นารายาแปลงโฉมเปิดประสบการณ์ช้อปปิ้งแนวใหม่
NaRaYa แบรนด์ไทยฮิตของคนต่างชาติปรับตัวใหม่ขานรับเทรนด์นักช้อปปิ้งยุคไซเบอร์
แม้ว่า NaRaYa แบรนด์กระเป๋าผ้าของคนไทยจะโด่งดังไกลทั่วโลก แต่วันนี้ ก็ได้เวลาต้องปรับตัวเปลี่ยนแนวรบใหม่ให้สอดรับเทรนด์นักช้อปปิ้งยุคไซเบอร์
คนไทยคุ้นเคยกับกระเป๋าผ้าแบรนด์นารายามากว่า 25 ปี แต่รู้ไหมว่า ลูกค้าร้อยละ 75-80 เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ส่วนคนไทยยังซื้อไปเป็นของฝากของที่ระลึกมากกว่า แต่ก็มีแนวโน้มที่คนไทยหันมานิยมใช้กระเป๋าผ้ากันมากขึ้น
นับตั้งแต่ตั้งโรงงานเล็กๆ เมื่อปี 2536 ด้วยจักร 15 ตัวกับพนักงานเพียง 15 คน ภายใต้บริษัท นารายณ์ อินเตอร์เทรด จำกัด และเปิดร้านกระเป๋าผ้าแห่งแรกในห้างสรรพสินค้านารายณ์ภัณฑ์ ย่านราชประสงค์ นารายามีการเติบโตและขยายสาขามาอย่างต่อเนื่อง โดยจะมีเกือบ 40 สาขาทั้งในกรุงเทพมหานคร และเมืองใหญ่ๆ ในสิ้นปีนี้
กระนั้นก็ตาม วาสนา ลาทูรัส วัย ผู้บุกเบิกปลุกปั้นนารายา ก็ยอมรับว่า ถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทั้งด้านการบริหารจัดการ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงกลยุทธ์การตลาด เพื่อให้ทันสมัยและตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้หลากหลายมากขึ้น
วาสนา ประธานกรรมการบริหาร บอกว่า หลังจากลงทุนสร้างศูนย์กระจายสินค้าทันสมัยไปแล้วในปีที่ผ่านมา ปีนี้ นารายาทุ่มงบถึงพันล้านบาทเพื่อปรับโฉมร้านสาขาเซ็นทรัลเวิลด์ แตกไลน์แบรนด์ใหม่ และขยายสาขาเพิ่มขึ้นอีก 13 แห่ง นอกจากนี้ บริษัทได้ตั้งฝ่ายการตลาดขึ้นเป็นครั้งแรก โดยมีมืออาชีพอย่าง จอร์จ ฮาร์เทล (George Hartel) เข้ามาช่วยวางกลยุทธ์ ร่วมกับ พศิน ลาทูรัส - ลูกชาย เพื่อวางกลยุทธ์การตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อให้สามารถขยายตลาดได้มากขึ้น และสอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป
ร้านนารายา สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ บนพื้นที่กว่า 400 ตารางเมตร กลับมาอวดโฉมในคอนเซ็ปใหม่อีกครั้งในวันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคมนี้หลังปิดปรับปรุงนาน 4 เดือน โดยมีแบรนด์กระเป๋าและเครื่องประดับตกแต่งน้องใหม่เพิ่มขึ้นอีก 3 แบรนด์ คือ Naraสำหรับผู้ชายโดยเฉพาะ
Aphrodite เป็นแบรนด์พรีเมียมสำหรับผู้หญิง และ LaLaMaเป็นแบรนด์เสื้อผ้าและเครื่องประดับตกแต่งสไตล์โบฮีเมียน
ส่วน Evangelisa เป็นแบรนด์เสื้อผ้าและเครื่องประดับตกแต่งจากผ้าไหมที่ออกแบบในสไตล์ผ้าไหมไทยร่วมสมัย เพื่อให้สามารถสวมใส่ได้ทุกวัน และยังนำมามิกซ์แอนด์แมทช์ให้เข้ากับคาแรกเตอร์ของแต่ละคน
คุณวาสนา เล่าว่า นารายาสร้างแบรนด์ผลิตเสื้อผ้าและเครื่องประดับตกแต่งจากผ้าไหมเพราะส่วนตัวเป็นคนที่ชื่นชอบผ้าไหมมาก และเห็นว่าร้านผ้าไหมกำลังลดน้อยลงไปเรื่อยๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก ทำให้มีแนวคิดที่จะออกแบบเพื่อให้คนไทยสวมใส่ผ้าไหมไทยได้จริงในชีวิตประจำวัน ทั้งดีไซน์ที่ร่วมสมัย และการดูแลรักษาง่าย แต่การมาทำผลิตภัณฑ์ผ้าไหมไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะต้องไปหาช่างทอผ้าไหมฝีมือดีในหมู่บ้านทั้งภาคอิสานและภาคเหนือ และต้องใช้เวลาในการพูดคุยทำความเข้าใจเพื่อให้ชาวบ้านทอผ้าให้ได้คุณภาพมาตรฐานตามที่ต้องการอย่างสม่ำเสมอ
ขณะที่ จอร์จ ฮาร์เทล (George Hartel) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ นารายา กล่าวว่า นารายาขยายแบรนด์สินค้ามากขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่แตกต่างกัน โดยมุ่งขยายกลุ่มลูกค้าไปยังนักท่องเที่ยวจากยุโรปจากเดิมที่มีนักท่องเที่ยวเอเชีย โดยเฉพาะชาวจีน ญี่ปุ่น ฮ่องกง มาเลเซีย เป็นลูกค้าหลัก
เมื่อต้องการขยายฐานลูกค้าชาวต่างชาติให้กว้างขึ้น นารายาก็ต้องปรับทั้งดีไซน์และวัสดุที่ใช้ รวมถึงฟังก์ชั่นการใช้งานให้หลากหลายแตกต่างมากขึ้น เพราะสไตล์และความต้องการของชาวเอเชียกับยุโรปไม่เหมือนกันอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ นารายา ได้นำเทคโนโลยีทันสมัยที่เรียกว่า Magic Mirror มาติดตั้งในร้านเพื่อให้ลูกค้าสัมผัสประสบการณ์ใหม่ในการช้อปปิ้ง สอดคล้องกับพฤติกรรมการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป โดยลูกค้าสามารถเลือกกระเป๋ามาถือดูได้ว่า แบบไหนที่เหมาะกับตัวเอง และยังแชร์ภาพไปให้เพื่อนๆ ดูได้อีกด้วย
ไม่เพียงเท่านั้น นารายากำลังพัฒนาโปรแกรมเพื่อให้ลูกค้าสามารถสั่งซื้อสินค้าจากMagic Mirror หากรายการสินค้าที่ต้องการหมด โดยทางร้านจะจัดส่งไปให้ทั้งภายในและต่างประเทศ ซึ่งจะเปิดให้บริการได้ในปลายปีนี้
ขณะเดียวกัน นารายา ได้ขยายไปสู่อี-คอมเมิร์ซ โดยเริ่มให้บริการช้อปปิ้งออนไลน์ผ่าน lazada เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา โดยมีสินค้าให้บริการขณะนี้ 500 รายการ และจะขยายไปยังช้อปปิ้งออนไลน์อื่นๆ เช่น shoppee และ jd.com รวมไปถึงอีคอมเมิร์ซในประเทศจีนด้วย
สำหรับตลาดต่างประเทศ นารายา มีตัวแทนจำหน่ายในหลายประเทศ เช่น ไต้หวัน มาเลเซีย เวียดนาม กัมพูชา และเมียนมาร์ ส่วนที่ฮ่องกง เป็นร้านที่นารายาดำเนินการเอง
ถึงวันนี้ คุณวาสนา วัย 64 ปี ยังคงควบคุมดูแลการออกแบบด้วยตัวเอง และคาดหวังว่า ภายใน 3-5 ปีข้างหน้า นารายาจะกลายเป็นแบรนด์หรูระดับโลกในราคาที่ย่อมเยาว์ (affordable luxury brand) ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกได้สัมผัสถึงฝีมืออันประณีตของคนไทย
STORY BY L. patt