HAPPENING BKK
NLINE MAGAZINE
×
Céline vs. Celine ประเด็นร้อนจากรันเวย์
by ขเจน
8 ต.ค. 2561, 12:53
  6,368 views

ผิดไหมถ้าดีไซเนอร์คนใหม่จะใส่สไตล์ของตัวเองลงไปเต็มๆ โดยไม่สนใจประวัติศาสตร์ของแบรนด์และงานเก่าๆ ของดีไซเนอร์คนก่อน

        ประเด็นร้อนตลอดสัปดาห์ที่แล้วในโลกแฟชั่นคือการเปิดตัวคอลเลคชั่นสปริง/ซัมเมอร์ 2019 ของ Celine (ที่ตัด accent จาก é ตัวแรกกลายเป็น e เฉย ๆ) โดย Hedi Slimane ดีไซเนอร์คนใหม่(ที่จริง ๆ แล้วหน้าไม่ใหม่) ผู้มาแทน Phoebe Philo ดีไซเนอร์คนเก่าที่ลาออกไป ซึ่งปรากฏว่าเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อื้ออึงถึงการจากไปของความเป็น old Céline เหลือไว้แต่ความร็อคในแบบฉบับ Hedi Slimane คำถามที่ต้องถามคือ นี่มันเป็นความผิดของใคร

 

        ก่อนจะไปสืบหาต้นตอความผิด เรามาพูดถึงแบรนด์ Céline กันก่อน เอาคร่าวๆ พอเข้าใจแบบไม่วิชาการมาก Céline เป็นอีกหนึ่งแบรนด์เก่าแก่ของฝรั่งเศสที่ก่อตั้งขึ้นโดย Céline Vipiana กับสามีในปี 1945 โดยเริ่มต้นด้วยการเป็นแบรนด์รองเท้าเด็กแบบตัดเฉพาะบุคคล ก่อนจะขยับขยายมาทำเสื้อผ้าสำเร็จรูปสำหรับผู้หญิงจริงจัง พร้อมกับทำเครื่องหนังเช่น รองเท้า ถุงมือ กระเป๋า ฯลฯ ลามไปจนถึงการทำน้ำหอมออกมาขายด้วย แต่ความเติบโตทางธุรกิจของแบรนด์ Céline ในระดับโลก น่าจะเกิดขึ้นจริงจังก็หลังจากที่บริษัท LVMH เข้ามาซื้อกิจการ แล้วแต่งตั้งให้ Michael Kors เข้ามาเป็นดีไซเนอร์คนแรก ภาพความเป็นผู้หญิงยุคใหม่ในแบบของ Céline ถึงได้เริ่มติดตาตรึงใจผู้คน ไมเคิล คอร์สทำ Céline อยู่เกือบสิบปีก็ตัดสินใจลาออกไปโฟกัสกับแบรนด์ตัวเองจริงจัง (และน่าจะไปได้ดีเว่อร์เพราะเมื่อเร็วๆ นี้ Michael Kors เพิ่งซื้อกิจการ Versace ไปในราคาเบาๆ 2 พันล้านดอลลาร์) ซึ่งหลังจากนั้น Céline ก็เปลี่ยนดีไซเนอร์อยู่อีกสองคน ก่อนที่ Phoebe Philo ดีไซเนอร์ชาวอังกฤษจะเข้ามารับหน้าที่ดีไซเนอร์ในปี 2008 และทำให้ Céline รุ่งโรจน์อย่างที่ทุกคนเห็นอย่างทุกวันนี้

        การเข้ามาของ Phoebe Philo พูดได้เต็มปากว่ามาปุ๊บก็เปรี้ยงเลย เพราะเธอโชว์คอลเลคชั่นแรกคือ สปริง/ซัมเมอร์ 2010 ก็ได้รับคำชมทันที หนังสือโว้คให้คำจำกัดความงานของเธอว่านำเสนอ “เทรนด์มินิมอลที่คูลสุดๆ” และตลอดสิบปีเต็มที่เธอรั้งตำแหน่งหัวเรือใหญ่ของ Céline ทุกคนยอมรับว่าเธอได้สร้างนิยามใหม่ให้กับการแต่งตัวของผู้หญิง ด้วยการสร้างสรรค์งานในสไตล์มินิมอลแต่ว่าพิถีพิถันในทุกรายละเอียดของการตัดเย็บ โดยไม่ลืมเรื่องประโยชน์ใช้สอยและการเลือกใช้วัสดุที่ดีที่สุด ย้ำชัดว่ารางวัล Designer of the Year ของ British Fashion Council ในปี 2010 กับรางวัล International Designer of the Year จาก CFDA หรือสมาคมแฟชั่นดีไซเนอร์แห่งอเมริกานั้นไม่ใช่รางวัลที่เธอได้มาด้วยความบังเอิญ

 

        สิบปีเต็มที่ Céline นอกจากเสื้อผ้าที่เธอสร้างสรรค์ขึ้น ความมินิมอลแต่ว่าเนี้ยบและคูลสุดของเธอยังลามไปถึงทุกผลิตภัณฑ์โดยเฉพาะกระเป๋าถือสตรีที่ตอนนี้หลายคนที่เป็นแฟน Phoebe กำลังกอดกระเป๋าที่มีกันแน่น เพราะการลาจากของเธอพร้อมกับที่ LVMH บริษัทเจ้าของแบรนด์เลือก Hedi Slimane มารับไม้ต่อนั้น ทำให้ทุกคนหวั่นใจเหลือเกินว่า Céline จะไม่เป็นอย่างที่เป็นมาอีกต่อไป

           เพราะอะไรล่ะ ก็เพราะว่าสไตล์ของ Hedi นั้นชัดเจนว่าคนละทางกับสไตล์ของ Phoebe อย่างรุนแรง ภาพความเป็นร็อคเกอร์ในสีขาวดำที่ Hedi Slimane ทำให้ Saint Laurent เปรี้ยงปร้างสุดๆ ในเวลาเพียงสี่ปีนับตั้งแต่ 2012-2016 ที่เขากุมบังเหียนอยู่ที่นั่น รวมถึงการทำเสื้อผ้าบุรุษสุดสลิมที่สวยมากๆ ในช่วงที่เขาอยู่ Dior Homme ตั้งแต่ปี 2000-2007 คือสิ่งที่ทำให้เขามีแฟนๆ ติดตามอยู่ไม่ใช่น้อย แต่ก็เป็นสไตล์ที่แฟนๆ ของ Phoebe ต้องหวั่นใจไม่น้อยเหมือนกันว่า Céline จะออกมาเป็นอย่างไร

 

          แล้วความหวั่นใจของทุกคนก็เป็นจริง Hedi เริ่มต้นด้วยการเปลี่ยน Céline ให้กลายเป็น Celine (โดยตัด accent บนตัว é ออก) จากนั้นก็ส่งภาพโฆษณาสีขาวดำในสไตล์ของเขาออกสู่สายตาทุกคนทั่วโลก ก่อนตามมาด้วยเสื้อผ้าทั้งบุรุษและสตรีคอลเลคชั่นใหม่ที่เพิ่งเดินกันไปสดๆ เมื่อสัปดาห์ก่อนให้ทุกคนได้รับทราบและเข้าใจชัดเจนว่า Old Céline ได้จากไปแล้วจริงๆ      

          คอลเลคชั่นใหม่ของ Hedi Slimane ที่ Celine ซึ่งในภาพรวมคืองานในแบบที่คนชอบและเป็นแฟน Hedi มาเดิมทั้งที่ Dior Homme และ Saint Laurent  ย่อมจะต้องมีความสุขกันมากที่ดีไซเนอร์คนโปรดกลับมาทำงาน และเตรียมเก็บสตางค์จะไปซื้อกันแล้ว (สำหรับเราส่วนตัวคิดว่า คอลเลคชั่นนี้ของ Celine ไม่มีอะไรใหม่ มันคือสิ่งที่เราเห็นกันมาแล้วจากงานของ Hedi ที่ Saint Laurent) ส่วนใครที่เป็นแฟน Céline แบบเดิมก็ร้องกรี๊ดรับไม่ได้ เสียอกเสียใจกันไปตาม ๆ กัน ถามว่ามันเป็นความผิดของ Hedi หรือไม่ที่ทำงานออกมาแบบนี้ โดยไม่แคร์ว่า Céline เคยเป็นอย่างไรมาก่อน ก็ตอบได้ว่าไม่ผิด ตัวเค้าเป็นของเค้าแบบนี้ และดีไซเนอร์คนหนึ่งมีศักดิ์และสิทธิ์ทุกประการที่จะสร้างสรรค์งานในแบบที่เขาเชื่อ ถ้าจะมองว่าเป็นความผิด เราอาจจะต้องโทษ LVMH มากกว่าที่เลือกดีไซเนอร์คนใหม่มาแบบที่ไม่แคร์แฟนๆ ดีไซเนอร์คนเก่าเอาเลยแบบนี้ได้ยังไง

 

         แต่ถามต่อว่าทำไม LVMH ถึงกล้าทำแบบนั้น ..ก็เพราะเงินไงจ๊ะ ถ้าอยากรู้ว่า Hedi Slimane นั้นมีฐานแฟนคลับที่ใหญ่โตแค่ไหน ก็มองย้อนกลับไปที่ธุรกิจของ Saint Laurent ในช่วงสี่ปีที่เขามานั่งเป็นดีไซเนอร์อยู่ก็ได้ ช่วงปี 2012 ที่ Hedi Slimane เพิ่งเข้ามาทำงานนั้น Saint Laurent มียอดขายอยู่หลักไม่กี่ร้อยล้านยูโร แต่ตอนจะลาออกในปี 2016 ยอดขายของ Saint Laurent กระโดดไปเฉียดหลักพันล้านยูโร และถ้าเอาจากข่าวล่าสุดที่เพิ่งอ่านเจอในเว็บไซต์ WWD ก็เห็นว่ายอดขายนับถึงปี 2017 ของ Saint Laurent น่ะกระโดดไปแตะ 1.5 พันล้านยูโร ซึ่งแบรนด์ยังหวังต่อว่าจะโตไปแตะหลัก 2 พันล้านยูโรในเร็วๆ นี้ด้วย การดึงตัว Hedi Slimane ให้กลับมาทำงานกับ LVMH อีกครั้งที่ Celine (เดิม Hedi เคยอยู่กับ LVMH ซึ่งเป็นเจ้าของ Dior Homme) ก็ไม่ใช่อะไรที่มองยากจนเกินไปว่า นี่คือความทะเยอทะยานครั้งใหญ่ของ LVMH ที่จะทำ Celine ให้กลายเป็นแบรนด์ที่มียอดขายระดับหลายพันล้านยูโรกับเขาบ้าง

         และกล่าวอย่างถึงที่สุด การที่ LVMH ตัดสินใจเลือก Hedi เพื่อสร้างธุรกิจให้เติบโตมันก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ที่เราต้องแปลกใจ เพราะธุรกิจย่อมแสวงหาผลกำไรและการเติบโตที่มากขึ้นเรื่อยๆ ทุกปีๆ คิดง่ายๆ ว่าเราทำงานในบริษัทเป็นมนุษย์เงินเดือน เรายังหวังให้เจ้านายของเราขึ้นเงินเดือนให้เราทุกปีเลย แล้วเค้าจะเอาเงินที่ไหนมาขึ้นให้เราได้ทุกปีล่ะถ้าเค้าไม่ทำยอดขายให้มากขึ้น สร้างรายได้ให้บริษัทมากขึ้น และสร้างผลกำไรให้มากขึ้นตามไปด้วย ความสวยงามของงานออกแบบสุดมินิมอลของ Old Céline อาจจะถูกใจใครหลายคนและก็สร้างผลกำไรให้ LVMH มาแล้วไม่น้อย แต่ถ้า Céline จะถูกลบเลือนจนกลายเป็น Celine ที่มีคนบางส่วนไม่ถูกใจแต่ผลกำไรมหาศาลกว่าแน่ ๆ แล้วทำไมนายหัวของ LVMH อย่าง Bernard Arnault จะไม่ทำ

         โลกเราก็เป็นเช่นนี้เอง..

 

STORY BY ขเจน

 

ABOUT THE AUTHOR
ขเจน

ขเจน

ทำงานเขียนในบริษัทพีอาร์ แต่ว่าบ้าหนังและชอบแฟชั่นจนพาตัวเองออกเดินทางแรดอะราวด์ไปทั่วโลกเพื่อดูหนังและชาบูดีไซเนอร์ที่ชอบ แต่ทุกคนคิดว่าหาเรื่องไปช้อปปิ้งมากกว่า #เอิ่ม

ALL POSTS