r e c o r d o f f e e ร้านคาเฟ่แผ่นเสียงย้อนเวลาของคุณอลงกต
หนังสือขึ้นหิ้งเบสท์เซลเลอร์ยุคนี้ หลายเล่มเป็นแนวร้านมหัศจรรย์ อย่างปาฏิหาริย์ร้านชำของคุณนามิยะ, ร้านขายเวลา หรือว่าแมวนักพยากรณ์แห่งร้านกาแฟจันทร์เต็มดวง..ไม่นึกว่าวันหนึ่งจะเดินไปเจอร้านลับแบบนี้ ในใจกลางกรุงเทพ...
ร้านย้อนเวลาของคุณอลงกต มุมพักผ่อนที่ชวนให้นึกถึงความสุขจากอดีตและสร้างความหวังในอนาคต มีชื่อจริงว่า r e c o r d o f f e e เป็นร้านที่มีแผ่นเสียง กาแฟ และเรื่องราวมากมาย...
อลงกต “บุ๊ค” เอื้อไพบูลย์ เป็นนักดนตรี ผู้กำกับภาพยนตร์ โฆษณา มิวสิกวีดีโอ และนักสะสมแผ่นเสียง ในยุคที่ผู้คนทั่วไปฟังเพลงจากสตรีมมิ่ง จนซีดีและแผ่นเสียงเหมือนจะล้มหายตายจาก โลกที่หมุนเร็วเกินไปกลับเหวี่ยงให้คนรุ่นใหม่อยากลองใช้ชีวิตช้าลง มีความสุขกับการเสาะหาและใช้เวลานั่งฟังเพลง แล้วพวกเขาก็พบว่า แผ่นเสียงให้อะไรมากกว่าสตรีมมิ่ง...มันมีดีเทล...
กาแฟเกชาที่กำลังดริปช้า ๆ ด้วยฝีมือบาริสต้าหนุ่มน้อยส่งกลิ่นหอมอวลจนเราต้องเปิดเมนูเลือกเครื่องดื่มก่อนเริ่มคุยเรื่องแผ่นเสียง เครื่องดื่มตัวท็อปเกาะชาร์ทของที่นี่มีชื่อตามเพลง Rock bottom ของ UFO เป็นกาแฟด้านล่าง ด้านบนเป็นนม ความเข้มข้นจะหนักด้านล่าง, บุษบา เพลงของ Moderndog กาแฟผสมส้มหรือเลม่อน คือความซ่าที่ลงตัว, Santa Lucia เพลงประจำมหาวิทยาลัยศิลปากร มัจฉะลาเต้บนสตรอเบอรี่ไซรัป ออกมาเหมือนสีธงชาติอิตาลี และ Billie jean ของ Michael Jackson เป็น สตรอเบอรี่โซดา นอกจากนี้ยังมีนิวเอนทรี่รสชาติแปลกใหม่ที่บาริสต้าคัดเลือกเมล็ดมาให้ลองชิม อย่างเกชาถ้วยนี้ชนะประกวดระดับประเทศ มาจากเมืองน่านมีกลิ่นหอมเหมือนส้มผสมดอกมะลิ ส่วนของกินเล่นและกินจริงแนะนำโทสต์กะเพรา (เมนูแนะนำของทางร้าน), โทสต์ไข่มายองเนส, สปาเกตตี้เมนไทโกะ และครัวซองต์ไส้ราสพ์เบอรี่
ระหว่างรอกาแฟกับโทสต์ เราชวนคุณเจ้าของร้านคุยด้วยคำถามที่ว่า - อะไรทำให้เพลงจากแผ่นเสียงแตกต่าง
“แผ่นเสียงคือการสร้างมิติ คือการบันทึกเสียงจากความจริง คืออนาล็อก สมมุติว่าเราพูดออกมาเสียงจะมีน้ำหนัก มีมิติ พุ่งเข้าหาเรา เดินทางวิ่งเข้าหาเรา ในขณะที่ซีดี เสียงจะกระจายซ้ายขวา สตรีมมิ่ง เสียงจะอยู่แค่รอบหัวเราเพราะเขาดีไซน์ออกมาอย่างนั้น แต่แผ่นเสียง มิกเซอร์ คนที่เอาดนตรีมารวมกันน่ะ จะแยกชิ้นส่วน ทำให้การบันทึกเสียงของอนาล็อกมันจริง มันไม่โกหก บันทึกแยกเป็นส่วนสัดยังไงมันก็จะเป็นอย่างนั้น นักร้องคนเดียวกัน อัดต่างแบบก็จะไม่เหมือนกัน สตรีมมิ่ง มิกซ์ไม่เหมือนกับอนาล็อก”
เขาหยิบแผ่น LP สีดำกับแผ่นสีทองของลิซ่า แบล็คพิงค์ มาเปรียบเทียบเป็นตัวอย่าง “ลิซ่าทำแผ่นเสียง ลองฟังได้ แยกมิติแบบเสียงไม่เหมือนในสตรีมมิ่งเลย อนาล็อกจะมิกซ์ให้เสียงเหมือนคอนเสิร์ต มันจะมีน้ำหนักตรงนี้ ตรงนี้ เฮิร์ทซ์ของเสียงเนี่ย สมมุติว่ากลองเบสต่ำ เสียงตุ้บ เสียงเบสความถี่ต่ำ สมมุติมันวิ่งมาเจอกันในความถี่เดียวกันในจุดหนึ่ง ความเป็นดิจิตอลมันจะรวมเสียงนั้นทันที มันจะไม่แยก เพราะมันไม่รู้จัก แต่อนาล็อก มันไม่ได้เป็นเฮิร์ทซ์ มันแยกเสียง มันไม่สนใจว่าคุณจะเป็นความถี่เดียวกันหรืออะไรก็ตาม มันแยก มันอัดจากความจริง มันไม่ได้ผ่านการรวมดาต้า มันผ่านไมโครโฟนมันลงหัวเข็มเลย มันมีการบันทึกที่เข้าไปที่แผ่นเสียงโดยที่ไม่มีการใช้คอมพิวเตอร์เข้ามายุ่ง สมัยก่อนใช้แม็กเนติก ใช้หัวเทป ยิงเข้าเครื่องผลิตไวนิล”
“ลิซ่าในไวนิลต้องมานั่งมิกซ์ใหม่ เป็นฟอร์ไวนิล ถ้าเป็นสตรีมมิ่ง ก็จะมิกซ์แฟลทเป็นฟอร์คอมพิวเตอร์ ลิซ่ามีสองอิชชู่ สีดำวายจีทำ พอเข้าบิลบอร์ด ก็ทำแผ่นสีทองขึ้นมา เป็นแผ่นที่ลิซ่าอยากจะทำตั้งแต่แรก ลองใช้หูตัวเองตัดสิน ว่าลิซ่าที่ผ่านไวนิลเป็นยังไง หูตัวเองไม่เคยหลอก”
“ทุกวันนี้โรงงานจากอเมริกาคุณภาพเสียงจะดีมากเพราะว่าเค้าใส่ใจ ทำไมลิซ่า บีทีเอสถึงต้องไปทำที่อเมริกา เพราะว่ามันจะได้เสียงที่ดีที่สุด เราเชื่อในการเสพของคนเกาหลี คนที่เขามีอารยะในเสียงเพลง บีทีเอส ทำไวนิล เจ็ดคนมาเป็นแผงเสียงชัดมากแยกได้ทีละคนต้องลองฟังด้วยหูตัวเอง เขาสร้างมิติ เพราะเราเชื่อว่า กว่าจะเป็นไวนิลกว่าจะเป็นอะไรได้ต้องผ่านหูทองมาเป็นร้อย ๆ คน เมืองนอกไม่ปล่อยงานแบบไม่ดีออกมาให้คนเสพ เพราะไวนิลไม่ดีมันฆ่าวง จะแบบ เสียงแค่นี้ทำไวนิลทำไม”
“ร้านเราจะเลือกแต่แผ่นจากอเมริกา อังกฤษ ญี่ปุ่น เพราะเราเชื่อว่าเขาใส่ใจ แล้วลูกค้าที่ซื้อไปแฮปปี้หมด ลูกค้าบอกว่า โอ้โหเสียงมันดีกว่ามาสเตอร์ใหม่ๆ”
ถ้าเป็นแผ่นเพลงส่งให้ดีเจตามสถานีวิทยุเปิด ก็จะยิ่งน่าสะสมขึ้นไปอีก “ถ้าเมื่อไหร่มีแผ่นดีเจมาขายให้รีบซื้อ เพราะแผ่นดีเจจะละเอียด แทร็คจะเยอะกว่า วิธีอัดจะใช้เวลาเยอะกว่า เรียกว่าฮาล์ฟสปีดเหมือนกับเปิดเพลงให้ช้าลงเพื่อจะได้รายละเอียดของเพลงมากขึ้น พอมารวมเป็นเพลงเสียงมันก็จะเต็มไปหมด แน่นไปหมด เขาเรียกว่า ฮาล์ฟสปีด แผ่นฮาล์ฟสปีดจะแพงกว่านิดนึง ซึ่งคนฟังจะรู้ได้เอง ต้องลองมาฟัง”
เมื่อถามถึงห้าอันดับแผ่นเสียงที่คุณเจ้าของร้านชอบมากที่สุด เขาหยิบมาแปดแผ่นแล้วเล่าด้วยน้ำเสียงมีความสุขว่า...
“แผ่นแรกเลย Corinne Bailey Rae ที่ออกปี 2006 เพราะชอบเพลงYou’re your records on ที่เธอร้อง ชอบมิวสิควีดีโอมาก ที่เป็นแก๊งค์สี่ห้าหกสาวขี่จักรยานในทุ่งน่ะ แล้วปรากฏว่าเพลงนี้ได้เข้าชิงแกรมมี่อวอร์ดส์กับบริตอวอร์ดส์ แล้วมันเพราะมาก จนอยากได้อะไรเป็นที่ระลึก ก็ไปเจอที่อังกฤษ ซื้อที่ซาร์วี่ย์ เป็นเรคคอร์ดในลอนดอน ได้มาสิบสี่ปอนด์ ปรากฏว่าตอนนี้เพลงนี้มันกลับมาดังเพราะว่ามีนักร้องฮิพฮอพมาร้องใหม่มาคัฟเวอร์แล้วดังพอมันดังแผ่นนี้ก็เลยเป็นที่เสาะหา ทีนี้มันผลิตน้อยมากก็เลยมีราค าอีเบย์ตอนนี้เคยมีคนบิดไปถึงสามพันเหรียญ ก็คือหนึ่งแสนบาท แผ่นนี้เป็นแผ่นที่ภูมิใจ มีความสุขในการได้ถือมันแล้วก็อวดมันมาก”
“อันที่สอง calito’s way เป็นแผ่นที่เอาไว้แจก นี่สังเกตจะไม่มีเลเบิลของค่ายเพลงจะมีแต่หนัง เป็นสเปเชี่ยลเอดิชั่นแจกรอบสื่อมวลชน และเพลงเหล่านี้น่าจะดังมากแต่เป็นเพลงติดลิขสิทธิ์ ไม่สามารถขายได้ เป็นเพลงใช้ในหนังอย่างเดียว เราไปเจอที่ลอนดอน ที่แคมพ์เดน มันใส่ตะกร้าอยู่ไปเจอในราคาที่ถูกมาก คาลิโต้เป็นหนังยุค 70 หนังเจ้าพ่อ แผ่นนี้ก็เป็นแผ่นที่เราภูมิใจอีกอันหนึ่ง”
“Dee Gees แผ่นนี้ของ Foo Fighters เอาเพลงของบีจีส์กับแอนดี้ กิ๊บส์ มาคัฟเวอร์ ลงยูทูปปรากฏว่ายอดวิวถล่มทลาย ก็เลยเอาเพลงที่บันทึกแสดงสดมาลงไวนิลเท่านั้น ไม่มีซีดีไม่มีเทป แล้วผลิตน่าจะหลักร้อย ห้าร้อยแผ่นทั่วโลก เราได้มาในความฟลุกมากกดมาได้ แล้วโทนี่ ฮอบกิ้นส์ มือกลอง Foo Fighters ก็ตายไป ราคาแผ่นนี้ก็เลยกระฉูดหายากกันสุดๆ”
“ศรีไสล เก็บรัก อันนี้เป็นเพรสแรกของน้าตุ้ม (ศรีไสล สุชาติวุฒิ) น้าตุ้มให้เรากับมือ เป็นเพรสแรก คือน้าตุ้มผลิตเพื่อจะโปรโมทเอง สมัยยังไม่มีค่ายเพลง ปรากฏว่าเพลงนี้ดัง มีไม่อยากให้โลกนี้มีความรัก ถ้าฉันจะรัก เก็บรัก ฟ้ามิอาจกั้น เพลงดังๆ ทั้งนั้นเลย อันนี้เป็นอีกอันที่หาค่าไม่ได้แล้วสำหรับแผ่นนี้ น่าจะไม่มีใครขายสำหรับเพรสแรก”
“Garbage เป็นยุค 90s ชอบวงนี้มาก Stupid Girl เอาอิเลคโทรนิคส์มาผสมกับอัลเทอร์เนทีฟ ช่วงนั้นอัลเทอร์เนทีฟกำลังฮิต ปรากฏว่าซาวด์นี้เราฟังแล้วตื่นเต้นมาก อยากได้ไวนิลมาก หายากมาก ก็ไปบิดมา ตื่นเต้นภูมิใจมาก”
“Prince ปี 1995 ออกอัลบั้มโกลด์ ที่ตอนนี้เป็นแรร์ไอเทมไปแล้ว เพรสแรกมีปั๊มบอกเลขที่ซึ่งต้องขุดหาเลย น่าจะไปที่สองพันเหรียญแล้ว ทำรีอิชชู่ไม่กี่แผ่นในวันเดียวก็โซลด์เอาท์”
“Stardust Revue เป็นวงญี่ปุ่น ชื่อเพลง Thank You… it’s a thank you ที่สาว สาว สาว เอามาคัฟเวอร์ ซึ่งเราหาเพลงนี้มานานมาก หม่อมรุจิยาภาไนท์สปอตเปิดทุกวัน สมัยก่อนจะไม่มีอินเตอร์เน็ตเราไม่สามารถรู้ได้ว่าเพลงนี้ปกหน้าตาเป็นยังไง ภาษาญี่ปุ่นก็อ่านไม่ออก ในที่สุดเราก็ไปเจอที่ญี่ปุ่น อันนี้ ถูกมาก ก็รีบตะครุบมาเลย เป็นเพลงที่เราฟังตั้งแต่มอสองมอสาม สมัยอยู่สาธิตปทุมวันก่อนเข้าเตรียม เราก็จะนึกถึงบรรยากาศสมัยมอต้นจีบหญิงเตะบอลเริ่มเต้นเบรกแดนซ์ มีความสุขมากแผ่นนี้”
“แผ่นสุดท้าย T Square เมื่อกี้ที่เปิด Resort - Omens of Loveเดอะรีสอร์ท เป็นเพลงที่คนเล่นดนตรีทุกคนต้องฝึกเล่นแล้วเป็นแผ่นที่หายาก ไปเจอที่โอซาก้า ที่ร้านแผ่นเสียงเล็กๆ แห่งหนึ่งซึ่งดีใจมาก เจ้าของเขาบอกว่าห้ามยูขายนะ ห้ามขายต่อนะเพราะเป็นแผ่นแรร์ไอเทม เขามีแค่สองแผ่นแล้วเห็นว่าเราดูเล่นแผ่นเสีย ซื้อแผ่นเสียงแบบตัวแปลกๆ เค้าก็รู้สึกว่าเราไม่ได้เอาไปขายเขาก็ยอมขายเรา ตัวนี้น่าจะหายากมากในตลาดญี่ปุ่น เป็นเพลงที่ดังเพราะคนไทยเอามาทำเปิดรายการ เปิดงานอีเวนท์อะไรแบบนี้”
กว่าจะมาเป็นคอลเลคชั่นแผ่นเสียงที่เต็มไปด้วยเรื่องราว ก็ต้องใช้เวลาสะสมนานนับสิบปี และทุกแผ่นล้วนมีเรื่องราวความทรงจำ แต่ถ้าคุยกันถูกคอ ลูกค้าบางคนก็อาจจะได้แผ่นเสียงดีๆ หายากไปจากที่นี่...
“แบ่งให้คนอื่นเสียดายไหม...บางปกมีหลายแผ่นแบบเดินทางไปทำงานเจอก็ซื้อซ้ำมา หรือต่างกันนิดหน่อยก็ซื้อไว้ ถ้ามีคนที่ชอบจริงๆ ก็แบ่งได้ แต่ร้านนี้ไม่ได้มีไว้ขายแผ่นเสียงจะมีคนที่อยากศึกษาว่าไวนิลคืออะไร ร้านเราโอเพ่น อยากฟังอะไรมาฟัง อยากให้คนที่เข้ามาได้แรงบันดาลใจมากกว่า”
ไม่แปลกเลยว่าเปิดมาไม่นาน r e c o r d o f f e e กลายเป็นที่พักใจ เป็นคอมมูนิตี้ของคนรักแผ่นเสียงเพลงจากฝีมือการเปิดของคุณอลงกตพาคนหลากลายเจนฯ มานั่งย้อนเวลาในที่เดียวกัน
r e c o r d o f f e e - เ ร ค ค อ ร์ ด อ ฟ ฟี่ คาเฟ่แผ่นเสียงที่เสิร์ฟ specialty coffee , เบเกอรี่ ครัวซองต์ dim sum และโทสต์ ตั้งอยู่ใกล้ทางออก 4 MRT หัวลำโพง เลขที่ 95 14-15 ถ. เจริญกรุง แขวง ตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร 10100 โทร. 083 614 4432 เปิด 10.00-19.00 น.ทุกวันเว้นวันอังคาร
เฟซบุ๊ก r e c o r d o f f e e - เ ร ค ค อ ร์ ด อ ฟ ฟี่
PHOTO BY DAE WARUNEE
STORY BY ซัมเมอร์