Provence – ไปชิมไวน์แดงในแคว้นแห่งโรเซ่
ตามกูรูไวน์ไปถิ่นผลิตโรเซ่ดั้งเดิมที่โพรวองซ์
หายหน้าหายตาไปนานก็เพราะไปเที่ยวยุโรปมา คราวนี้ไปนั่งครุยซ์ล่องทะเลเมดิเตอเรเนียนเลยอยากมาเล่าให้ฟังกัน
ก่อนออกเดินทางเราก็ดูว่าเรือแวะท่าไหนบ้างเพราะไปถึงเราก็อยากไปเที่ยวไร่องุ่นแถวนั้น โชคดีที่หนึ่งในเมืองที่แวะคือมาร์เซย์ก็เลยรีบดูทัวร์ที่เค้าพาไปเยี่ยมชมไร่องุ่น ทำไมต้องไปกับทัวร์ก็เพราะว่าไร่องุ่นในยุโรปเค้าไม่เหมือนในอเมริกานะ ที่อเมริกาพูดเลยว่าไร่ส่วนใหญ่จะอ้าแขนต้อนรับนักท่องเที่ยว แต่ที่ยุโรปส่วนใหญ่เน้นว่าส่วนใหญ่คุณจะเดินดุ่มๆเข้าไปไม่ได้นะ ต้องนัดล่วงหน้า โดยเฉพาะยี่ห้อดีๆ อย่าได้หวัง ต้องพึ่งพาคอนเนคชั่นนี่แหละ
สิ่งที่เราต้องพิจารณาในการเลือกทัวร์อันดับแรกก็คือหากคุณเป็นคนสนใจเรื่องไวน์คุณควรเลือกบริษัทที่เน้นการทำwine tour โดยเฉพาะ เพราะคุณจะได้ไกด์ที่มีความรู้เรื่องไวน์และสามารถอธิบายเรื่องต่างๆเกี่ยวกับไวน์ได้อย่างถูกต้อง และส่วนใหญ่พวกนี้จะพาไปไร่ดี ๆ ถ้าหากคุณเลือกบริษัททั่วไปเค้าอาจจะแค่ขับรถพาคุณชมทัศนียภาพไร่องุ่นเฉยๆ พูดได้แต่เรื่องทั่วไป และมักพาไปไร่องุ่นกลางๆที่มุ่งหวังนักท่องเที่ยวเยอะๆ ฉันเลือกบริษัทชื่อ Provence Wine Tour ...แหม่ คงไม่มีชื่อบริษัทอะไรจะจำเพาะเจาะจงได้ขนาดนี้นะ อีเมลติดต่อกันดูชื่อไร่องุ่นที่เขาจะพาไปก็ตกลง เอาล่ะ ลองดู
วันที่ 9 เมษายน เรือมาจอดที่ท่ามาร์เซย์ โอ้วตายแล้ว ทำไมเมฆครึ้มลมแรงขนาดนี้เล่า ออกจากเรือมาเราได้พบกับอีริค ไก์ดของเราในวันนี้ ก่อนที่จะมาเป็นไกด์ อีริคเคยทำงานในไร่องุ่นและทำไวน์มาก่อน จึงมีความรู้เกี่ยวกับพื้นที่และเทคนิคการผลิตไวน์อย่างดี ขึ้นรถมาสิ่งแรกที่เขาพูดคือ "คุณมาผิดวันมาก ปกติมาร์เซย์แดดออกตลอด คุณมาวันที่ลม Sirocco พัดเข้ามาพอดี"
Sirocco นอกจากจะเป็นชื่อร้านอาหารระดับดาวมิชลินในเมืองไทยแล้ว Sirocco ยังเป็นชื่อของลมที่พัดมาจากแอฟริกาตอนบนแถวๆทะเลทรายซาฮาร่า ลมนี้จะพัดผ่านทะเลเมดิเตอเรเนียนเข้ามายังตอนใต้ของฝรั่งเศสจึงนำเมฆฝนมาด้วย และฝนนี้ไม่ใช่น้ำเปล่าๆนะ ถ้าดูดีๆจะมีทรายผสมอยู่ ฝรั่งเศสเค้าจะมีการตั้งชื่อให้กับทุกสิ่ง ลมยังมีชื่อเลย และพอรู้ว่าที่มาที่ไปของเมฆฝนคืออะไร ฉันกลับรู้สึกตื่นเต้น เพราะในการศึกษาเรื่องไวน์ฉันต้องจำชื่อลมต่างๆที่พัดผ่านบริเวณต่างๆ โอ้ว นี่ฉันได้สัมผัส Sirocco แล้ว รู้สึกอารมณ์ตัวเองเหมือนแม่การะเกดเวลาได้ไปเที่ยวที่ต่างๆในอยุธยาตามที่นางได้เรียนมาเลย...
โพรวองซ์เป็นแคว้นที่ผลิตไวน์โรเซ่เป็นหลัก อาหารและบรรยากาศของโพรวองซ์มันเหมาะกับไวน์โรเซ่จริงๆนะ Bouillabaise กับโรเซ่ มันใช่เลย แต่เผอิญฉันเป็นคนชอบไวน์แดงและไวน์ขาวมากกว่าโรเซ่เลยเลือกไปในเขตที่เขาเน้นไวน์แดงนั่นก็คือเขต Bandol เขตนี้อาจไม่ค่อยเป็นที่รู้จักกันมากนักแต่ Bandol เป็นแหล่งผลิตไวน์แดงที่ดีที่สุดของโพรวองซ์
ไร่องุ่นที่เราไปชื่อ Domaine Bunan โดยโดเมนแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ.1961 โดย Paul and Pierre Bunan และมีการปลูกองุ่นทำไวน์ต่อเนื่องกันมาจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน วันที่ไปยังเจอคุณ Paul เดินตรวจตรากิจการภายในไร่องุ่นอยู่
ไวน์ Bandol เป็นไวน์ที่ไม่ได้มีความหรูหราอะไรถ้าเทียบกับบอร์โดซ์หรือเบอร์กันดี แต่มันเป็นไวน์แห่งท้องถิ่น สีเข้ม นุ่ม ดื่มได้แบบไม่ต้องคิดอะไรมาเพราะราคาไม่ได้แพง ซึ่งองุ่นหลักที่ใช้คือพันธุ์ Mourvedre ผสมกับ Grenache กับ Syrah และพันธุ์ย่อย ๆ อีก ไกด์อีริคของเราดูท่าทางจะรู้จักกับที่นี่ดีเพราะเขาเป็นคนพาเราเดินดูไร่องุ่นและห้องหมักและบ่มไวน์เองพลางอธิบายทุกจุดอย่างละเอียด เราก็พอมีความรู้เรื่องไวน์อยู่บ้างก็รู้เลยว่าไม่มั่วแน่นอน
การผลิตไวน์ของที่นี่ยังทำกันแบบดั้งเดิมและใช้ถังไม้โอ๊คขนาดใหญ่บ่มไวน์ ซึ่งที่นี่เค้ามีการตั้งชื่อถังบางถังตามชื่อหลานของเขาด้วยนะ (บอกแล้วว่าคนที่นี่เขาชอบตั้งชื่อให้ทุกสิ่งอย่าง) ที่นี่เขาผลิตทั้งไวน์แดง ไวน์ขาว และโรเซ่ แต่ไวน์แดงของเขาจะซีเรียสที่สุด และมีหลายรุ่น โดยรุ่นที่ถือว่าดีที่สุดของเขาคือ Chateau la Rouviere ซึ่งสามารถเก็บได้นานเลย ก่อนกลับฉันซื้อไวน์เป็นที่ระลึกกับน้ำมันมะกอกที่ทางโดเมนนี้ผลิตเองอีกขวดหนึ่ง เพราะในโพรวองซ์องุ่นกับมะกอกเขาจะปลูกใกล้ๆกัน เรามักจะเห็นภาพไร่องุ่นมีต้นมะกอกแซมเสมอ
ถัดจากBandol ไกด์พาเรามุ่งหน้าไปต่ออีกเมืองหนึ่งแต่จะเป็นเมืองอะไรโปรดติดตามคราวหน้านะ
STORY AND PHOTO BY สริยา กัมปนาทแสนยากร