรีล “โฆษณาอยู่ในเทปรีล ที่มันจะเป็นม้วนใหญ่ ๆ แล้วมีเครื่องเล่นเทปรีล สปอตจะอยู่ในนั้น สมมุติโฆษณาหนึ่งเบรกมีเจ็ดตัว พรุ่งนี้ลูกค้ามาใหม่ต้องการยิงเป็นตัวที่สอง ต้องรื้อใหม่หมด ร้อยใหม่หมดเป็นความยากลำบากของการจัดรายการยุคแรกที่ทุกอย่างเป็นแมนน่วล ก็จะมีต่าง ๆ นานา มากมายที่เป็นอุปสรรค”

“พอต่อมา ก็เริ่มสบายขึ้นโดยเปลี่ยนมาใช้ซีดี ไวนิลก็จะหายไป แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือต้องมีที่เก็บ ข้างหน้าเราก็เต็มไปด้วยแผ่น ต้องจำว่า อยู่เบอร์นี้ แทรคนี้ ต้องจำ มีทักษะที่จะหยิบมาเปิดให้ทันโดยเฉพาะคนขอเพลงหน้าไมค์ อย่างสปอตเปลี่ยนมาในเทปคาสเซต หนึ่งตัวหนึ่งสปอต หนึ่งเบรกต้องเรียงให้ถูกลำดับ แล้วกรอกลับ ไม่งั้นคนที่มาใช้ต่อจะเป็นเดตแอร์ ไม่มีเสียงสปอตออกมา”

“จากยุคซีดี ก็จะเริ่มสบายขึ้น เริ่มเป็นยุคที่ดิจิตอลเริ่มเข้ามา เพลงจะถูกใส่เป็นไฟล์เสียงลงคอมพิวเตอร์ เรามีหน้าที่ดึงเอามาใช้ แต่ยังเป็นแมนน่วลที่เราดึงเพลงเอง สิบเพลงช่วงนี้ มีคนฟังขอก็แทรกเข้าไป สปอตจะอยู่ในหน้าจอหนึ่งหน้า”

“ตัดภาพมาที่ปัจจุบันนี้ทุกอย่างมันถูกร้อยเรียงอยู่ในคอมพิวเตอร์เครื่องเดียวเลย ไม่ว่าจะเป็นสปอตโฆษณา เป็นเพลง ยิงสปอตโฆษณาปึ๊ป เอ้า เพลง หนึ่งสองสามสี่ ปั๊ป มีดรอพอิน ที่คล้าย ๆ สารคดีนี่แหละเดี๋ยวนี้เราเรียกว่าดรอพอิน ทุกอย่างมันร้อยเรียงจะวิ่งไปไหนครึ่งชั่วโมงก็ได้ไม่เป็นไร คอมพ์มันก็รันไปให้เราต่อเนื่อง สมูทมาก ๆ เลย เราจะพูดเราก็กดหยุด เปิดไมค์ พูด ปึ๊ป กดเน็กซ์ ต่อไปได้ทันที ความสะดวกสบายมันเกิดขึ้นผิดจากแต่ก่อนนี้มากเลยทีเดียว ยุคเปลี่ยนผ่านของอนาล็อกมาดิจิตอลสบายขึ้นแล้วก็มีผู้ช่วย สมัยก่อนกรีนเวฟนี่ดีเจต้องอ่านข่าวเองด้วยนะคะ”

“อีกเรื่องหนึ่งที่วิทยุยุคก่อนกับยุคนี้ต่างกันอย่างสิ้นเชิง ก็คือจินตนาการที่มีต่อตัวดีเจ สมมุติเราเป็นฝั่งผู้ฟัง ดีเจจัดรายการไป ภาพดีเจในจินตนาการของเราก็แล้วแต่เราจะฟังเสียงของเขา แล้วเราก็นึกเอาเองว่าเขาน่าจะเป็นอย่างนี้ เขาน่าจะผมยาว เขาน่าจะอบอุ่นขนาดไหน เราก็จะนึกคิดไปตามจินตนาการที่เราได้ยินเฉพาะเสียง แต่ปัจจุบันเทคโนโลยีไปไกลถึงขนาดมีกล้องอยู่ตรงหน้าดีเจ ไม่ต้องจินตนาการแล้วว่าตอนนี้ดีเจทำอะไรอยู่ เปิดแอพก็แทบจะเห็นทุกอิริยาบถของดีเจที่อยู่ในห้องจัดรายการ แบบนั้นเลย”

“ปัจจุบันคือทุกอย่างมาในคอมพิวเตอร์เลย เป็นไฟล์ถ่ายลงไปคอมพ์ สะดวกมาก เราก็เพียงแต่จัดเพลงในหมวด เอ บี ซี หมวดเอชเป็นเพลงเก่ายุคเก้าศูนย์ ตั้งแคทากอรี่ มันจะแรนด้อมใส่เข้าไป ตรงไหนอยากเปลี่ยนก็รีเพลสไปได้ ง่ายสุดเลย”

“เรื่องที่คุยส่วนใหญ่ไม่ต้องเตรียมล่วงหน้า บางทีจากคนฟัง จากข้อความที่ส่งเข้ามา ข่าว อัพเดทเรื่องที่เป็นประโยชน์ เรื่องน่ารู้ที่เจอ บางทีก็ตามโซเชียล เรื่องนี้น่าเล่า น่ารักดีก็หยิบเอาไปเล่า ถ้าเป็นอัพเดทข่าวคราวก็เป็นแบบ วันนี้ฝุ่นเยอะขนาดไหน กิจกรรมดีๆ ที่ไหน แต่ละวันจะไม่เหมือนกัน”

สำหรับใครที่อยากสมัครเป็นดีเจรายการวิทยุ โอกาสยังเปิดกว้างเสมอ แม้จะมีสื่อใหม่ ๆ ออนไลน์ออกมา ก็ไม่ได้ทำให้วิทยุหายไป... “สมัยนี้ คนที่อยากเป็นดีเจก็ยังคล้ายกัน อาจจะเปลี่ยนเป็นส่งไฟล์เสียงเป็นอะไร ส่งโปรไฟล์เข้ามา บริษัทสนใจก็เรียกมาทำเทปในสตูดิโออัดรายการจริงๆ คุณภาพอะไรก็จะดีกว่าแต่ก่อน แต่เริ่มต้นคงไม่ต่างกัน คงต้องทำให้เห็นว่า สมมุติเราโนเนมอยากจัดรายการ สิ่งที่เขาจะรู้จักเราคือส่งตัวอย่า งถ้าเซเล็บมาจัด อันนั้นไม่ต้อง เขามีโปรไฟล์อยู่แล้ว อาจจะเรียกมาดึงเรตติ้ง มาลองทำเทปลองจัดดู ไปรอดก็จัดต่อ มีหลายวิธีที่จะเข้ามาจัดรายการในปัจจุบัน ถ้าเป็นยุคที่เกศเป็นดีเจ ไม่มีเซเล็บดารา ยังเป็นยุคของคนที่จัดรายการที่อยากจัดรายการจริงๆ มาสมัคร ค่อยๆ ทำความรู้จักกับคนฟังไป แต่ปัจจุบัน เป็นดารามาจัด ของเอไทม์ก็มีเยอะ”

“ถ้าพูดถึงยูทูปติ๊กต็อก จะมีผลต่อเจนใหม่ที่ไม่ฟังวิทยุ แบบมีเพลย์ลิสต์ เปิดจากมือถือ ก็ไม่ใช่ทาร์เก็ต ถ้าเป็นคนที่ชอบฟัง ก็จะฟังเรื่อย ๆ โซเชียลไม่ค่อยมีผล โดยเฉพาะคนที่ขับรถ จะเป็นกลุ่มคนฟังที่เหนียวแน่น เพราะรู้สึกเหมือนมีเพื่อนไปด้วย เขาชอบฟังดีเจพูด ฟังเพลงที่ดีเจเลือกให้ เพลงเดียวกัน เราเปิดเองกับดีเจเปิดให้ จะมีความแฮปปี้ที่ต่างกัน กลุ่มนี้ จะเป็นคนที่ชอบฟังวิทยุ”

“เทียบตั้งแต่ยุคที่เราจัดใหม่ๆ ก็มีคนฟังเรา ณ วันแรกจนถึงวันนี้ บางคนจากประถม ผูกคอซอง เรียนมหาวิทยาลัย ไปต่อเมืองนอก เป็นผู้ช่วยอาจารย์ กลับมาเป็นอาจารย์ที่จุฬา แต่งงานมีลูกสองคนก็ยังฟังอยู่ มีสายสัมพันธ์ต่อเนื่อง กลุ่มใหญ่พอสมควรทีเดียว บางคนมาหาที่สถานีตั้งแต่ใส่ขาสั้น จนตอนนี้โตใส่สูทเป็นผู้บริหารที่รถไฟฟ้า แล้วก็เจนใหม่ๆ ลูกของคนฟังที่ฟังเราอยู่ แล้วลูกก็ฟังตามแม่ ก็จะรู้จักดีเจของกรีนเวฟ และมีเจนใหม่ที่ชอบเพลงแนวอีซี่ ก็จะมาฟัง ปัจจุบันเราก็ไม่ได้เล่นเพลงเก่าแต่อย่างเดียว ยังฟังได้ทุกยุคทุกสมัย แล้วเพลงกรีนเวฟก็จะมีบุคลิกคือดีเจต่อเพลง ก็จะเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของกรีนเวฟมาตลอด”

และผู้ฟัง ก็คือผู้สร้างเรื่องราวประทับใจมากมายตลอดชีวิตการทำงานของดีเจเกศ “บางทีแค่เขาส่งข้อความเข้ามา แค่บอกให้เรารู้ว่าเพลงของเราช่วยเยียวยาเขาได้ แค่นี้ก็ประทับใจแล้วสำหรับคนเป็นดีเจ เพลงนี้ช่วยชีวิตเขาเลย บางที การไปมีตติ้ง กรีนเวฟมีกิจกรรม ให้คนฟังได้เจอกันบ่อย ๆ จนเกาะกลุ่มก้อนเป็นเพื่อนรักกันไปเลย จุดเริ่มต้นเกิดจากกิจกรรมกรีนเวฟ เป็นแฟนกันก็มี เป็นความประทับใจที่ค่อย ๆ มาทีละเล็กทีละน้อย”

นอกจากงานจัดรายการวิทยุ ดีเจแม่เกศยังมีธุรกิจส่วนตัวที่เริ่มมาจากการเรียนของลูก ”เกศทำโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษ แล้วก็เพิ่มตามความต้องการผู้ปกครองก็สอนวิทย์ คณิต อังกฤษ ไทย สอนเสริมด้วย สำหรับเด็กที่ไม่เข้าใจในห้องเรียน และทำคอร์สออนไลน์ พูดภาษาอังกฤษ เน้นสปีกกิ้ง ตั้งชื่อว่า สปีกเอฟวรี่เดย์ ทุก ๆ วัน คอนเส็ปต์คือต้องฝึกทุกวันถึงจะเห็นผล ผู้ปกครองตอบรับดี เพราะเห็นว่าลูกเปลี่ยนไปในทางที่ดี เกศเน้นว่า เรียนน้อย ๆ แต่เรียนบ่อย ๆ ทุกวันสามสิบนาที มีทีชเชอร์โทรมา หรือซูมก็ได้ คุยเป็นเพื่อนกับเขา เพราะเด็กไทยทุกวันนี้ ไม่ว่าเรียนโปรแกรมอะไรจะเคอะเขิน ไม่กล้าพูดก็จะเสียเปรียบ ไม่พูดก็จะไม่มีโอกาสพูด คอร์สนี้ทำให้เขามั่นใจ ไปอยู่กับเพื่อนกล้าตอบ ในห้องเรียนกล้ายกมือ ก็ได้ผลจริง ๆ คอร์สนี้เลยเป็นคอร์สที่ ผู้ปกครองตอบรับกลับมาว่าโอเคมาก โรงเรียนชื่อ the lingo อยู่ถนนวัชรพล เบอร์ติดต่อ 0814214636 line djkedsarin  ค่ะ”

Lomwongmunหลายคนคงได้ข่าวมาแล้วว่า ดีเจเกศกำลังจะอำลาตำแหน่งประจำในกรีนเวฟ แต่เธอคงไม่ทิ้งผู้ฟังไปไกล “เกศก็กำลังจะเกษียนจากหน้าที่ประจำที่ทำมา 32 ปี แต่ถ้ามีคอนเทนต์ที่ลงตัว มีแนวที่ไปกันได้ก็อาจจะวนๆ จัดรายการ ...”
และสุดท้ายเธอก็ยังไม่แขวนไมค์ เพราะเพิ่งประกาศข่าวดีกับแฟน ๆ ไปทางโซเชียลมีเดียถึงการหลับมาจัดรายการบนแอปพลิเคชั่นกับ www.lomwongmun.com (ล้อมวงมันส์) โดยเริ่มครั้งแรกเมื่อวันที่ 17 ก.พ. ที่ผ่านมา
ใครคิดถึงดีเจเกศ ตามไปได้เลยที่ ล้อมวงมันส์ Fun Network ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น

IOS ที่  https://apps.apple.com/.../%E0%B8%A5-%E0.../id1670533407...

แอนดรอยด์  https://play.google.com/store/apps/details...

 

ABOUT THE AUTHOR
ซัมเมอร์

ซัมเมอร์

เขียนหนังสือ แปลหนังสือ เป็นคอลัมนิสต์พลอยแกมเพชร หลงไหล K-pop และติดตามวงการแฟชั่น

ALL POSTS