ท่องโลกแฟชั่นที่ "ฮ่องกง"
ใครบอกว่าเมืองแฟชั่นมีแค่ปารีส นิวยอร์ก มิลาน หรือว่าลอนดอน เมืองไหนๆ ก็เป็นเมืองแฟชั่นได้หมด และฮ่องกงก็เช่นกัน
ถ้าพูดถึงฮ่องกง หลายคนก็คงจะรู้จักมักคุ้นกันดีอยู่แล้ว เพราะเป็นเมืองที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านเรา การเดินทางก็ง่าย บินแค่ไม่ถึงสามชั่วโมงดีก็ไปถึง ไฟลท์ของสายการบินต่าง ๆ ทั้งโลวคอสต์แอร์ไลน์และสายการบินแบบฟูลเซอร์วิสก็มีให้เลือกมากมายเต็มไปหมด อาหารการกินในภาพรวมก็อร่อยถูกปากคนไทย ที่สำคัญ ฮ่องกงยังเป็นเมืองปลอดภาษีที่อะไร ๆ ก็ดูเหมือนจะราคาดีน่าช้อปไปเสียหมด (โดยไม่ต้องเสียเวลามาขอภาษีคืนที่สนามบินตอนกลับบ้านด้วย) แล้วด้วยความที่ฮ่องกงเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่บูมสุดทั้งสำหรับคนฮ่องกงเอง คนจีนบ้านใกล้เรือนเคียง (จริง ๆ ต้องพูดว่าคนบ้านเดียวกันสิเนอะ) และชาวต่างชาติจากที่อื่น ๆ โดยเฉพาะขาช้อปชาวไทย แบรนด์แฟชั่นต่าง ๆ จากทั่วทุกมุมโลกจึงไม่พลาดที่จะต้องมาเปิดร้านใหญ่โตเบ้อเริ่มเทิ่มกันที่นี่ให้ไม่น้อยหน้ากัน ทั้งหมดนี้ทำให้หลายคนเลือกฮ่องกงเป็น shopping destination สำคัญที่ไปบ่อยเท่าไหร่ก็ไม่มีเบื่อ
เราเองก็ไปฮ่องกงมานับครั้งไม่ถ้วนเพราะอันที่จริงเรายังมี passion อีกด้านของการเป็นคนบ้าหนัง แล้วฮ่องกงก็มีเทศกาลหนังดี ๆ มาจัดกันอยู่เรื่อย ๆ เราจึงผูกมิตรชิดใกล้กับฮ่องกงชนิดไปอย่างน้อยปีละครั้งมาทุกปีตลอดห้าหกปีมานี้
อย่างไรก็ตาม ไม่ได้จะมาพูดเรื่องอื่นนอกจากแฟชั่นเนอะ สัปดาห์นี้เราคิด ๆ อยู่ว่า ไหน ๆ ก็ไปฮ่องกงบ่อยจัง และนอกเหนือจากการไปตระเวนดูหนังแล้ว เราก็แอบแวะไปชี้ชมสินค้าแฟชั่นในร้านค้าต่าง ๆ มากมายมาทั่วเกือบจะทั่วฮ่องกงแล้วด้วยเหมือนกัน ก็ขออนุญาตเก็บมาเล่าสู่กันฟังบ้างดีกว่า
ฮ่องกงเป็นเมืองช้อปปิ้งที่ไม่ว่าย่านไหนก็มีห้างร้านให้เดินแวะเข้าไปดูเต็มทั้งเมือง แต่ถ้าเอาที่เป็นไฮไลต์สำหรับเรา มันก็จะมีอยู่สองสามโลเคชั่นที่ต้องแวะเสมอ เริ่มที่ฝั่งเซ็นทรัล เวลานั่งรถไฟใต้ดินไปลงสถานี Central แล้ว ก็ขอให้เริ่มที่ห้าง Landmark ก่อนที่อื่น เพราะสถานีรถไฟใต้ดินมันเชื่อมกับห้าง เราสามารถเดินเข้าห้างนี้ได้เลย สำหรับคุณผู้ชาย ชั้น basement ของ Landmark เป็นชั้นชายล้วน แบรนด์ใหญ่ ๆ อย่าง Valentino, Fendi, Dior หรือว่า Kenzo ล้วนมาเปิดร้านผู้ชายอยู่ตรงนี้กันหมด แค่ชั้นเดียวนี้ก็แทบจะเรียกได้ว่าเก็บครบทุกแบรนด์ใหญ่แล้วเลยสำหรับคุณผู้ชาย ส่วนของคุณผู้หญิง ทั้งห้าง Landmark ที่เหลือเป็นของคุณ เพราะ Gucci, Dior, Celine, Bottega Veneta, Valentino, Louis Vuitton ก็อยู่ตรงนี้กันครบ
Victoria Beckham Store
แต่เราคิดว่า ร้านที่เป็นไฮไลต์ในห้างนี้ที่เราว่าน่าดูคือ 1) Dries Van Noten ที่เพิ่งย้ายโลเคชั่น ทำให้ร้านมีขนาดเล็กลงไปนิด แต่ถ้าใครชอบเสื้อผ้าที่มาพร้อมลายพริ้นท์สวย ๆ DVN ตอบโจทย์แน่นอน และ 2) Victoria Beckham ที่เพิ่งมาเปิดในฮ่องกงที่แลนมาร์คเป็นที่แรก ร้านเค้าใหญ่และมีอะไรให้เลือกเยอะมากหรือ 3) ใครเป็นแฟน Sex and the City ที่นี่ยังแอบมีร้านรองเท้าดังของ Manolo Blahnik ด้วยนะ
จบจากแลนมาร์ค ขอให้เดินอ้อมห้างมาที่ถนน Ice House Street ที่อยู่ติดกัน เพราะที่นี่ยังมีแบรนด์ไม่ใหญ่ไม่เล็กที่น่าดูชมอีกหลายแบรนด์ ไล่ตั้งแต่ Acne Studios จากสวีเดน Comme des Garcons จากญี่ปุ่น No.21 จากอิตาลี Ann Demeulemeester จากเบลเยี่ยม Isabel Marant จากฝรั่งเศส รวมถึงแบรนด์สตรีทแวร์ดังเหลือเกินอย่าง Off-White ที่เพิ่งมาเปิดอยู่ตรงนี้ และ I.T หนึ่งในหลาย ๆ สาขาของร้านมัลติแบรนด์ร้านหนึ่งที่น่าแวะในฮ่องกง
จากนั้นขอให้ข้ามถนน Queen’s Road Central ไปฝั่งตรงข้ามของแลนมาร์ค แล้วแวะเข้าไปใน Joyce บนตึก New World Tower ต้องอธิบายกันเล็กน้อยว่า Joyce เป็นอีกหนึ่งร้านมัลติแบรนด์ที่รวมแบรนด์แฟชั่นใหญ่น้อยไว้ด้วยกันในที่เดียว ถ้าจะเทียบในไทยก็คงเทียบได้กับ Club 21 แต่ Joyce ใหญ่กว่า และที่สาขา New World Tower ซึ่งหลังปรับโฉมก็ใหญ่เอามาก ๆ มีหนึ่งชั้นใหญ่ ๆ อุทิศให้กับเสื้อผ้าบุรุษ อีกหนึ่งชั้นสำหรับเสื้อผ้าสตรี และอีกหนึ่งชั้นสำหรับเครื่องสำอางและแอคเซสซอรี่ เข้าไปที่นี่ที่เดียวคุณอาจจะพบกับแบรนด์แฟชั่นทุกแบรนด์ในโลกนี้ 55 ไม่ได้เว่อ มันเยอะอย่างนั้นจริง ๆ จบจาก Joyce อยากให้เดินเลย Queen’s Road Central มาเลี้ยวซ้ายแล้วเข้าไปที่ถนน On Lan Street ตรงนั้นมีร้าน Christian Louboutin อยู่ปากซอย ส่วนถ้าเลี้ยวเข้าไปก็จะเจอ Rick Owens, Thom Browne, Sacai และ J.Crew Men รวมอยู่ด้วยกัน เดินเพลินทีเดียวเชียวแหละ
Joyce Hong Kong
อ้อ แต่ถ้าพูดถึง Joyce แล้วก็ต้องพูดถึง Lane Crawford ด้วย เพราะ Lane Crawford เป็นอีกหนึ่งร้านมัลติแบรนด์ใหญ่มากของฮ่องกง ถ้าเป็นสาขาที่ฝั่งเซ็นทรัล ก็ต้องเดินจากย่านแลนมาร์คมาที่ IFC Mall ซึ่งที่นี่ก็เป็นห้างใหญ่ที่มีอะไรให้เดินดูเยอะมากเหมือนกัน (ร้าน Apple ที่ใหญ่มาก ๆ สาขาหนึ่งในฮ่องกงก็อยู่ตรงนี้) ส่วนถ้าข้ามมาฝั่ง Tsim Sha Tsui ที่คนไทยเรียกว่าจิมซาจุ่ย (ส่วนคนฮ่องกงเรียกอะไรเราก็ไม่รู้หรอก 55) Lane Crawford ก็มีอีกหนึ่งสาขาที่ใหญ่บึ้มที่ Harbour City ซึ่ง..จริง ๆ ถ้าไม่ข้ามไปเดินเซ็นทรัล เดิน Harbour City ที่เดียวก็อาจจะปิดจ๊อบการช้อปปิ้งในฮ่องกงได้เหมือนกัน เพราะห้างนี้ใหญ่มากกกก (ก ไก่ล้านตัว) และมีทุกแบรนด์รวมกันอยู่เสร็จสรรพในห้างเดียวแห่งนี้
อันนี้พูดในภาพรวมของห้างร้านและแบรนด์แฟชั่นในฮ่องกงอย่างคร่าว ๆ จากฝั่งเซ็นทรัลและจิมซาจุ่ย แต่ถ้ามีเวลาเหลือจะแวะไปทาง Causeway Bay ก็มีห้างร้านและแบรนด์เล็กแบรนด์ใหญ่ให้ดูชมเยอะไม่แพ้กัน อย่างไรก็ตาม ถ้าจะสรรหาของดีราคาถูก เรามีอีกสองที่ที่อยากแนะนำ
- เดินข้ามถนนจาก Harbour City มาที่ Silvercord บนชั้น 5 คุณจะพบกับ I.T Outlet พร้อมสินค้าแบรนด์เนมลดราคาตั้งแต่ 50-85%
- สำหรับการตะลุย outlet แบบจริงจังที่ฮ่องกง คุณควรต่อรถไฟใต้ดินสายสีเขียวอ่อนจากสถานี Central ไปโผล่สถานี South Horizons เดินออกมาจากสถานีไม่ไกลคุณจะเจอกับ Prada Outlet ตรงนี้อาจจะปิดจ๊อบได้เลยสำหรับหลายคน 55 แต่ถ้ายังไม่ปิดจ๊อบ เราอยากให้เดินไป Horizon Plaza ซึ่งอยู่ไกลออกไปราวๆ 800 เมตร (ต้องเดินหรือไม่ก็เรียกแท็กซี่เอา แต่เราว่าเดินไหวอยู่) ที่นั่นเป็นตึก outlet ที่รวมทุก outlet ไว้ด้วยกันหมด คือมีทั้ง outlet ของ Joyce, Lane Crawford และ I.T ไปจนถึง outlet ของ Saint Laurent, Armani, Marc Jacobs, Marni และอีกเป็นสิบ ๆ แบรนด์ในราคาลดหมดทุกชิ้น
คำเตือน: คุณอาจจะใช้เวลาทั้งวันในการอยู่ที่ outlet แห่งนี้ บริหารเวลาให้ดี ไม่ต้องซื้อเพราะเห็นว่ามันถูกก็ได้ แค่ไปหยิบจับลองใส่เล่นก็สนุกแล้ว บอกเลย!
STORY BY ขเจน