กินผักดีต่อสุขภาพแน่นอนถ้ารู้และเข้าใจเรื่องผัก
ได้ยินมาตั้งแต่เด็กๆ ว่ากินผักแล้วดี โตมาก็มีแคมเปญรณรงค์ “ผักครึ่งหนึ่ง อย่างอื่นครึ่งหนึ่ง” ทุกวันนี้ก็ยังคงเชื่อว่าการกินผักนั้นดีต่อสุขภาพจริงๆ

แต่โลกใบนี้ช่างซับซ้อนยิ่งนัก ได้รับรู้เรื่องราวของผักมามาก จนอยากจะกลับไปเป็นชาวไร่เสียเอง เพราะกระบวนการปลูกผักในเชิงธุรกิจ อาศัยยาฆ่าแมลงและสารเคมีหลากชนิด ทำให้ภาพของผักทั่วไปในท้องตลาดดูน่ากลัวเสียจนไม่อยากเข้าใกล้ แต่จะทำอย่างไรเมื่อใจมันรักจนขาดผักไม่ได้เสียแล้ว

กลับมามองที่ท้องตลาด พบว่า ปัจจุบันมีผักที่เรียกกันว่า “ผักปลอดสาร” อยู่มากมาย ทั้งผักออร์แกนิค ผักอินทรีย์ ผักไร้สาร ผักปลอดสาร ผักปลอดสารพิษ ผักไฮโดรโปนิกส์ ผักธรรมชาติ ผักอนามัย ชื่อต่างกันออกไป แล้วมันเหมือนกันไหม
ได้รู้ได้กระจ่าง เมื่อได้ไปเที่ยว
“คลีนฟาร์ม” ซึ่งอยู่ที่ อ.หนองแซง จ.สระบุรี โดยมีโครงการฉลาดเลือกอาหารปลอดภัยกับสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) เป็นผู้จัดขึ้น เป็นอันกระจ่างและสรุปได้ว่า

คำว่า “ผักปลอดสาร” มาจากคำเต็มว่า “ผักปลอดภัยจากสารพิษ” ซึ่งหมายถึงผักที่ปลอดภัยจากสารพิษตกค้าง ซึ่งเรียกผักกลุ่มนี้ว่า “
ผักปลอดภัย” ตามมาตรฐาน GAP (Good Agricultural Practice) โดยไม่มีสารเคมีตกค้างหรือมีในปริมาณที่ไม่เกินระดับมาตรฐานความปลอดภัยที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดไว้ ซึ่งมีเครื่องหมาย Q เป็นตัวรับประกัน
ส่วนผักที่ไร้สารเคมีจริงๆ คือผักในกลุ่ม “ผักออร์แกนิค” หรือ “ผักอินทรีย์” เป็นผักที่ปลูกโดยไม่ใช้สารเคมีสังเคราะห์ต่างๆ ทุกชนิด มีกระบวนการตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำที่รักษาสมดุลของระบบนิเวศ
ขณะที่ไฮโดรโปนิกส์ เป็นการปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน แต่ใช้ธาตุอาหารชนิดน้ำ ซึ่งหมายถึงสารเคมี ผักไฮโดรโปนิกส์จึงไม่ใช่ผักอินทรีย์
เราได้เข้าชมกระบวนการปลูกผักอย่างครบวงจร ในคลีนฟาร์ม ซึ่งเป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและการเรียนรู้ในการปลูกผักปลอดภัยตามมาตรฐาน GAP ซึ่งมีกว่า 50 โรงเรือน บรรดาผักต่างๆ ชูช่อออกดอกออกผลให้ชื่นใจตลอดเส้นทางการเรียนรู้


แต่ความยากลำบากของเส้นทางผักปลอดภัยต่างๆ ก็คือเรื่องของการปลูกที่ซับซ้อน เป็นที่มาให้มีราคาที่สูงกว่าผักโดยทั่วไปตามท้องตลาด มันก็ยากสำหรับเส้นทางการส่งเสริมให้คนไทยที่มีอำนาจในการตัดสินใจซื้อน้อย จำต้องกินผักที่ตัวเองไม่แน่ใจถึงความปลอดภัยกันต่อไป
ดังนั้นเรื่องของการกินผักหรืออาหารที่ปลอดภัย มันก็เหมือนการลงทุนให้กับร่างกายในอนาคต วันนี้อาจจะไม่เห็นคุณค่า แต่วันที่ล้มลงคงจะเข้าใจว่าความหมายคืออะไร ค่ายาค่ารักษาอีกก้อนโตจะตามมาอีกเท่าไหร่ เหมือนที่
คุณธนิดา ขุนนา เจ้าของ “คลีนฟาร์ม” เล่าว่า เธอเองก็ป่วยหนักจากการรับประทานอาหารที่มีสารพิษตกค้าง เลยหันมาหาทางปลูกผักกินเอง จนขยายผลเป็นผักที่ปลอดภัยส่งขายให้กับลูกค้าในตัวจังหวัด โดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลางด้วยนะ

ไม่แน่ว่ากลับมาคุณอาจจะปลูกผักกินเองได้ และคงสบายใจกว่าเยอะเลย