HAPPENING BKK
NLINE MAGAZINE
×
พาชมนิทรรศการใหญ่ที่มีไม่บ่อยครั้งของดีไซเนอร์สายดาร์ก
by ขเจน
10 เม.ย. 2561, 18:50
  1,819 views

       มิลานไม่ได้เป็นแค่เมืองช้อปปิ้งเมืองใหญ่ แต่ยังมีนิทรรศการแฟชั่นดี ๆ จัดให้ชมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหนึ่งในนิทรรศการแฟชั่นที่เพิ่งจบลงไปหมาด ๆ ในมิลานคือ SUBHUMAN INHUMAN SUPERHUMAN ของดีไซเนอร์สายดาร์กอย่าง Rick Owens ที่ต้องบอกว่า นอกจากความดาร์ก ริคยังมีอะไรมากกว่านั้นอีกมาก

 

      เป็นอีกครั้งที่เราพาตัวเองกลับไปมิลานอย่างไม่ได้คาดคิดมาก่อน เพราะจริง ๆ หลังจากที่เคยมาเที่ยวเล่นที่เมืองนี้สองครั้งก็พบว่า มิลานเป็นเมืองช้อปปิ้งที่สนุกดี อากาศกำลังโอเค แม้ว่านักท่องเที่ยวจะหนาแน่นหน่อย แต่ก็เดินได้พอเพลิน ๆ แน่นอนว่าให้ไปบ่อยก็ไปได้ตลอด แต่ถ้าไปแล้วเดินชมร้านรวงมากเข้าก็รังแต่จะพาเสียสตางค์เปล่า ๆ ก็เลยทำให้คิดว่าเราคงจะไม่ได้กลับไปมิลานอีกนานที่สุดเท่าที่จะนานได้

      จนกระทั่งอยู่ดี ๆ ก็อ่านข่าวเจอว่า ขุ่นพ่อ Rick Owens ดีไซเนอร์คนโปรดอีกคนจะมีนิทรรศการใหญ่ที่ไม่ค่อยมีบ่อยครั้งนัก​ โดยที่ริคลงมาคุมงานเองในทุกรายละเอียด เอาผลงานที่สร้างไว้ตลอดยี่สิบปีที่ผ่าน มา มาโชว์กันเต็มที่ โดยผลงานที่เอามาโชว์ไม่ได้มีแค่เสื้อผ้า แต่มีอีกหลายอย่าง โดยเฉพาะเฟอร์นิเจอร์ และอีกหลายงานออกแบบที่ริคเคยเอาตัวเข้าไปพัวพัน ก็พอดีกับที่วางแผนจะไปยุโรปอยู่แล้ว จึงตัดสินใจบินอ้อมไปแวะมิลานหนึ่งวันหนึ่งคืน..เพื่อสิ่งนี้โดยเฉพาะ

      แล้วก็เป็นการอ้อมไปแวะ(และเสียค่าตั๋วเครื่องบิน)ที่คุ้มค่าเหลือเกิน แค่เดินเข้าไปในโถงทางเดินของ Triennale di Milano สถานที่จัดงานแล้วหันไปเห็นทางเข้าตัวนิทรรศการก็ตื่นเต้นละ พอเดินผ่านทางเข้าที่เป็นเหมือนช่องแคบเพดานสูงไป เราจะพบกันห้องที่มืดสนิท มีแค่แสงไฟส่องเป็นฉากกั้นก่อนหลุดเข้าไปยังส่วนถัดไป ในห้องมืดนี้ ภัณฑารักษ์ผู้จัดงานนิทรรศการนี้เขียนคำบรรยายไว้สั้น ๆ ว่า สิ่งที่คุณจะได้พบด้านในไม่ใช่เพียงแค่งานแฟชั่น แต่คืองานแฟชั่นที่หลอมรวมเอาศิลปะแขนงอื่นมาไว้ด้วยกัน โดยที่ริคใช้ภาพเป็นเครื่องมือในการบรรยายและพาคุณเข้าสู่เขตแดนอันไร้สติ​ (อยากแปลคำว่า “territories of the unconscious” แบบนี้ในบริบทของริค 55) ที่ซึ่งเสื้อผ้าได้กลายเป็นงานสถาปัตยกรรมที่กระตุ้นเร้าสัญชาตญาณภายในตัวคุณ

 

     ฟังดูนามธรรมมาก แต่รูปธรรมที่เห็นตรงหน้าหลังผ่านห้องมืดเข้าไปคืองานออกแบบเสื้อผ้าของริคที่ยืนยันสิ่งที่เราเคยพูดไปแล้วและยังพูดอยู่เนือง ๆ ว่า งานออกแบบของริค แม้มองเผิน ๆ ดูเหมือนมีแค่สีดำกับขาวเป็นส่วนใหญ่ และออกแบบมาในรูปทรงที่อาจจะอยู่นอกกรอบรูปทรงเสื้อผ้าอย่างที่เราสวมใส่กันอยู่ทุกวันไปบ้าง (ก็ไม่บ้างนะบางที) แต่ถ้าเข้าไปพิจารณากันใกล้ ๆ ดี ๆ จะพบว่าเสื้อผ้าของเขาตัดเย็บอย่างถึงรายละเอียด ด้วยวัสดุที่ดีที่สุด ด้วยแนวความคิดที่สุดโต่งไม่ประนีประนอม และพอหยิบมาใส่แล้วจะรู้ได้ทันทีว่า สิ่งที่เราใส่อยู่นี้มัน unique แค่ไหน

      ริคไม่ได้มีคำอธิบายอะไรใด ๆ ละเอียดนักสำหรับการนำเสื้อผ้ามาแสดงเป็นกลุ่ม ๆ แต่ให้เราพูดเองเออเองด้วยความรักในงานอย่างมีอคติก็ต้องบอกว่า เสื้อผ้าผู้หญิงของริคเต็มไปด้วยดีเทลที่ละเอียดอ่อนเหลือเกิน บางชิ้นเราว่าอีกนิดนึงก็งานกูตูร์แล้วนะ ในขณะที่เสื้อผ้าผู้ชายก็ไปสุดทางทั้งในแง่ดีไซน์​ การเลือกใช้วัสดุต่าง ๆ และการนำเสนอมันออกมา อีกอย่างที่สุดทางคือหลายอย่างในตู้กระจกเช่นภาพถ่ายแรง ๆ ที่ริคบันทึกไว้นานแล้ว หรือว่าเฟอร์นิเจอร์หุ้มหนัง/ขนสัตว์ที่เรารู้สึกว่า พี่ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อให้ใครซื้อไปวางไว้ในบ้านแล้วมันจะเข้ากับชิ้นอื่น ๆ ในบ้านกันเลยเนาะ (แต่ขอโทษ ไปลองนั่งเพราะเค้าให้นั่งได้แล้วก็พบว่า เฮ้ย มันนุ่มสบายก้นมากกว่าที่คิดไว้เยอะเลย!)

 

     ริคพูดไว้ใน press release ตอนเปิดตัวนิทรรศการว่า “เสื้อผ้าที่ผมออกแบบคือชีวประวัติส่วนตัวของผม ทุกชิ้นคือความงดงามและความสุขุมในแบบที่ผมอยากไปให้ถึง ในขณะเดียวกันมันยังเป็นรอยแผลที่ผมสร้างขึ้นระหว่างทางด้วย มันทั้งหมดคือการแสดงออกซึ่งความอ่อนโยนมากเท่าที่มันคือการแสดงออกถึงอีโก้ที่ผมมี มันยังเป็นการทำตามอุดมคติของวัยหนุ่มพร้อมกับที่มันคือความพ่ายแพ้อย่างไร้ทางหลีกเลี่ยง”

      ใครจะเข้าใจพี่อย่างไรจากประโยคที่พูดมา อันนี้ก็แล้วแต่สะดวก แต่พอเราเดินดูมาจนถึงส่วนสุดท้ายของนิทรรศการที่ต้อนรับเราด้วยโถงมืด ๆ ซึ่งมีการฉายคลิปวิดีโอสี่คลิปเต็มกำแพงสองฝั่งจากต่างมุมมองของแฟชั่นโชว์ของริคหลาย ๆ โชว์ เราก็ได้แต่นั่งฟินที่ได้มาชมโชว์ของพี่ในบรรยากาศสุดขลังเบอร์นี้ หลังจากที่เดินเมียงมองจ้องดูงานออกแบบของพี่มาตลอดทางในวันนี้

    ใครมีโอกาสแวะมามิลานแล้วอยากดูนิทรรศการนี้ เสียใจที่จะต้องพูดว่า นิทรรศการจัดเป็นวันสุดท้ายในวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งในฐานะแฟนและคนที่ผูกพันกับ deadline เสมอ ๆ อยากจะพูดว่า ดีใจโคตร ๆ ที่เดินทางไปถึงและทันได้ดูในสัปดาห์สุดท้ายพอดี #อมยิ้ม

 

STORY AND PHOTO by:  ขเจน

ABOUT THE AUTHOR
ขเจน

ขเจน

ทำงานเขียนในบริษัทพีอาร์ แต่ว่าบ้าหนังและชอบแฟชั่นจนพาตัวเองออกเดินทางแรดอะราวด์ไปทั่วโลกเพื่อดูหนังและชาบูดีไซเนอร์ที่ชอบ แต่ทุกคนคิดว่าหาเรื่องไปช้อปปิ้งมากกว่า #เอิ่ม

ALL POSTS