ใครๆ ก็บอกว่าเมืองเก่าของไฮเดลแบร์ก (Heidelberg) สวยน่ารักราวกับเมืองในเทพนิยาย นักท่องเที่ยวที่แวะเยือนเมืองนี้ทุกคนไม่พลาดที่จะเดินชมอาคารโบราณในย่านเมืองเก่า และเดินเล่นริมน้ำกินบรรยากาศชิลล์ๆ
แต่คงน่าเสียดายถ้าใครได้มาที่เมืองเล็กๆ ทางใต้ของเยอรมันแห่งนี้แล้วคิดว่าที่นี่มีแค่ตึกรามบ้านช่องจากศตวรรษ 18 ให้ชม เราขอแนะนำให้คุณเผื่อเวลาอย่างน้อยสองชั่วโมงออกจากย่านช้อปปิ้งแถวเมืองเก่าเพื่อชมวิวเมืองจากมุมสูง หรือสักครึ่งวันถ้าคุณอยากจะใช้เวลามากสักนิดเพื่อดื่มด่ำกับธรรมชาติและโบราณสถานนอกเส้นทางช้อปปิ้ง
นอกจากชื่อเสียงเรื่องความสวยงามเก่าแก่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมาที่เมืองนี้ปีละหลายล้านคน ตัวเลขนักท่องเที่ยวที่สำนักงานสถิติของรัฐบาลบาเดิน-เวือร์ทเท็มแบร์กบันทึกไว้ว่ามีนักท่องเที่ยวเยอรมันมาเยือนเมืองนี้มากถึง 16.1 ล้านคน และคนต่างชาติอีก 4.9 ล้านคนในปี 2016 น่าจะรับประกันได้ว่าเมืองไฮเดลแบร์กนั้นสวยแค่ไหน
ไฮเดลแบร์กที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศยังมีชื่อเสียงในเรื่องของคลินิกสุขภาพ และยังมีชื่อเสียงในเรื่องเป็นเมืองของการศึกษา เพราะมีมหาวิทยาลัยไฮเดลแบร์กที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศ เปิดสอนมาตั้งแต่ปี 1386 พร้อมกับห้องสมุดที่ดูขลังเพราะความเก่าแก่ไม่แพ้กัน ทำให้มหาวิทยาลัยแห่งนี้มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป แบบที่เรียกว่าใครเรียนจบที่นี่ได้ต้องเป็นหัวกะทิที่สุดแล้ว และห้องสมุดที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศเยอรมันเลยทีเดียว
ไฮเดลแบร์กอาจจะค่าครองชีพสูงกว่าเมืองอื่นๆ ในเยอรมัน แต่ข้อดีของเมืองนี้คือมีเขาสองลูกคือ Heiligenberg และ Konigstuhl ตั้งขนาบเมืองเอาไว้ทั้งสองฝั่ง โดยที่เขาด้าน Konigstuhl มีเคเบิลขึ้นบนยอดเขาตอนหน้าร้อน แต่ดียิ่งกว่านั้นคือเขาอีกฝั่งของเมืองมีเส้นทางเดินขึ้นเขาชื่อ Shlangenweg (Snake Path) ไปชมธรรมชาติและวิวเมืองไฮเดลแบร์กแบบไม่เสียสตางค์ แต่ต้องเหงื่อตกกันเล็กน้อยสำหรับคนที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย
เส้นทางนี้ได้ชื่อว่าเป็นงูเลื้อยเพราะมันซิกแซกขึ้นไปบนเนินเขา
เส้นทางนี้ไม่ควรพลาดเพราะเส้นทางเดินไม่ซับซ้อน ระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตรวนเป็นวงกลมกลับลงมาในเมือง ยังไงก็ไม่หลง แค่เดินข้ามสะพานจากย่านเมืองเก่าแล้วก็ขึ้นบันไดไปตามป้าย Shlangenweg ตรงซอยเล็กๆ ใกล้ทางข้าม ทางก็จะพาคุณเดินคดเคี้ยวไต่ขึ้นไป ช่วงแรกจะเป็นทางลาดผสมกับบันไดไปจนถึงเส้นทางเดินราบยาวที่ขนานไปกับเมืองพาคุณชมปราสาท บ้านเมืองโบราณจากมุมสูง เดินไปสักครึ่งทางจะเจอแผนที่แสดงผังเมืองโบราณบอกตำแหน่งของปราสาท โบสถ์ กำแพงเมืองโบราณที่ปัจจุบันบางจุดอาจจะไม่หลงเหลือให้เห็นแล้วในปัจจุบัน เช่น กำแพงเมือง
ถ้าคุณเดินวนซ้าย ขาลงก่อนถึงร้านอาหารและร้านกาแฟริมน้ำ คุณจะผ่านย่านบ้านหรูๆ ให้ชมเพลินๆ เส้นทางนี้ดีตรงที่ไม่ต้องเสียสตางค์สักบาท แค่เสียไขมันในร่างกายเล็กน้อยเพราะต้องเดินขึ้นเท่านั้น รถยนต์ที่ขึ้นได้มีเพียงแค่รถเก็บขยะหรือรถของเทศบาลที่ขึ้นไปจัดการแก้ไขซ่อมแซมอุปกรณ์ต่างๆ บนเขา เพื่อนเราที่อยู่ที่นี่มานานบอกว่า “ทุกคนที่นี่เขาเท่ากันทุกคนจ้ะ” เพราะต่อให้ตำแหน่งหน้าที่การงานใหญ่โต เป็นคนในเครื่องแบบ ขับรถเบนซ์สปอร์ต หรือจะฐานะดีขนาดมีบ้านตรงตีนเขา ก็ต้องจอดรถไว้ที่บ้านแล้วเดินเท้าขึ้นไปเหมือนกัน
ก็ธรรมชาติออกจะสวย อากาศก็แสนจะบริสุทธิ จะเอารถขึ้นไปทำไมกัน เดินขึ้นไปชมวิวแล้วสูดอากาศกันไวๆ สิ รออะไรกันอยู่
STORY BY Arinya
PHOTO BY Suwat Wiwatchanon